คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สภาพแวดล้อม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 24 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1222/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดจากพยานผู้เห็นเหตุการณ์ โดยพิจารณาจากสภาพแวดล้อมและระยะเวลาในการเกิดเหตุ
แม้ขณะเกิดเหตุจะเป็นเวลาดึกสงัดและมีฝนตกพรำ ๆ แต่ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนที่ใช้สำหรับสัญจร ตามสภาพย่อมเป็นที่โล่งผู้เสียหายที่ 2 สามารถเห็นจำเลยได้โดยอาศัยแสงสว่างจากไฟหน้ารถจักรยานยนต์ ทั้งในคืนเกิดเหตุมีแสงจันทร์มองเห็นได้ชัดในระยะเมตรเศษและผู้เสียหายที่ 2 มิได้ถูกบังคับให้นอนคว่ำหน้าคงอุ้มบุตรนั่งดูคนร้ายขณะปลดทรัพย์สินของผู้เสียหายทั้งสอง จากพฤติการณ์ของคนร้ายที่เข้ามาจับแฮนด์รถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนและมีดจี้ผู้เสียหายทั้งสองปลดเอาทรัพย์สินไป ทั้งใช้ผ้าขาวม้ามัดผู้เสียหายทั้งสองก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่ 1 หลบหนีไปคนร้ายต้องเข้ามาประชิดอยู่ใกล้ ๆ กับผู้เสียหายทั้งสองและใช้เวลานานพอสมควร โอกาสที่ผู้เสียหายที่ 2 จะเห็นและจำหน้าคนร้ายได้ย่อมมีมาก โดยเฉพาะผู้เสียหายที่ 2 รู้จักจำเลยเป็นอย่างดี จึงย่อมสามารถสังเกตและจดจำจำเลยได้โดยง่ายและแม่นยำแม้ว่าจำเลยจะสวมหมวกไหมพรมแบบไอ้โม่งชนิดที่เห็นตาก็ตาม แต่สภาพของหมวกดังกล่าวเมื่อมีช่องให้ตามองเห็น ย่อมทำให้มีช่องว่างให้เห็นหน้าบางส่วน ทั้งหลังเกิดเหตุผู้เสียหายที่ 2 ก็บอกผู้เสียหายที่ 1 ทันทีว่า จำเลยเป็นคนร้ายที่ร่วมปล้นทรัพย์ จากนั้นยังไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟังอีกว่าคนร้ายคือจำเลย และในวันรุ่งขึ้นก็ไปร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจว่าจำเลยเป็นคนร้าย เมื่อจับจำเลยได้แล้วยังชี้ตัวยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ร่วมปล้นทรัพย์ เมื่อผู้เสียหายที่ 2รู้จักจำเลยเป็นอย่างดีโดยเป็นญาติกันและไม่ปรากฏว่าเคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนย่อมไม่มีเหตุน่าระแวงสงสัยว่าจะมีเวลาคิดเสริมแต่งเรื่องขึ้นมาทันทีหลังเกิดเหตุเพียงเล็กน้อยว่าจำได้ว่าจำเลยเป็นคนร้าย ทั้งไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องเบิกความปรักปรำใส่ร้ายจำเลยซึ่งเป็นญาติกันโดยไม่มีมูลความจริง กรณีจึงฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ร่วมกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์จริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงคำสั่งศาลเกี่ยวกับมาตรการทางอาญาสำหรับเด็กและเยาวชน โดยพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมและการศึกษา
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้ส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมที่ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนมีกำหนด 2 ปี นับแต่ วันพิพากษาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74(5) แล้ว ผู้ร้องทั้งสองซึ่งเป็นบิดามารดาของจำเลยยื่นคำร้องต่อศาลขอรับตัวจำเลยไปดูแลแทนการส่งตัวไปฝึกอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขต่าง ๆที่ศาลจะกำหนด