คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลยกคำพิพากษา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2021/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ vs. ประเด็นละเมิดต่างกัน: ศาลยกคำพิพากษาเดิมให้พิจารณาใหม่ และคืนค่าขึ้นศาลส่วนเกิน
คดีก่อนจำเลยที่2คดีนี้เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นจำเลยอ้างว่าจำเลยที่2เป็นผู้เช่าที่ดินจากจำเลยที่1คดีนี้เพื่อประกอบเกษตรกรรมต่อมาจำเลยที่1ได้ขายที่ดินให้แก่โจทก์โดยโจทก์ทราบดีว่าจำเลยที่2เช่าที่ดินทำกสิกรรมอยู่และจำเลยที่1มิได้แจ้งให้จำเลยที่2ทราบก่อนทำให้จำเลยที่2ขาดโอกาสที่จะซื้อที่ดินได้ก่อนตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ.2524ขอให้บังคับโจทก์โอนขายที่ดินแก่จำเลยที่2ประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในคดีก่อนจึงมีว่าจำเลยที่2เป็นผู้เช่าที่ดินจากจำเลยที่1และมีสิทธิที่จะซื้อที่ดินก่อนโจทก์หรือไม่ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่1และที่2ได้สมคบร่วมกันฉ้อฉลโจทก์โดยจำเลยที่1ได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานที่ดินว่าที่ดินที่จำเลยที่1ขายให้โจทก์ไม่ได้ให้เช่าและจำเลยที่2และจำเลยที่1กับโจทก์ได้ตกลงกันให้โจทก์จ่ายค่าตอบแทนแก่จำเลยที่2ในการออกจากที่ดินเป็นเหตุให้โจทก์ตกลงซื้อที่ดินจากจำเลยที่1และชำระค่าตอบแทนแก่จำเลยที่2ไปภายหลังจำเลยที่1กลับให้ถ้อยคำเท็จต่อกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบลว่าจำเลยที่2เป็นผู้เช่าที่ดินดังกล่าวเป็นเหตุคณะกรรมการเช่าที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมประจำจังหวัดมีมติให้โจทก์ขายที่ดินแก่จำเลยที่2และต่อมาศาลพิพากษาบังคับโจทก์ทำให้โจทก์เสียหายขอให้บังคับจำเลยทั้งสองส่งมอบการครอบครองที่ดินให้แก่โจทก์หากไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้ให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าสินไหมทดแทนประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้มีว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่และโจทก์ได้รับความเสียหายเพียงใดซึ่งต่างกับประเด็นในคดีก่อนจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ โจทก์อุทธรณ์และฎีกาเพียงขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดีเป็นการอุทธรณ์และฎีกาที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาเพียง200บาทตามตาราง1ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(2)(ก)แต่โจทก์เสียมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์จึงต้องคืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาส่วนที่เกินแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ซ้ำและการสิ้นสุดสิทธิอุทธรณ์ เมื่อศาลพิพากษาใหม่หลังยกคำพิพากษาเดิม
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย โดยมิได้ชี้ขาดความผิดของจำเลย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษา ศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่โดยให้ชี้ขาดความผิดของจำเลย เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่แล้ว ถ้าคู่ความประสงค์จะอุทธรณ์ ก็ต้องอุทธรณ์ขึ้นมาใหม่ จะอาศัยอุทธรณ์ฉบับเดิมไม่ได้ เพราะอุทธรณ์ฉบับเดิมเป็นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาครั้งแรกของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8973/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเงินค่าธรรมเนียมพร้อมอุทธรณ์: การไม่ต้องวางเงินซ้ำเมื่อศาลยกคำพิพากษาเดิม
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาครั้งแรกให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากที่ดินพิพาท ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท จำเลยอุทธรณ์โดยนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางพร้อมกับอุทธรณ์ครบถ้วนแล้ว ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและยกอุทธรณ์ของจำเลย ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำพิพากษาใหม่โดยให้มีผู้พิพากษาครบองค์คณะ ให้คืนค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์แก่จำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์นอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ แต่จำเลยยังไม่ได้ขอรับเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนโจทก์ที่วางไว้ต่อศาลชั้นต้นคืน ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาครั้งที่สอง ให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากที่ดินพิพาท ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนด ค่าทนายความ 3,000 บาท กรณีถือว่าจำเลยได้นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางต่อศาลพร้อมกับอุทธรณ์แล้ว จำเลยจึงไม่ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางพร้อมอุทธรณ์เพิ่มเติมอีก ทั้งไม่จำต้องมีคำขอให้เอาเงินดังกล่าวมาวางพร้อมอุทธรณ์ครั้งที่สองด้วย อุทธรณ์ของจำเลยครั้งที่สองจึงเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 229 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4407/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าจ้างว่าความ, การพิจารณาคดีหลังยกคำพิพากษา, กระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับการเรียกค่าจ้างว่าความขาดอายุความแล้ว โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เห็นว่า สิทธิเรียกร้องของโจทก์ในการเรียกเอาค่าจ้างว่าความยังไม่ขาดอายุความ จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี เมื่อไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ประเด็นเรื่องอายุความจึงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ศาลชั้นต้นจึงต้องดำเนินการพิจารณาแล้วมีคำพิพากษาใหม่เฉพาะในประเด็นเรื่องค่าจ้างว่าความเท่านั้น
ศาลชั้นต้นสืบพยานจนเสร็จสิ้นกระแสความและมีคำพิพากษาแล้ว เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ศาลชั้นต้นจึงชอบที่จะนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นต่อไปได้ โดยไม่ต้องกำหนดวันนัดพิจารณาอีก
จำเลยฎีกาโต้แย้งกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น ประเด็นตามฎีกาของจำเลยมิได้มีผลเกี่ยวกับทุนทรัพย์ในคดี จำเลยจึงต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์จำนวน 200 บาท ตามตาราง 1 (2) (ก) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง