คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สละเจตนา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 36 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7382/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละเจตนาครอบครองปรปักษ์และการเริ่มต้นนับอายุความใหม่เมื่อมีการรังวัดและรับรองแนวเขตที่ดิน
จำเลยได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทอย่างเป็นเจ้าของนานเกินกว่า 10 ปี ต่อมาเมื่อปี 2535 จำเลยขอรังวัดที่ดินของตนซึ่งมีแนวเขตติดต่อกับที่ดินของ ก. จำเลยไม่ได้โต้แย้งว่าที่ดินพิพาทเป็นของตนเองโดยการครอบครองปรปักษ์ ทั้งยังยอมรับว่าที่ดินพิพาทไม่ได้อยู่ในเขตที่ดินตามโฉนดของตนเอง แต่อยู่ในเขตโฉนดที่ดินของ ก. จึงถือได้ว่าจำเลยได้สละเจตนาครอบครองที่ดินพิพาทแล้ว และแม้จำเลยจะครอบครองที่ดินพิพาทมาก่อนเป็นเวลาเกิน 10 ปี ที่จำเลยอาจได้กรรมสิทธิ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 แล้วก็ตาม ถือได้ว่าจำเลยได้สละกรรมสิทธิ์ที่ได้มาดังกล่าวให้แก่ ก. แล้ว และการครอบครองที่มีมาก่อนดังกล่าวย่อมสิ้นสุดลง ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1377 การครอบครองที่ดินที่จะเป็นเหตุให้จำเลยได้กรรมสิทธิ์ใหม่ได้อีกจึงต้องเริ่มต้นนับใหม่ตั้งแต่วันที่จำเลยได้ครอบครองที่ดินใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากจะถือว่าจำเลยได้ครอบครองที่ดินใหม่ทันทีหลังจากที่ได้รับรองแนวเขตเป็นต้นไป แต่เมื่อนับถึงวันฟ้องแล้วไม่ครบ 10 ปี จำเลยจึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7011/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินหลังการซื้อขายและระยะเวลาห้ามโอน การสละเจตนาครอบครองและการฟ้องห้ามรบกวน
ห.ได้ขายและมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้โจทก์ถือได้ว่า ห. สละเจตนายึดถือการครอบครอง การครอบครองของ ห. ย่อมสิ้นสุดลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 1377 วรรคแรก แม้โจทก์ได้ซื้อและยึดถือทำประโยชน์เพื่อตนในระยะเวลาห้ามโอน โจทก์ก็ไม่ได้สิทธิครอบครองเนื่องจากถูกจำกัดสิทธิโดยบทบัญญัติแห่ง ป.ที่ดิน มาตรา 31 แต่เมื่อโจทก์ได้ครอบครองมาจนเลยเวลาห้ามโอนแล้ว โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1367 นับแต่วันพ้นกำหนดระยะเวลาห้ามโอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3372/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินช่วงห้ามโอนเป็นโมฆะ การครอบครองเป็นแทนเจ้าของ และการสละเจตนาครอบครอง
ที่ดินพิพาทมีน.ส.3ก.ที่ทางราชการออกให้แก่มารดาโจทก์โดยมีข้อกำหนดห้ามโอนภายใน5ปีตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพพ.ศ.2511มาตรา12ก่อนพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวมารดาโจทก์ขายที่ดินพิพาทให้จำเลยและมอบการครอบครองให้แล้วแต่การซื้อขายมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และเป็นที่ดินที่ทางราชการห้ามโอนภายใน5ปีการซื้อขายจึงไม่ถูกต้องตามแบบและเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามชัดแจ้งตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา113เดิม ส่วนการครอบครองที่ดินพิพาทของผู้รับโอนดังกล่าวต้องถือว่าเป็นการครอบครองไว้แทนเจ้าของแม้พ้นกำหนดเวลาห้ามโอนแล้วก็ยังคงถือว่าการครอบครองไว้แทนตลอดมาจนกว่าจะมีการบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1381หรือจนกว่าเจ้าของที่ดินพิพาทจะแสดงเจตนาสละการครอบครองให้ตามมาตรา1377,1379 