ถือได้ว่าเป็นกรณีที่พฤติการณ์เกี่ยวกับคำสั่งเดิมเปลี่ยนแปลงไปมีทางให้ศาลเลือกวิธีการที่เป็นผลดีแก่จำเลยมากกว่าวิธีการเดิม ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 74 วรรคท้าย เมื่อจำเลยยังต้องศึกษาเล่าเรียนต่อการมอบจำเลยให้ผู้ร้องทั้งสองไปโดยวางข้อกำหนดให้ผู้ร้องระวังจำเลยไม่ให้ก่อเหตุร้ายอีก จะเป็นผลดีกว่าการส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8087/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจปกครองบุตรหลังหย่า: พิจารณาความเหมาะสมของผู้เลี้ยงดู โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมและประโยชน์สูงสุดของบุตร
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากกันและให้โจทก์เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์แต่เพียงผู้เดียว จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง เมื่อจำเลยเป็นผู้เหมาะสมที่จะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์ยิ่งกว่าโจทก์ แม้มิได้ฟ้องแย้ง ศาลก็มีอำนาจชี้ขาดให้จำเลยเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์หลังการหย่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 612/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีอาญาอาศัยพยานหลักฐานบุคคลและสภาพแวดล้อมในที่เกิดเหตุ เชื่อได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด
บริเวณที่เกิดเหตุมีแสงสว่างจากไฟฟ้าที่หน้าร้านค้าและเสาไฟฟ้าสาธารณะซึ่งปักอยู่เป็นระยะๆน่าเชื่อว่าบริเวณที่เกิดเหตุมีแสงสว่างมากพอที่ผู้เสียหายที่1กับ ส. จะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ต่างๆได้ชัดเจนประกอบกับ ส. รู้จักจำเลยมาก่อนทั้งก่อนเกิดเหตุประมาณ1ชั่วโมงจำเลยขับรถจักรยานยนต์มีธ. นั่งซ้อนท้ายไปพบผู้เสียหายที่1กับ ส. และ ส.ได้พูดคุยกับจำเลยด้วยก่อนที่จะเกิดเหตุ ธ. ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายทั้งสองโดยจำเลยเป็นผู้ขับรถจักรยานยนต์ให้ ธ.นั่งซ้อนท้ายไปจึงเชื่อว่าผู้เสียหายที่1กับ ส. มีโอกาสเห็นและจำคนร้ายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5219/2539 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้าย vs. เจตนาฆ่า: การพิจารณาจากอาวุธและสภาพแวดล้อม
จำเลยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายมาก่อน แต่ไม่รุนแรงมากถึงกับคิดจะฆ่าผู้เสียหาย แม้มีดที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหายเป็นมีดปลายแหลมคมมีดยาวประมาณ 7 นิ้ว แต่จำเลยแทงไม่แรงและบริเวณที่เกิดเหตุเป็นที่มืด จำเลยไม่สามารถเลือกแทงได้ จำเลยจึงมีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำแนวเขตที่ดินและผลกระทบต่อแสงสว่าง/ลมในที่ดินข้างเคียง ศาลพิจารณาความเดือดร้อนตามสภาพแวดล้อมและแก้ไขได้
แม้จำเลยจะได้ก่อสร้างตึกแถวชิดแนวเขตที่ดินเกินไปแต่ก็มิได้รุกล้ำที่ดินโจทก์และโจทก์เองก็ได้ปลูกบ้านชิดแนวเขตมากเกินไปด้วยโจทก์จึงมีส่วนผิดอยู่ด้วยปรากฏว่าหลังคาตึกแถวจำเลยสูงกว่าหลังคาบ้านโจทก์เพียง1เมตรและยังมีช่องให้แสงสว่างเข้าได้พอสมควรซึ่งลมก็ย่อมจะพัดผ่านบ้านโจทก์ได้บ้างแม้ไม่มากเหมือนดังเดิมทั้งไม่ปรากฏว่าตึกแถวจำเลยมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องลมหรือแสงสว่างแต่อย่างใดและในสภาวะที่บ้านโจทก์สร้างด้วยไม้ย่อมแก้ไขปรับปรุงได้ไม่ยากซึ่งก็ปรากฏว่าโจทก์ได้แก้ไขหน้าต่างไปแล้วในสภาพที่เป็นชุมชนผู้ที่อยู่อาศัยย่อมจะต้องยอมรับความลำบากอยู่บ้างฉะนั้นเมื่อเอาสภาพและตำแหน่งที่อยู่ของบ้านโจทก์และจำเลยมาคำนึงประกอบแล้วเห็นว่าโจทก์มิได้เดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชิงทรัพย์โดยมีเจตนาอวดอ้างหรือไม่ การลดโทษเนื่องจากวัยเยาว์และสภาพแวดล้อม
