พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6928/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ตามคำพิพากษาและการฟ้องล้มละลาย การฟ้องคดีล้มละลายภายในอายุความทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
หนี้ตามคำพิพากษาที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นสิทธิเรียกร้องที่เกิดขึ้นโดยคำพิพากษาของศาลที่ถึงที่สุดซึ่งมีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/32 เมื่อโจทก์นำหนี้ดังกล่าวมาฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายภายในกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาย่อมมีผลเป็นการฟ้องคดีเพื่อชำระหนี้อย่างหนึ่งตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ อันทำให้อายุความแห่งสิทธิเรียกร้องในหนี้ดังกล่าวสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/14(2) ระยะเวลาภายหลังจากนั้นจึงไม่นับเข้าเป็นอายุความด้วย กรณีไม่ใช่เรื่องการบังคับคดีจึงไม่อาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 271 มาใช้บังคับ หนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายจึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องล้มละลาย: การแจ้งประเมินภาษีและการบังคับคดีทำให้สะดุดหยุดลง แต่มีกรอบเวลา 10 ปี
การที่จำเลยได้รับแจ้งการประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลรอบระยะเวลาบัญชีประจำปี 2526 และ 2527 ถือว่า เจ้าพนักงานประเมินของกรมสรรพากรโจทก์ได้ใช้สิทธิเรียกร้องบังคับเอาแก่จำเลยแล้ว เป็นการที่เจ้าหนี้ได้กระทำการอันนับว่ามีผลเป็นอย่างเดียวกับการฟ้องคดี เพราะประมวลรัษฎากร มาตรา 12 ให้อธิบดีมีอำนาจสั่งยึดหรืออายัดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรค้างได้โดยมิต้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี จึงเป็นเหตุให้ อายุความสะดุดหยุดลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/14 (5) เมื่อเจ้าพนักงานประเมินกำหนดให้จำเลยชำระเงินค่าภาษีอากรภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมินโดยจำเลยได้รับหนังสือดังกล่าวเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2530 อายุความ จึงเริ่มต้นนับใหม่เมื่อพ้น 30 วัน นับแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2530 ซึ่งอาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป
การยึดหรืออายัดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 วรรคสี่ ให้ปฏิบัติตาม ป.วิ.พ. โดยอนุโลมจึงต้องใช้อำนาจภายในกำหนดเวลา 10 ปี ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 271 นับแต่วันที่อาจใช้อำนาจตามมาตรานี้ได้ แต่กำหนดเวลาในการบังคับคดีตามมาตรา 271 มิใช่อายุความอันจะอยู่ในบังคับแห่ง บทบัญญัติว่าด้วยอายุความตาม ป.พ.พ. จึงไม่อาจนำบทบัญญัติอายุความสะดุดหยุดลงมาใช้บังคับได้ การที่โจทก์มี คำสั่งอายัดเงินมัดจำขวดและลังที่จำเลยมีสิทธิได้รับจากบริษัท บ. และบริษัทดังกล่าวส่งเงินอายัดให้โจทก์เป็นเพียง ขั้นตอนในการบังคับคดีเท่านั้น ไม่ใช่การกระทำอื่นใดอันมีผลเป็นอย่างเดียวกันกับการฟ้องคดี ไม่ทำให้อายุความ สะดุดหยุดลง เมื่อโจทก์ฟ้องคดีเกิน 10 ปี นับแต่วันที่โจทก์ได้ใช้สิทธิเรียกร้องบังคับเอาแก่จำเลยแล้ว โจทก์ย่อมหมดสิทธิ ที่จะบังคับคดีแก่จำเลย จึงไม่อาจนำหนี้มาฟ้องจำเลยให้ล้มละลายได้
การยึดหรืออายัดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 วรรคสี่ ให้ปฏิบัติตาม ป.วิ.พ. โดยอนุโลมจึงต้องใช้อำนาจภายในกำหนดเวลา 10 ปี ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 271 นับแต่วันที่อาจใช้อำนาจตามมาตรานี้ได้ แต่กำหนดเวลาในการบังคับคดีตามมาตรา 271 มิใช่อายุความอันจะอยู่ในบังคับแห่ง บทบัญญัติว่าด้วยอายุความตาม ป.พ.พ. จึงไม่อาจนำบทบัญญัติอายุความสะดุดหยุดลงมาใช้บังคับได้ การที่โจทก์มี คำสั่งอายัดเงินมัดจำขวดและลังที่จำเลยมีสิทธิได้รับจากบริษัท บ. และบริษัทดังกล่าวส่งเงินอายัดให้โจทก์เป็นเพียง ขั้นตอนในการบังคับคดีเท่านั้น ไม่ใช่การกระทำอื่นใดอันมีผลเป็นอย่างเดียวกันกับการฟ้องคดี ไม่ทำให้อายุความ สะดุดหยุดลง เมื่อโจทก์ฟ้องคดีเกิน 10 ปี นับแต่วันที่โจทก์ได้ใช้สิทธิเรียกร้องบังคับเอาแก่จำเลยแล้ว โจทก์ย่อมหมดสิทธิ ที่จะบังคับคดีแก่จำเลย จึงไม่อาจนำหนี้มาฟ้องจำเลยให้ล้มละลายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6885/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฝากทรัพย์: การชำระดอกเบี้ยรายปีเป็นการรับสภาพหนี้ ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของ อ. ฟ้องเรียกเงินฝากที่ อ. ฝากไว้คืนจากจำเลย ไม่ใช่กรณีที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดเพื่อใช้เงินบำเหน็จ ค่าฝากทรัพย์ชดใช้เงินค่าใช้จ่าย และใช้ค่าสินไหมทดแทนเกี่ยวแก่การฝากทรัพย์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 671 จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30
แม้ตามสำเนาสมุดเงินฝากประจำมีการแสดงยอดเงินคงเหลือครั้งสุดท้ายนับถึงวันฟ้องเป็นเวลากว่า 10 ปี แต่ตามระเบียบการฝากเงินประจำโดยใช้สมุดคู่ฝากที่ปรากฏในสำเนาสมุดเงินฝากประจำข้อ 3 ระบุว่า การฝากทุก ๆ รายการจำเลยถือว่าผู้ฝากประจำตกลงฝากประจำมีกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันเดือนปีที่ปรากฏของแต่ละรายการนั้น ๆ และข้อ 4 ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยจำเลยคำนวณให้เช่นเดียวกับเงินฝากประจำอื่น ดังนี้ ?ฯลฯ ฝากตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไปและได้ฝากครบกำหนดระเวลานั้น คำนวณดอกเบี้ยให้ร้อยละ 8 ต่อปี กับข้อ 5 ระบุว่า ระเบียบการนอกจากนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบและประเพณีพึงปฏิบัติของธนาคารทุกประการ โดยระเบียบและประเพณีและข้อตกลงดังกล่าวจำเลยต้องแสดงยอดเงินฝากคงเหลือของเงินฝากแต่ละรายการพร้อมดอกเบี้ยทุกระยะ 1 ปี ต่อครั้งให้แก่ผู้ฝาก แม้จะยังมิได้แสดงไว้ในสำเนาสมุดเงินฝาก ก็ถือว่าจำเลยได้ปฏิบัติการชำระดอกเบี้ยทุกระยะเวลา 1 ปี อันเป็นการรับสภาพหนี้ต่อ ผู้ฝากด้วย การชำระดอกเบี้ยตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/14 (1) เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงและอายุความจะสะดุดหยุดลงเรื่อยไปทุกระยะเวลา 1 ปี ฉะนั้น แม้โจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกเงินฝากคืนพร้อมดอกเบี้ยหลังจากที่จำเลยปฏิเสธการจ่ายเงินประมาณเกือบสองปีแล้ว ก็ยังไม่พ้นกำหนดอายุความ 10 ปี จึงไม่ขาดอายุความ
แม้ตามสำเนาสมุดเงินฝากประจำมีการแสดงยอดเงินคงเหลือครั้งสุดท้ายนับถึงวันฟ้องเป็นเวลากว่า 10 ปี แต่ตามระเบียบการฝากเงินประจำโดยใช้สมุดคู่ฝากที่ปรากฏในสำเนาสมุดเงินฝากประจำข้อ 3 ระบุว่า การฝากทุก ๆ รายการจำเลยถือว่าผู้ฝากประจำตกลงฝากประจำมีกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันเดือนปีที่ปรากฏของแต่ละรายการนั้น ๆ และข้อ 4 ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยจำเลยคำนวณให้เช่นเดียวกับเงินฝากประจำอื่น ดังนี้ ?