การที่โจทก์รื้อบ้านไปในระยะเวลาห้ามโอนผลก็เท่ากับการสละเจตนาครอบครองเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายที่ห้ามโอนตกเป็นโมฆะเช่นกัน เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเป็นการครอบครองแทนจึงไม่อยู่ในบังคับต้องฟ้องคดีเพื่อปลดเปลื้องการรบกวนภายใน1ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1374 ฎีกาของจำเลยที่คัดค้านว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนที่เกี่ยวกับหนังสือมอบอำนาจให้โอนที่ดินไม่ถูกต้องไม่ได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค1ว่าไม่ถูกต้องผิดพลาดอย่างไรเป็นฎีกาไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4784/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งสิทธิครอบครองที่ดินจากการมอบให้ การสละเจตนาครอบครอง และการครอบครองปรปักษ์
เจ้ามรดกยกที่ดิน ส.ค.1 ให้แก่ จ. บุตรสาว โดยโจทก์ทั้งเจ็ดซึ่งเป็นทายาทไม่ได้ติดตามทวงถามให้ จ. แบ่งที่ดินพิพาทให้แก่ตนแต่กลับปล่อยให้ จ. ครอบครองที่ดินพิพาทเป็นเวลากว่า 30 ปีถือได้ว่า จ. เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินดังกล่าวเพียงผู้เดียวเมื่อ จ. ได้มอบที่ดินพิพาทให้จำเลยทั้งสองโดยจำเลยทั้งสองตกลงจ่ายเงินให้แสดงว่า จ. ได้เจตนาสละการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยทั้งสองตั้งแต่วันทำสัญญาแล้ว การครอบครองของ จ.ย่อมสิ้นสุดลง เมื่อจำเลยทั้งสองยึดถือที่ดินพิพาทโดยเจตนายึดถือเพื่อตนตลอดมาจนถึงปัจจุบัน จึงมีสิทธิครอบครองทันทีที่ จ.สละสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1378

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์ที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์ แม้มีสัญญาจะซื้อจะขายแต่สละเจตนาครอบครองแล้ว
โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทจาก ฉ. เพราะมีวัตถุประสงค์ที่จะใช้ขุดเป็นทางระบายน้ำเข้าที่ดินของโจทก์ แม้โจทก์จะไม่ได้ปลูกบ้านอยู่อาศัยในที่ดินพิพาท แต่การที่โจทก์ได้เข้าทำประโยชน์โดยปลูกต้นไม้ ขุดคูน้ำ ทำทางเดินไปทำนา และโจทก์คงใช้ประโยชน์ดังกล่าวในที่ดินพิพาทติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน กรณีเช่นนี้ย่อมถือว่าโจทก์มีเจตนายึดถือครอบครองที่ดินพิพาท สัญญาจะซื้อจะขายมีข้อตกลงจะจดทะเบียนโอนเมื่อแบ่งแยกโฉนดเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าโจทก์กับ ฉ. จะปล่อยเวลาล่วงเลยไปนานมิได้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดในเวลาอันสมควรเพื่อแบ่งแยกโฉนดโดย ฉ. ยอมให้โจทก์เข้าทำประโยชน์แสดงตนเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่แสดงว่าทั้งโจทก์และ ฉ. มิได้คำนึงถึงการที่จะทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทให้ถูกต้องตามกฎหมายกันต่อไป ถือได้ว่าฉ. สละการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์โดยเด็ดขาด การครอบครองของโจทก์จึงเป็นการครอบครองอย่างเป็นเจ้าของ หาใช่ครอบครองตามสัญญาจะซื้อจะขาย ดังนี้ เมื่อครบสิบปีโจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5225/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิครอบครองที่ดินโดยการสละเจตนา และผลของการซื้อขายที่ดินของผู้เยาว์
การโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เมื่อผู้ขายสละเจตนาครอบครองให้ผู้ซื้อ ผู้ซื้อก็ได้สิทธิครอบครองทันทีโดยไม่ต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ บิดาทำสัญญาขายที่ดินของบุตรผู้เยาว์โดยฝ่าฝืน ป.พ.พ.มาตรา 1574(1) สัญญาซื้อขายไม่มีผลผูกพันที่ดินของบุตร.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2164/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละเจตนาครอบครองปรปักษ์และการยอมรับสิทธิเจ้าของเดิม ทำให้ไม่สามารถอ้างสิทธิครอบครองปรปักษ์ได้อีก
