คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลสอบถาม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพในคดีอาญา ศาลต้องสอบถามให้ชัดเจนถึงข้อหาที่รับสารภาพเพื่อความถูกต้องของกระบวนการยุติธรรม
ศาลชั้นต้นอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้วว่า โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยในข้อหาใด บ้าง แล้วจึงถาม คำให้การจำเลยที่ 4 และที่ 5 ซึ่ง จำเลยทั้งสองก็ให้การ รับสารภาพว่าได้ กระทำ ผิดจริงตาม ฟ้อง แสดงว่ารับสารภาพในทุกข้อหาตาม ที่โจทก์บรรยายในฟ้องและศาลอาจลงโทษจำเลยในทุกข้อหาดังกล่าวได้ ศาลชั้นต้นไม่จำต้องถาม จำเลยทั้งสองต่อไปอีกว่า จำเลยทั้งสองรับสารภาพในข้อหาใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อ: จำเลยต้องยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับในคดีก่อน ศาลต้องสอบถามและจดบันทึกไว้
การสั่งให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีก่อนนั้น จะกระทำได้ต่อเมื่อความปรากฏว่าเป็นคน ๆ เดียวกันกับจำเลยในคดีก่อน ซึ่งศาลลงโทษไปแล้ว การที่จำเลยได้ให้การปฏิเสธความผิด ไม่ได้พูดถึงเรื่องโจทก์ขอให้นับโทษต่อกัน แต่ก็มิได้มีการสอบถามจดบันทึกในเรื่องที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อไว้แต่ประการใด เช่นนี้ ยังไม่มีทางนับโทษต่อให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสอบถามคู่ความ & ผลของการไม่แถลงประเด็นข้อพิพาท
ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 183 ศาลมีอำนาจที่จะสอบถามคู่ความเพื่อให้ได้ความชัดในประเด็นข้อพิพาท เมื่อศาลมีอำนาจแล้ว คู่ความก็มีหน้าที่ต้องแถลง หากไม่แถลง ข้อที่ไม่แถลงนั้น ย่อมไม่เป็นประเด็นในคดี
โจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่าได้จ่ายเงินให้แก่คนของโจทก์ไปจึงขอหักหนี้ ศาลสอบถามโจทก์ ๆ แถลงแต่เพียงว่าโจทก์เห็นว่าไม่เกี่ยวกับจำนวนเงินที่โจทก์ฟ้อง ฉะนั้นการที่โจทก์นำสืบว่าได้ฝากเงินจำเลยไปและเงินที่ผู้แทนโจทก์ได้รับไปจากบุตรจำเลยคือเงินของโจทก์เอง ดังนี้เป็นข้อสืบนอกประเด็นรับฟังไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแพ่งไม่จำต้องระบุเวลาทำผิดชัดเจน หากจำเลยเข้าใจข้อหาได้ และศาลสามารถสอบถามเพื่อความชัดเจนได้
ฟ้องคดีแพ่งไม่ต้องระบุเวลาหย่างฟ้องคดีอาญา
ฟ้องระบุวันที่จำเลยเอาทรัพย์หย่าง 1 ไปแล้วระบุว่าต่อจากวันนั้นจำเลยเอาทรัพย์อีกหย่าง 1 ไป ขอไห้คืน จำเลยต่อสู้ว่าโจทขายไห้ดังนี้ สแดงว่าฟ้องของโจทไม่เคลือบคลุมและจำเลยเข้าไจข้อหาของโจท
ไนกรนีที่ฟ้องของโจทไม่เคลือบคลุม แต่สาลจะไห้ประเด็นชัดขึ้นก็สอบถามโจทได้เปนกรนีเข้ามาตรา 183 ไม่ไช่มาตรา 18 และไม่เปนเรื่องแก้ฟ้องกรนีไม่เข้ามาตรา 180

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นฎีกาขัดกับเจตนาจำเลย ศาลต้องสอบถามก่อนอนุญาต การไม่สอบถามทำให้คดีถึงที่สุด
แม้ ป. ทนายความของจำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาและยื่นฎีกาแทนจำเลยที่ 2 ตามที่ระบุไว้ในใบแต่งทนายความ แต่เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2549 ก่อนที่ทนายความของจำเลยที่ 2 จะยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาฉบับลงวันที่ 26 เมษายน 2549 จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 2 ไม่ประสงค์ต่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกาและขอให้ออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดให้จำเลยที่ 2 ด้วย หลังจากนั้นทนายความของจำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาของจำเลยที่ 2 อีกสองฉบับ และยื่นฎีกาของจำเลยที่ 2 ซึ่งขัดแย้งกับความประสงค์ของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งทนายความตามที่ระบุไว้ในคำร้องของจำเลยที่ 2 ฉบับดังกล่าว ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ทนายความของจำเลยที่ 2 ขยายระยะเวลายื่นฎีกาและสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 2 โดยไม่สอบถามจำเลยที่ 2 ก่อน จึงเป็นการไม่ชอบตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.อ. มาตรา 223 เมื่อจำเลยที่ 2 ไม่ประสงค์ฎีกาและวันที่ครบกำหนดฎีกาวันที่ 21 พฤษภาคม 2549 เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการ คดีของจำเลยที่ 2 จึงถึงที่สุดในวันที่ 22 พฤษภาคม 2549 ซึ่งเป็นวันที่ระยะเวลาฎีกาได้สิ้นสุดลงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 147 วรรคสอง ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15