คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สละสิทธิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2173/2542 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์คณะผู้พิพากษาสมทบในคดีแรงงาน การไม่คัดค้านภายใน 8 วัน ถือเป็นการสละสิทธิ์โต้แย้ง
การนั่งพิจารณาคดีแรงงาน ศาลแรงงานต้องมีผู้พิพากษาผู้พิพากษาสมทบฝ่ายนายจ้าง และผู้พิพากษาสมทบฝ่ายลูกจ้างฝ่ายละเท่า ๆ กันเป็นองค์คณะพิจารณาตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯมาตรา 17 และมาตรา 31 ซึ่งให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาใช้บังคับโดยอนุโลมดังนั้น ถ้าจำเลยเห็นว่าศาลแรงงานกลางมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องในการพิจารณาคดี โดยผู้พิพากษาสมทบฝ่ายนายจ้างและผู้พิพากษาสมทบฝ่ายลูกจ้างซึ่งเป็นองค์คณะไม่ได้นั่งร่วมในการพิจารณาคดี แต่มีผู้พิพากษาสมทบฝ่ายนายจ้างและและผู้พิพากษาสมทบฝ่ายลูกจ้างคนอื่นมานั่งพิจารณาคดีแทนจำเลยซึ่งเป็นคู่ความฝ่ายที่เสียหายจะต้องยื่นคำคัดค้านก่อนมี คำพิพากษา แต่ต้องไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่วันที่จำเลยทราบตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 เมื่อจำเลย ทราบวันที่ที่ผู้พิพากษาสมทบซึ่งเป็นองค์คณะมิได้นั่งพิจารณาคดี จำเลยย่อมทราบในวันดังกล่าวว่าเป็นการผิดระเบียบ และควรจะคัดค้านเสียภายใน 8 วัน เมื่อจำเลยมิได้ คัดค้านจนศาลแรงงานกลางพิพากษาจำเลยจะมาอุทธรณ์ โต้แย้งว่า การพิจารณาคดีในวันนั้น ๆ ไม่ชอบหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5560/2541 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ยื่นบัญชีรายชื่อพยานตามกำหนด และประเด็นอำนาจฟ้องที่สละสิทธิ์ การได้กรรมสิทธิ์จากการครอบครองปรปักษ์
จำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่า15 วัน ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 88 วรรคหนึ่ง แต่จำเลยเพิ่งยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานขณะที่โจทก์ได้สืบพยานไปจนจบแล้ว โดยอ้างว่าระยะเวลายื่นบัญชีระบุพยานครั้งแรกได้สิ้นสุดไปก่อนหน้าที่ทนายจำเลยคนปัจจุบันเข้ามารับหน้าที่ ซึ่งมิได้เป็นเหตุสุดวิสัย หากอนุญาตให้จำเลยนำพยานเข้าสืบย่อมจะทำให้โจทก์เสียเปรียบ ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยนำพยานเข้าสืบจึงชอบแล้ว
แม้จำเลยจะได้ให้การโต้แย้งว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเป็นประเด็นไว้ แต่ในวันชี้สองสถานซึ่งศาลชั้นต้นได้ทำการชี้สองสถานกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพียงประเด็นเดียวว่า โจทก์และจำเลยได้แบ่งแยกกันครอบครองที่ดินโฉนดพิพาทเป็นส่วนสัดแล้วหรือไม่เท่านั้น โดยจำเลยมิได้คัดค้านอันเป็นการสละประเด็นข้อต่อสู้ดังกล่าว เท่ากับจำเลยยอมรับว่าโจทก์ทั้งห้ามีอำนาจฟ้อง โจทก์จึงไม่จำต้องนำสืบถึงประเด็นดังกล่าว และจำเลยย่อมไม่มีสิทธิยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