ฯลฯ ฝากตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไปและได้ฝากครบกำหนดระเวลานั้น คำนวณดอกเบี้ยให้ร้อยละ 8 ต่อปี กับข้อ 5 ระบุว่า ระเบียบการนอกจากนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบและประเพณีพึงปฏิบัติของธนาคารทุกประการ โดยระเบียบและประเพณีและข้อตกลงดังกล่าวจำเลยต้องแสดงยอดเงินฝากคงเหลือของเงินฝากแต่ละรายการพร้อมดอกเบี้ยทุกระยะ 1 ปี ต่อครั้งให้แก่ผู้ฝาก แม้จะยังมิได้แสดงไว้ในสำเนาสมุดเงินฝาก ก็ถือว่าจำเลยได้ปฏิบัติการชำระดอกเบี้ยทุกระยะเวลา 1 ปี อันเป็นการรับสภาพหนี้ต่อ ผู้ฝากด้วย การชำระดอกเบี้ยตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/14 (1) เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงและอายุความจะสะดุดหยุดลงเรื่อยไปทุกระยะเวลา 1 ปี ฉะนั้น แม้โจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกเงินฝากคืนพร้อมดอกเบี้ยหลังจากที่จำเลยปฏิเสธการจ่ายเงินประมาณเกือบสองปีแล้ว ก็ยังไม่พ้นกำหนดอายุความ 10 ปี จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความชำรุดบกพร่อง: การซ่อมแซมต่อเนื่องทำให้อายุความสะดุดหยุดลง จนจำเลยปฏิเสธความรับผิดจึงเริ่มนับอายุความใหม่
โจทก์ผู้ซื้อพบ เสื้อเกียร์แตกครั้งแรกเมื่อวันที่27มีนาคม2532และจำเลยที่1ผู้ขายได้รับไปซ่อมเมื่อวันที่29มีนาคม2532แล้วนำมาส่งคืนถือว่าจำเลยที่1กระทำการอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์แล้วอายุความย่อมสะดุดหยุดลงตั้งแต่วันที่ได้รับไปซ่อมแต่เมื่อเสื้อเกียร์ก็ยังแตกอีกหลายครั้งโดยจำเลยที่1ไม่สามารถแก้ไขความ ชำรุดบกพร่องในจุดเดิมได้อายุความจึงยังคงสะดุดหยุดลงอยู่ต่อมาโจทก์แจ้งให้จำเลยที่1ส่งช่างไปแก้ไขแต่จำเลยที่1ปฏิเสธความรับผิดเป็นเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นได้สิ้นสุดลงต้อง เริ่มนับอายุความ 1ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา474ใหม่ตั้งแต่วันดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1467/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความค่าจ้าง, การรับผิดส่วนตัวจากการจ้าง, และการชำระหนี้บางส่วนทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
จำเลยที่2ให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ว่าจำเลยที่1และที่2ไม่ได้ว่าจ้างให้โจทก์ทำงานตกแต่งห้องชุดมิได้ให้การว่าโจทก์มิได้ทำงานให้ตามรายการหนึ่งรายการใดคดีจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์ทำงานครบถ้วนตามรายการหรือไม่การที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยในประเด็นข้อนี้เพราะไม่ใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาโดยชอบในศาลชั้นต้นจึงชอบแล้ว จำเลยที่2มิได้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนจำเลยที่1ในขณะทำสัญญาว่าจ้างโจทก์จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่2จ้างโจทก์ในนามของจำเลยที่1จึงผูกพันจำเลยที่2เป็นส่วนตัวดังนั้นการที่ศาลพิพากษาให้จำเลยที่2รับผิดเป็นส่วนตัวจึงไม่เป็นการพิพากษานอกประเด็นเพราะฟ้องของโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันว่าจ้างโจทก์ สิทธิเรียกร้องค่าจ้างอายุความ2ปีโดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่โจทก์ทำงานแล้วเสร็จและส่งมอบงานในกำหนดการที่จำเลยที่2ชำระค่าจ้างบางส่วนให้แก่โจทก์ภายในกำหนดอายุความจึงเป็นเหตุให้ อายุความสะดุดหยุดลงและ เริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันดังกล่าวเมื่อวันครบกำหนดอายุความเป็น วันหยุดราชการ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องคดีในวันที่เริ่มทำงานใหม่ดังนั้นคดีจึงหาขาดอายุความไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 322/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้ทำให้ อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับใหม่ได้ แต่ดอกเบี้ยเกิน 5 ปีเป็นโมฆะ
จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้เงินกู้ให้โจทก์ภายในอายุความ อายุความฟ้องเรียกเงินกู้สะดุดหยุดลงต้องเริ่มนับอายุความกันใหม่ตั้งแต่วันสิ้นกำหนดเวลาที่จำเลยทำสัญญาว่าจะนำเงินมาชำระหนี้โจทก์ เมื่อหนี้เงินต้นยังไม่ขาดอายุความ โจทก์ผู้รับจำนองจึงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกินกว่า 5 ปีได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.พ.พ. มาตรา 189
