พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตำรวจสมคบร่วมกระทำผิดเอง ไม่ผิดฐานใช้อำนาจในทางทุจริตตาม ม.142
แม้จำเลยเป็นตำรวจมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายก็ตาม ก็ลงโทษจำเลยฐานใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 142 ไม่ได้ ในเมื่อจำเลยสมคบกับพวกพยายามลักทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์และลักทรัพย์เสียเอง จึงมิได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือจำเลยอื่นกระทำผิดหรือช่วยเหลือให้พ้นอาญา
บทบัญญัติตามก.ม.ลักษณะอาญา ม.142 เป็นกรณีเจ้าพนักงานช่วยเหลือผู้กระทำผิดมิให้ต้องรับอาญา มิใช่เอาผิดแก่เจ้าพนักงานผู้กระทำผิดเสียเอง
บทบัญญัติตามก.ม.ลักษณะอาญา ม.142 เป็นกรณีเจ้าพนักงานช่วยเหลือผู้กระทำผิดมิให้ต้องรับอาญา มิใช่เอาผิดแก่เจ้าพนักงานผู้กระทำผิดเสียเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 966/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องปล้นทรัพย์ต้องระบุจำนวนผู้สมคบร่วมกระทำผิดเกิน 3 คนขึ้นไป หากพิสูจน์ได้ว่ามีจำนวนตามนั้น ศาลลงโทษฐานปล้นทรัพย์ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์แต่มิได้ระบุจำนวนบุคคลที่สมคบกับจำเลยทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้สมคบกับพวกกว่า 3 คนขึ้นไป และจำเลยมิได้เสียเปรียบหรือหลงต่อสู้ก็เป็นฟ้องทีฟังลงโทษฐานปล้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดร่วมในความผิดฐานลักทรัพย์กับปล้นทรัพย์: การกระทำหลังสมคบร่วม
3 คนไปลักทรัพย์ด้วยกันคนหนึ่งเงื้อมีดขู่เจ้าทรัพย์ที่ติดตามมา เมื่อ 2 คนหนีไปแล้วเช่นนี้ ยังไม่มีผิดฐานปล้น