เมื่อที่ดินที่ ป.ร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ในคดีก่อนเป็นที่ดินที่ไม่เกี่ยวกับที่ดินพิพาทในคดีนี้ที่โจทก์และจำเลยครอบครองอยู่ การที่โจทก์และจำเลยได้ครอบครองที่ดินพิพาทของตนในคดีนี้เป็นส่วนสัดโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตั้งแต่วันที่โจทก์จำเลยได้รับการยกให้จากเจ้าของกรรมสิทธิ์ติดต่อกันมาเป็นเวลาเกิน 10 ปี แล้ว โดยไม่มีใครรบกวน โจทก์และจำเลยย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินในส่วนที่ตนครอบครองนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างเช่า: สัญญาเช่าต่างตอบแทนยังคงกรรมสิทธิ์ไว้จนกว่าจะครบกำหนดสัญญา แม้มีข้อตกลงสละสิทธิ์
สัญญาแบ่งเช่าที่ดินระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทยกับโจทก์ผู้เช่าข้อ 4 ระบุว่า 'เมื่อครบสัญญาเช่าบรรดาวัสดุและสิ่งปลูกสร้างตลอดจนทรัพย์สินที่ติดอยู่กับที่ดินตกเป็นของผู้ให้เช่า' มีความหมายอยู่ในตัวว่าตลอดระยะเวลาที่การเช่ายังมีอยู่ กรรมสิทธิ์ในบรรดาวัสดุและสิ่งปลูกสร้างฯยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ แม้จะมีสัญญาข้อ 14ว่า 'โดยผู้เช่าไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายแต่ประการใด' ก็หามีผลลบล้างข้อตกลงตามสัญญาแบ่งเช่าที่ดินไม่และสัญญาข้อ 14 นี้ เป็นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับการท่าเรือแห่งประเทศไทยจะผูกพันถึงจำเลยหรือไม่เพียงใดน่าจะต้องฟังพยานหลักฐานจากคู่ความเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2589/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ทางน้ำในที่ดิน: ทางน้ำเกิดเองในที่ดินส่วนบุคคลไม่เป็นทางน้ำสาธารณะหากเจ้าของไม่สละสิทธิ์
ทางน้ำพิพาทในที่นาของโจทก์ซึ่งเกิดขึ้นจากน้ำในร่องน้ำกุดปลาค้าวที่อยู่ทางทิศตะวันตกนาโจทก์ไหลซัดเซาะเข้า มาในนาของโจทก์เมื่อประมาณ 16 ปีมานี้ แล้วไหลผ่านนาโจทก์ไปทางทิศตะวันออกเป็นทางน้ำคดเคี้ยวไปจดลำห้วยหนองขอนกลองซึ่งอยู่นอกที่นาของโจทก์นั้น เป็นทางน้ำที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แม้กำเนิดของทางน้ำจะอยู่นอกเขตที่นาของโจทก์ก็ต้องเป็นของโจทก์ ทางน้ำดังกล่าวจะเป็นทางน้ำสาธารณะได้ก็โดยโจทก์อุทิศให้แก่ทางการโดยตรงหรือโดยปริยาย การที่ประชาชนปล่อยสัตว์พาหนะลงกินน้ำที่ทางน้ำพิพาทยังถือไม่ได้ว่าเป็นการอุทิศโดยปริยาย ทั้งไม่เข้าลักษณะเป็นทางน้ำสาธารณะโดยสภาพตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 (2) เพราะไม่ปรากฏว่าเป็นทางน้ำที่ประชาชนใช้สัญจรไปมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 502/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารสำเนาที่เจ้าพนักงานที่ดินรับรองถูกต้องใช้เป็นพยานหลักฐานได้ แม้จำเลยสละสิทธิ์