จำเลยใช้มีดจี้ผู้เสียหายและดึงสร้อยคอจากคอผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายส่งเสียงดัง จำเลยก็พูดว่าไม่ต้องร้อง คืนสร้อยให้แล้ว แล้วจำเลยคืนสร้อยให้ผู้เสียหายไปทั้งจำเลยให้การชั้นสอบสวนว่าเหตุที่กระทำผิดเนื่องจากอยากลองและนึกสนุก แสดงว่าจำเลยกระทำโดยมิได้มีความประสงค์ต่อทรัพย์ที่แท้จริงแต่เพื่ออวดในทางที่ผิดด้วยความโง่เขลาตามประสาวัยรุ่น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ แต่เป็นความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 384/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานในคดีอาญา: สภาพแวดล้อมที่เปิดโอกาสให้ผู้อื่นกระทำผิด และความไม่แน่นอนของพยาน
ที่เกิดเหตุเป็นห้องตัดผม ซึ่งมีผู้คนเข้าออกวันหนึ่ง ๆเป็นจำนวนหลายคน ลิ้นชักที่พยานโจทก์พบเฮโรอีนก็เป็นลิ้นชักที่ไม่ได้ล็อก กุญแจ ช่างตัดผมหรือคนตัดผมคนหนึ่งคนใดนำเข้าไปซ่อนไว้ก็อาจทำได้ กุญแจสำหรับเปิดลิ้นชักใส่เครื่องมือตัดผมก็มิได้มีแต่ของที่จำเลยถือเท่านั้น ส่วนกลางก็มีอีก 1 ชุด ซึ่งบุคคลอื่นก็อาจเปิดห้องตัดผมได้ ไม่ใช่มีเพียงจำเลยเท่านั้นเมื่อสภาพที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ที่หลายคนเข้าออกได้ก็เป็นการไม่แน่นอนลงไปว่า เฮโรอีนเป็นของจำเลยเท่านั้น อาจเป็นของบุคคลอื่นก็ได้ คดียังเป็นที่สงสัยตามสมควร ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 116/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีอาญาอาศัยพยานหลักฐานบุคคลผู้เห็นเหตุการณ์และสภาพแวดล้อมในที่เกิดเหตุ
สถานที่เกิดเหตุเป็นที่โล่งและคืนเกิดเหตุเป็นเวลาข้างขึ้นแสงจันทร์ย่อมส่องสว่างทั้งยังมีแสงไฟฉายจากกระบอกไฟฉายที่คนร้ายส่องขณะเลื่อยตัดงาช้าง พยานซุ่ม ดู ประมาณ 4-5 นาทีนานพอจะเห็นจำเลยที่ 1 ได้ถนัด แม้จะเห็นด้านข้างและพยานเคยรู้จักจำเลยที่ 1 มาก่อน ทั้งไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยที่ 1หลังเกิดเหตุแล้ววันรุ่งขึ้นตอนเช้า พยานก็รีบไปแจ้งให้มารดาผู้เสียหาย และตำรวจทราบว่าจำเลยที่ 1 ร่วมเป็นคนร้ายที่ตัดงาช้าง ของผู้เสียหายด้วย ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยที่ 1กระทำผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและไตร่ตรองไว้ก่อน: พิจารณาจากพฤติการณ์และสภาพแวดล้อม
บ้านผู้ตายชั้นบนด้านหน้าเปิดโล่ง ไม่มีฝาผนัง รอบบ้านไม่มีรั้ว สามารถมองเห็นภายในบ้านได้ จากระยะไกล หากจำเลยต้องการทราบเพียงว่าโจทก์อยู่ในบ้านหรือไม่ ย่อมไม่จำเป็นต้อง ทำทีไปขอยาจาก อ. เมื่อ อ. เอายาให้จำเลย จำเลยขอน้ำดื่มกับยาด้วย กรณีอาจเป็นได้ ว่า ขณะที่จำเลยไปขอยานั้น จำเลยป่วยจริงและยังมิได้มีเจตนาฆ่าผู้ตาย แต่ เมื่อพบผู้ตายอยู่ในบ้าน ความแค้นที่เคยมีต่อ ผู้ตายก็เกิดขึ้นมาอีกในทันทีทันใด จึงกลับไปเอาอาวุธปืนมายิงผู้ตาย พฤติการณ์ดังกล่าวยังถือ ไม่ได้ว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดย ไตร่ตรอง ไว้ก่อน.
of 3