พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5188/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ แม้ถูกทำร้ายก่อน ศาลไม่รับรองการกระทำ
ผู้เสียหายเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อนด้วยการด่า และท้าทายจำเลยให้มาต่อสู้กัน และเข้ามากระชากคอเสื้อจำเลยย่อมเป็นเหตุให้จำเลยสามารถกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป้องกันตัวได้ แต่จะต้องเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุด้วย ผู้เสียหายเพียงแต่ดึงคอเสื้อจำเลยเท่านั้นไม่ได้ลงมือทำร้ายจำเลย ตลอดจนผู้เสียหายไม่มีอาวุธติดตัว การที่จำเลยใช้มีดปาดตาลขนาดยาวทั้งตัวมีดและด้ามประมาณ 1 ฟุตใบมีดกว้างประมาณ 4 นิ้ว ซึ่งเป็นมีดขนาดใหญ่แทงผู้เสียหายที่บริเวณไหปลาร้าขวา ราวนมขวา ราวนมซ้าย และชายโครงซ้ายซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ และบริเวณส่วนอื่นของร่างกายรวม 9 แห่งซึ่งเป็นบาดแผลที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ จึงเป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุ การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1897/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผ่อนชำระหนี้นอกศาลและการบังคับคดี: ศาลไม่รับรองการตกลงนอกสัญญา หากโจทก์ยังไม่รับรองการชำระหนี้ครบถ้วน
จำเลยอ้างว่าได้ผ่อนชำระหนี้ตามสัญญายอมความในศาลเสร็จสิ้นแล้ว โดยตกลงกันว่าโจทก์จะไม่คิดดอกเบี้ยตามสัญญา โจทก์ปฏิเสธว่าจำเลยไม่เคยชำระหนี้ ไม่เคยตกลงยอมไม่คิดดอกเบี้ย ดังนี้ เป็นเรื่องที่จำเลยกระทำการนอกศาล โดยศาลไม่รับรู้ด้วย เมื่อโจทก์ไม่รับรองว่าได้รับเงินครบถ้วนแล้ว จำเลยจะยกมาเป็นเหตุให้ศาลงดการบังคับคดีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าหลังคำบังคับขับไล่: จำเลยต้องฟ้องคดีใหม่ ไม่สามารถยกเป็นเหตุไม่ต้องปฏิบัติตามคำบังคับเดิมได้
คดีมีคำบังคับขับไล่จำเลยแล้ว แต่ยังไม่ทันออกไปจากห้องพิพาท จำเลยไปทำสัญญาเช่ากับโจทก์ใหม่ โดยศาลมิได้รู้เห็นด้วย ต่อมาโจทก์มาขอให้ศาลขับไล่จำเลยตามคำบังคับศาลย่อมบังคับให้ จำเลยจะยกเรื่องการเช่าใหม่ให้ศาลไต่สวนในคดีเดิม โดยโจทก์มิได้รับรองข้ออ้างของจำเลยด้วย - ไม่ได้, จำเลยชอบที่จะไปฟ้องร้องเป็นคดีขึ้นใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3067/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางเงินชำระหนี้ต่อศาล: ผลของการไม่รับรองการชำระหนี้ และการตกเป็นของแผ่นดิน
คำแถลงขอวางเงินของจำเลยฉบับลงวันที่ 22 ธันวาคม 2540 คงปรากฏเพียงลายมือชื่อของหัวหน้าฝ่ายการเงิน บัญชี และพัสดุใต้ข้อความว่า "รับลงบัญชีแล้ว" กับมีใบเสร็จรับเงินแนบติดอยู่ โดยไม่ปรากฎว่ามีการเสนอคำแถลงของจำเลยต่อศาลเพื่อมีคำสั่งว่าจะให้รับเงินนั้นไว้เพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ต่อไปตามที่จำเลยขอมาในคำแถลงหรือไม่ เมื่อโจทก์ขอให้ออกหมายบังคับคดีโดยอ้างว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ออกหมายบังคับคดีให้ตามคำขอของโจทก์ แสดงว่าขณะนั้นศาลชั้นต้นยังไม่ถือเอาว่าเงินที่จำเลยนำมาวางศาลนั้นศาลได้รับไว้เพื่อให้โจทก์มาขอรับไป มิฉะนั้นแล้วก็ไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะออกหมายบังคับคดีเพื่อให้โจทก์ดำเนินการบังคับคดีแก่จำเลยอีก ดังนั้น เมื่อโจทก์มาขอรับเงินในวันที่ 21 เมษายน 2547 ศาลชั้นต้นจะกลับมาถือเอาในชั้นหลังนี้ว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ค้างจ่ายอยู่ในศาลซึ่งผู้มีสิทธิได้เรียกเอาภายใน 5 ปี ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 323 ย่อมเป็นการไม่ชอบ ต้องถือว่าเงินที่จำเลยนำมาวางศาลเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาในคดีนี้ยังไม่ตกเป็นของแผ่นดิน