เรื่องราวการออกโฉนดที่ดินซึ่งจำเลยอ้างและเจ้าพนักงานที่ดินส่งมาตามคำสั่งศาล แม้เป็นสำเนาแต่เจ้าพนักงานที่ดินได้รับรองว่าถูกต้อง เป็นเอกสารที่รับฟังได้ แม้จำเลยไม่ประสงค์อ้างต่อไปศาลก็รับไว้และถือเป็นพยานของศาลเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อคัดค้านการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายต้องทำก่อนศาลมีคำพิพากษา หากไม่ทำถือเป็นการสละสิทธิ์
การที่จำเลยโต้แย้งเรื่องที่โจทก์ผู้รับมอบอำนาจ.ดำเนินกระบวนพิจารณาซักถามพยานโดยมิได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายนั้น.เป็นกรณีโต้แย้งคัดค้านเรื่องผิดระเบียบที่มิได้ปฎิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งจะต้องบังคับตามมาตรา 27. ดังนั้นจำเลยจึงชอบที่จะยกขึ้นคัดค้านก่อนที่ศาลมีคำพิพากษา. เมื่อจำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านประการใด. ก็ต้องถือว่ากระบวนพิจารณาที่โจทก์ผู้รับมอบอำนาจได้กระทำไป. ไม่มีเรื่องคัดค้าน.ในการปฏิบัติผิดระเบียบ.และการที่จำเลยเพิ่งจะหยิบยกปัญหาข้อนี้ขึ้นมาโต้แย้งคัดค้านในชั้นอุทธรณ์นั้นจึงเป็นการขัดกับบทบัญญัติในมาตรา 27 วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องอุทธรณ์เนื่องจากไม่นำส่งเอกสาร หมายถึงการสละสิทธิ์ในการอุทธรณ์
การที่ผู้อุทธรณ์ไม่นำส่งหมายนัดและสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นไปโดยจงใจหรือหลงลืมก็เป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 174,

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาเมื่อส่งประเด็นไปสืบพยาน แม้แถลงจะตามประเด็นไปแล้ว การไม่ไปถือเป็นการสละสิทธิ์ ไม่ใช่ขาดนัด
วันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยานเป็นวันแรกในคดีนั้น คู่ความฝ่ายใดไม่มาศาล ไม่ว่าตนจะมีหน้าที่นำพยานเข้าสืบหรือไม่ก็ตาม ก็เป็นการขาดนัดพิจารณาตามความหมายแพ่งกฎหมายแล้ว
การส่งประเด็นไปสืบพยานนั้นเป็นสิทธิของคู่ความที่จะตามประเด็นไปหรือไม่ไปก็ได้ ฉะนั้น แม้จะได้แถลงต่อศาลว่าจะตามประเด็นไป แต่แล้วต่อมามิได้ไปตามกำหนดนัด ก็หาทำให้เป็นผู้ขาดนัดพิจารณาไม่
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 19/2504

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินที่ได้มาขณะอยู่กินฉันท์สามีภรรยา แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส การลงชื่อในใบเหยียบย่ำไม่ถือเป็นการสละสิทธิ์
โจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากัน แต่มิได้จดทะเบียนสมรส ระหว่างอยู่กินด้วยกันโจทก์ได้ที่ดินมาจากผู้อื่น และลงชื่อจำเลยซึ่งเป็นภรรยาลงในใบเหยียบย่ำ ตามพฤติการณ์โจทก์จำเลยต่างมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้นร่วมกัน การที่โจทก์ยอมให้จำเลยมีชื่อในใบเหยียบย่ำแต่ผู้เดียว ไม่เป็นข้อแสดงว่าโจทก์สละสิทธิ์ให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ มอบที่ดินชำระหนี้ แม้ครอบครองไม่ถึง 9-10 ปี ก็สละสิทธิ์เรียกคืนได้
มอบที่ดินตีใช้หนี้ไป แม้ที่ดินนั้นจะเป็นที่บ้านที่สวน และจำเลยครอบครองต่อจากโจทก์ยังไม่ถึง 9 - 10 ปีก็ตามโจทก์ฟ้องเรียกคืนไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 784/2486)
of 2