ระหว่างที่ผู้ร้องครอบครองปรปักษ์ที่พิพาท ผู้คัดค้านได้ ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ในที่สุดผู้ร้องยอมให้ผู้คัดค้านเข้าทำนาในที่พิพาทต่อไป ซึ่ง แสดงว่าผู้ร้องตัดสินใจไม่เข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาท พฤติการณ์ของผู้ร้องแสดงว่าได้ สละเจตนาครอบครองโดย ปรปักษ์และยอมรับสิทธิของผู้คัดค้านซึ่ง มีชื่อ ในโฉนดที่ดินพิพาทแล้ว ผู้ร้องจะมาอ้างสิทธิครอบครองโดย ปรปักษ์อีกหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละเจตนาครอบครองที่ดินหลังทำสัญญาซื้อขาย ทำให้ผู้ซื้อได้สิทธิครอบครอง
บ. ทำสัญญาขายที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่โจทก์แต่ขณะทำสัญญา บ. ป่วยไม่สามารถไปจัดการโอนได้ และได้มอบที่ดินให้โจทก์เข้าครอบครองนับแต่วันทำสัญญา การที่ บ. ยอมให้โจทก์เข้าครอบครองที่ดินดังกล่าวนับเป็นการสละเจตนาครอบครองและไม่ยึดถือที่ดินนั้นต่อไป ดังนั้น ที่โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินต่อมาจึงเป็นการยึดถือโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิครอบครองที่ดินจากการทำสัญญาซื้อขายและการเข้าครอบครอง ยืนสิทธิผู้ซื้อเมื่อผู้ขายสละเจตนา
บ. ทำสัญญาขายที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่โจทก์แต่ขณะทำสญญา บ. ป่วยไม่สามารถไปจัดการโอนได้ และได้มอบที่ดินให้โจทก์เข้าครอบครองนับแต่วันทำสัญญา การที่บ. ยอมให้โจทก์เข้าครอบครองที่ดินดังกล่าวนับเป็นการสละเจตนาครอบครองและไม่ยึดถือที่ดินนั้นต่อไป ดังนั้น ที่โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินต่อมาจึงเป็นการยึดถือโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3402/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์ตึกแถวหลังการแบ่งทรัพย์สินร่วม และการสละเจตนาครอบครอง ทำให้จำเลยได้กรรมสิทธิ์โดยอายุความ
โจทก์ซึ่งเป็นทายาท พ. และ ห. ซึ่งเป็นเจ้าของรวมในที่ดินแปลงที่ปลูกตึกแถวพิพาทได้แบ่งทรัพย์สินกันเองในระหว่างเจ้าของรวม โดยโจทก์ได้ที่ดิน 53 ตารางวา ส่วนที่เหลือซึ่งเป็นของ ห. โจทก์และ ห. ยอมให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 ซึ่งเป็นหลานของ ห. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ สำหรับตึกพิพาทนอกจากจะปลูกอยู่บนที่ดินส่วนของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 แล้ว โจทก์ให้จำเลยที่ 10 ดำเนินการโอนตึกแถวพิพาทให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 โดยโจทก์พิมพ์ลายนิ้วมือไว้ในเอกสารหมาย ล.1 โดยสมัครใจ ความว่า โจทก์ไม่ขอเกี่ยวข้องในสิทธิและตึกแถวพิพาทแต่อย่างใด จึงเป็นการสละเจตนาครอบครองตึกแถวพิพาทตั้งแต่วันทำเอกสารหมาย ล.1 จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 โดยจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมได้ครอบครองตึกแถวพิพาทติดต่อกันมาโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของด้วยการทำสัญญาเช่าและเก็บค่าเช่านับแต่วันทำเอกสารหมาย ล.1 ถึงวันฟ้องเป็นเวลากว่าสิบปี จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 จึงได้กรรมสิทธิ์ โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนระหว่าง ห. กับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 9
of 4