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5705/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้ทำให้ อายุความสะดุดหยุดลง และโจทก์ฟ้องคดีภายใน 2 ปี จึงไม่ขาดอายุความ
การที่จำเลยลูกหนี้ลงชื่อรับทราบยอดหนี้ค่าสินค้าที่ติดค้างทั้งหมดแก่โจทก์เจ้าหนี้โดยมิได้อิดเอื้อน ถือว่าจำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้แก่โจทก์แล้ว เมื่อเป็นการรับสภาพหนี้ในเวลาก่อนที่อายุความจะครบบริบูรณ์ จึงทำให้อายุความใช้สิทธิเรียกร้องของโจทก์สะดุดหยุดลง โจทก์ฟ้องคดียังไม่เกินกำหนด 2 ปีคดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3050/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้ทำให้ อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับใหม่จากวันที่รับสภาพหนี้
ข้อความที่ศาลชั้นต้นบันทึกไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาว่า จำเลยทั้งสองจะนำเงินมาชำระให้โจทก์ 30,000 บาท ในวันที่ 15 เดือนหน้าซึ่งโจทก์ยอมตามนี้ เป็นเพียงความตกลงในการที่จำเลยทั้งสองจะนำเงินตามเช็คมาชำระให้โจทก์ในภายหลัง มิได้มีข้อตกลงที่โจทก์ยอมผ่อนผันให้แก่จำเลยทั้งสองเพื่อระงับข้อพิพาท จึงไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่เป็นหนังสือรับสภาพหนี้
จำเลยทั้งสองได้ยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่าจำเลยรับสภาพหนี้เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงได้
เมื่อมีการรับสภาพหนี้ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงแล้ว ต้องเริ่มนับใหม่ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสิ้นสุดเป็นต้นไป ในกรณีนี้คือต้องเริ่มนับใหม่ตั้งแต่วันที่จำเลยทั้งสองรับสภาพหนี้ต่อโจทก์.
จำเลยทั้งสองได้ยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่าจำเลยรับสภาพหนี้เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงได้
เมื่อมีการรับสภาพหนี้ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงแล้ว ต้องเริ่มนับใหม่ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสิ้นสุดเป็นต้นไป ในกรณีนี้คือต้องเริ่มนับใหม่ตั้งแต่วันที่จำเลยทั้งสองรับสภาพหนี้ต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3050/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง แม้ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ
ข้อความที่ศาลชั้นต้นบันทึกไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาคดีอาญาเรื่องความผิดอันเกี่ยวกับการใช้เช็คว่า จำเลยทั้งสองจะนำเงินมาชำระให้โจทก์ 30,000 บาทในวันที่ 15 เดือนหน้าซึ่งโจทก์ยอมตามนี้เป็นเพียงความตกลงในการที่จำเลยทั้งสองจะนำเงินตามเช็คมาชำระให้โจทก์ในภายหลัง มิได้มีข้อตกลงที่โจทก์ยอมผ่อนผันให้แก่จำเลยทั้งสองเพื่อระงับข้อพิพาท จึงไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความแต่ข้อตกลงดังกล่าวนั้นจำเลยทั้งสองยอมรับว่าเป็นหนี้โจทก์ตามเช็คจำนวน 30,000 บาท จึงเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ ดังนี้ ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความภาษี: การประเมินภาษีของเจ้าพนักงานประเมินถือเป็นการสั่งบังคับ ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
เจ้าพนักงานประเมินภาษีเงินได้สั่งให้โจทก์เสียภาษีให้ถูกต้องเป็นการสั่งบังคับได้ตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 12 โดยไม่ต้องฟ้องจึงมีผลเป็นอย่างเดียวกับการฟ้องคดีอายุความสะดุดหยุดลงตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173