พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3227/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคืนของกลางต้องสุจริต ผู้ร้องต้องเป็นผู้ขอคืนจริง หากมีเจตนาช่วยเหลือผู้กระทำผิด ศาลไม่คืนของกลางให้
การร้องขอคืนของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 เป็นการใช้สิทธิทางศาลอย่างหนึ่ง ผู้ร้องต้องกระทำการโดยสุจริต ผู้ร้องไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดของจำเลยแต่ น. ผู้เช่าซื้อรถบรรทุกของกลางและเป็นผู้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทนผู้ร้อง มีพฤติการณ์ว่ารู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดของจำเลย และไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้กลับเข้าครองรถบรรทุกของกลางพยานหลักฐานผู้ร้องก็ฟังไม่ได้ว่าได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้วทั้งผู้ร้องไม่เคยติดต่อขอรับรถบรรทุกของกลางคืนจากพนักงานสอบสวนแต่ น. ผู้เช่าซื้อเป็นผู้ติดต่อขอรับคืน ดังนี้ เห็นได้ว่าผู้ร้องยอมให้ น. ใช้ชื่อผู้ร้องในการขอคืนของกลางเพื่อประโยชน์แก่ น. ซึ่งเป็นผู้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่มีเหตุที่ศาลจะสั่งคืนให้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3843/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลกรณีจำหน่ายคดีขาดนัด: ศาลไม่คืนค่าขึ้นศาลเมื่อไม่มีเหตุตามกฎหมาย แม้คดีจำหน่าย
โจทก์ขอบังคับให้จำเลยโอนขายที่ดินราคา 460,000 บาทถ้าไม่สามารถโอนขายได้ ให้ใช้ค่าเสียหาย 1,940,000 บาท คำขอข้อหลังจะใช้บังคับเมื่อคำขอข้อแรกบังคับไม่ได้ โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ที่สูงกว่าคือทุนทรัพย์ 1,940,000 บาท
เมื่อโจทก์ขาดนัดพิจารณาและศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีแล้วไม่มีกฎหมายบัญญัติให้คืนค่าขึ้นศาลให้แก่โจทก์ดังกรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151
เมื่อโจทก์ขาดนัดพิจารณาและศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีแล้วไม่มีกฎหมายบัญญัติให้คืนค่าขึ้นศาลให้แก่โจทก์ดังกรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3843/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลเมื่อจำหน่ายคดีขาดนัด: ศาลไม่คืนค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่ต้องเสียเมื่อยื่นฟ้อง
โจทก์ขอบังคับให้จำเลยโอนขายที่ดินราคา 460,000 บาทถ้าไม่สามารถโอนขายได้ ให้ใช้ค่าเสียหาย 1,940,000บาท คำขอข้อหลังจะใช้บังคับเมื่อคำขอข้อแรกบังคับไม่ได้ โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ที่สูงกว่าคือทุนทรัพย์ 1,940,000 บาท
เมื่อโจทก์ขาดนัดพิจารณาและศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีแล้วไม่มีกฎหมายบัญญัติให้คืนค่าขึ้นศาลให้แก่โจทก์ดังกรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151
เมื่อโจทก์ขาดนัดพิจารณาและศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีแล้วไม่มีกฎหมายบัญญัติให้คืนค่าขึ้นศาลให้แก่โจทก์ดังกรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สุราปิดแสตมป์ปลอมถือเป็นสุราที่ยังไม่ได้เสียภาษี จึงเป็นของไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลไม่สามารถคืนได้ แม้ผู้ครอบครองไม่มีเจตนา
สุราที่จะต้องเสียภาษีโดยปิดแสตมป์สุรานั้น หากปิดแสตมป์ปลอมก็เป็นสุราที่ยังไม่ได้เสียภาษีซึ่งต้องถือว่าเป็นสุราที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลจะสั่งคืนสุราให้โจทก์ผู้มีไว้ในครอบครองไม่ได้ ถึงแม้ว่าผู้ครอบครองจะไม่ถูกฟ้องคดีอาญา เพราะหลักฐานยังไม่พอฟังว่าผู้ครอบครองรู้ว่าแสตมป์นั้นปลอม ก็ไม่ทำให้สุราของกลางเป็นสุราที่มีการเสียภาษีสุราแล้วไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สุราปิดแสตมป์ปลอม ถือเป็นสุราที่ยังไม่ได้เสียภาษี ศาลไม่คืนได้ แม้ผู้ครอบครองไม่มีเจตนา
สุราที่จะต้องเสียภาษีโดยปิดแสตมป์สุรานั้นหากปิดแสตมป์ปลอมก็เป็นสุราที่ยังไม่ได้เสียภาษีซึ่งต้องถือว่าเป็นสุราที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลจะสั่งคืนสุราให้โจทก์ผู้มีไว้ในครอบครองไม่ได้ถึงแม้ว่าผู้ครอบครองจะไม่ถูกฟ้องคดีอาญาเพราะหลักฐานยังไม่พอฟังว่าผู้ครอบครองรู้ว่าแสตมป์นั้นปลอม ก็ไม่ทำให้สุราของกลางเป็นสุราที่มีการเสียภาษีสุราแล้วไปได้