พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องความผิดสมคบชิงทรัพย์ ไม่จำต้องอ้าง ม.63 และไม่จำต้องระบุชื่อพวก
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งที่ยังจับตัวไม่ได้สมคบกันชิงทรัพย์ ขอให้ลงโทษตาม ม.298, 299
ดังนี้ก็เป็นฟ้องที่ชอบด้วยวิธีพิจารณาแล้ว ไม่จะต้องอ้างบทมาตรา 63 เพราะได้อ้างมาตราที่บัญญัติว่าเป็นความผิดไว้แล้ว และไม่จำต้องระบุว่าพวกของจำเลยเป็นใคร.
ดังนี้ก็เป็นฟ้องที่ชอบด้วยวิธีพิจารณาแล้ว ไม่จะต้องอ้างบทมาตรา 63 เพราะได้อ้างมาตราที่บัญญัติว่าเป็นความผิดไว้แล้ว และไม่จำต้องระบุว่าพวกของจำเลยเป็นใคร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานสมคบชิงทรัพย์ แม้ไม่มีประจักษ์พยาน แต่มีพยานยืนยันและคำรับสารภาพ
โจทก์ฟ้องจอให้ลงโ่ทษจำเลย 2 คนฐานสมคบกันชิงทรัพย์ จำเลยทั้ง 2 รับสารภาพตามฟ้อง เมื่อสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ โจทก์ มีคำเจ้าทรัพย์ยืนยันฟังได้ว่า การชิงทรัพย์รายนี้มีคนอีกคนหนึ่งร่วมกระทำการกับจำเลยที่ 1 ด้วย และมีพยานอีกคนหนึ่งเห็นจำเลยที่ 2 เดินตามหลังจำเลยที่ 1 ไปในคืนวันเกิดเหตุ หลังจากเกิดเหตุแล้ว ดังนี้ แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยาน เห็นจำเลยได้ในขณะกระทำผิดเมื่อพิเคราะห์ประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลยที 2 แล้ว คดีพอลงโ่ทษจำเลยที่ 2 ได้ตามป.ม. วิ. อาญามาตรา 136.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยโดยอาศัยคำรับสารภาพ พยานหลักฐานประกอบ และพยานยืนยัน แม้ไม่มีประจักษ์พยาน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย 2 คนฐานสมคบกันชิงทรัพย์จำเลยทั้ง 2 รับสารภาพตามฟ้องเมื่อสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ โจทก์มีคำเจ้าทรัพย์ยืนยันฟังได้ว่า การชิงทรัพย์รายนี้มีคนอีกคนหนึ่งร่วมกระทำการกับจำเลยที่1 ด้วยและมีพยานอีกคนหนึ่งเห็นจำเลยที่ 2 เดินตามหลังจำเลยที่ 1 ไปในคืนวันเกิดเหตุ หลังจากเกิดเหตุแล้วดังนี้ แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยได้ในขณะกระทำผิดเมื่อพิเคราะห์ประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลยที่ 2 แล้วคดีพอลงโทษจำเลยที่ 2 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 176
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบชิงทรัพย์: ปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลล่างวินิจฉัยต่างกัน และฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้าม
+คบหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบชิงทรัพย์ร่วมกัน แต่มีบทบาทต่างกัน ศาลพิจารณาความผิดตามพฤติการณ์เฉพาะ
สมคบกันไปชิงทรัพย์ คนหนึ่งฆ่าเจ้าทรัพย์เพื่อจะเอาทรัพย์ แต่เอาไปไม่ได้จำเลยคนที่ฆ่าเจ้าทรัพย์มีผิดตาม ม.250(5) ส่วนจำเลยอีกคนหนึ่งมีผิดเพียง ม.300 ตอน 3 และ ม.60โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 2 สมคบกันไปชิงทรัพย์ จำเลยคนหนึ่งฆ่าเจ้าทรัพย์เพื่อที่จะเอาทรัพย์ขอให้ลงโทษจำเลยทั้ง 2 ตาม ม.250 (5) ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยอีกคนหนึ่งมีผิดเพียงฐานพยายามชิงทรัพย์ ศาลจะลงโทษฐานพยายามชิงทรัพย์ได้ หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 911/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบร่วมกันชิงทรัพย์: การพิพากษาความผิดฐานตัวการช่วยเหลือ
สามคนสมคบกันมีอาวุธไปทำการชิงทรัพย์และคอยช่วยเหลือกันเพื่อให้การกระทำสำเร็จไปดังนี้ ต้องมีผิดฐานเปนตัวการปล้นทรัพย์ด้วยกัน พ.ร.บ. ฎีกาอุทธรณ์แก้มาก ศาลเดิมวาง ม.301 จำ 10 ปี ศาลอุทธรณ์วาง ม.299 จำ 3 ปี ฎีกาได้