พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2684/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างบริการขนส่ง: การผิดสัญญา, อายุความ 10 ปี, และขอบเขตความรับผิด
ตามสัญญาจ้างบริการขนส่งสิ่งอุปกรณ์ (ยุทโธปกรณ์ทางทหาร) ระหว่างโจทก์ที่ 1 กับจำเลยที่ 1 ที่ให้จำเลยที่ 1 ดำเนินการจัดบริการขนส่งสิ่งอุปกรณ์มาส่งมอบให้แก่โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 4 ในข้อ 17 ระบุว่า เมื่อโจทก์ที่ 1 เห็นว่า จำเลยที่ 1 ไม่เหมาะสมที่จะดำเนินการรับจัดบริการขนส่ง เป็นต้นว่า ไม่สามารถที่จะควบคุมสั่งการประสานงานกับตัวแทนจัดการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โจทก์ที่ 1 มีอำนาจบอกเลิกสัญญาได้ ข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้จำเลยที่ 1 มีหน้าที่ต้องควบคุมสั่งการประสานงานกับตัวแทนจัดการขนส่งให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่จำเลยที่ 1 ขัดแย้งกับตัวแทนจัดการขนส่งถึงขนาดบอกเลิกการเป็นตัวแทนจัดการขนส่งสิ่งอุปกรณ์อีกต่อไปและทำให้ตัวแทนจัดการขนส่งกักสิ่งอุปกรณ์ที่โจทก์ที่ 1 ว่าจ้างให้จำเลยที่ 1 ดำเนินการจัดบริการขนส่งไว้นั้น ต้องด้วยกรณีที่จำเลยที่ 1 ไม่สามารถควบคุมตัวแทนจัดการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพอันเป็นการปฏิบัติผิดสัญญาจ้างบริการขนส่งสิ่งอุปกรณ์ ข้อ 17 ดังกล่าวแล้ว โจทก์ที่ 1 จึงใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาได้
โจทก์ทั้งสี่ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 1 เพราะเหตุจำเลยที่ 1 ไม่ปฏิบัติตามสัญญาโดยไม่สามารถจัดการขนส่งสิ่งอุปกรณ์ให้แก่โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 4 เป็นเหตุให้โจทก์ทั้งสี่เสียหายในการดำเนินการจัดส่งคณะผู้แทนและทนายความของโจทก์ที่ 1 ไปประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อติดตามเอาคืนสิ่งอุปกรณ์ที่ถูกกักเก็บโดยตัวแทนจัดการขนส่งของจำเลยที่ 1 และโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 4 ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการนำสิ่งอุปกรณ์ออกจากโกดังของตัวแทนจัดการขนส่งดังกล่าวที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อส่งมายังประเทศไทย รวมทั้งความเสียหายเนื่องจากสิ่งอุปกรณ์บุบสลายและสูญหาย อันสืบเนื่องมาจากการที่จำเลยที่ 1 ไม่สามารถจัดการขนส่งให้ได้ จึงเป็นกรณีที่โจทก์ทั้งสี่ฟ้องเรียกค่าเสียหายอันเนื่องจากจำเลยที่ 1 ไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้างบริการขนส่งสิ่งอุปกรณ์ ซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ มิใช่กรณีฟ้องผู้ขนส่งให้รับผิดในกรณีที่ดำเนินการขนส่งสินค้าแล้วสินค้าสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งชักช้าในระหว่างการขนส่งซึ่งอยู่ในบังคับอายุความ 1 ปี นับแต่ส่งมอบหรือวันที่ควรจะได้ส่งมอบตาม ป.พ.พ. มาตรา 624 สิทธิเรียกร้องของโจทก์ทั้งสี่จึงมีอายุความ 10 ปี ตามมาตรา 193/30
โจทก์ทั้งสี่ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 1 เพราะเหตุจำเลยที่ 1 ไม่ปฏิบัติตามสัญญาโดยไม่สามารถจัดการขนส่งสิ่งอุปกรณ์ให้แก่โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 4 เป็นเหตุให้โจทก์ทั้งสี่เสียหายในการดำเนินการจัดส่งคณะผู้แทนและทนายความของโจทก์ที่ 1 ไปประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อติดตามเอาคืนสิ่งอุปกรณ์ที่ถูกกักเก็บโดยตัวแทนจัดการขนส่งของจำเลยที่ 1 และโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 4 ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการนำสิ่งอุปกรณ์ออกจากโกดังของตัวแทนจัดการขนส่งดังกล่าวที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อส่งมายังประเทศไทย รวมทั้งความเสียหายเนื่องจากสิ่งอุปกรณ์บุบสลายและสูญหาย อันสืบเนื่องมาจากการที่จำเลยที่ 1 ไม่สามารถจัดการขนส่งให้ได้ จึงเป็นกรณีที่โจทก์ทั้งสี่ฟ้องเรียกค่าเสียหายอันเนื่องจากจำเลยที่ 1 ไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้างบริการขนส่งสิ่งอุปกรณ์ ซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ มิใช่กรณีฟ้องผู้ขนส่งให้รับผิดในกรณีที่ดำเนินการขนส่งสินค้าแล้วสินค้าสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งชักช้าในระหว่างการขนส่งซึ่งอยู่ในบังคับอายุความ 1 ปี นับแต่ส่งมอบหรือวันที่ควรจะได้ส่งมอบตาม ป.พ.พ. มาตรา 624 สิทธิเรียกร้องของโจทก์ทั้งสี่จึงมีอายุความ 10 ปี ตามมาตรา 193/30
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2690/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาจ้างบริการแยกจากสัญญาเช่า: ศาลฎีกาตัดสินเรื่องอายุความต่างกัน
การบริการต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในสัญญาจ้างบริการที่พิพาทเช่นการรักษาความปลอดภัย การบริการให้มีน้ำประปาใช้ในบริเวณห้องสุขาสาธารณะการบำรุงรักษาอาคารและสาธารณูปโภค เป็นต้น เป็นเรื่องที่โจทก์ในฐานะเจ้าของอาคารผู้ให้เช่าจัดการสิ่งบริการต่าง ๆ ดังกล่าวให้แก่จำเลยผู้เช่าอาคาร โดยโจทก์เรียกเก็บค่าบริการเป็นรายเดือนจากจำเลย อันเป็นการดำเนินการประจำเป็นปกติธุระ ถือว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบธุรกิจในการรับทำการงานต่าง ๆ เรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้นตาม ป.พ.พ.มาตรา 193/34 (7) มีอายุความสองปี
ข้อความที่ระบุในสัญญาเช่าอาคารให้ถือว่าสัญญาจ้างบริการเป็นส่วนหนึ่งของอายุการเช่าเท่านั้น มิใช่ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อสัญญาเช่าอาคารทั้งหมด ดังนี้จะนำอายุความตาม ป.พ.พ.มาตรา 193 /33 (3) (4) (5)หรือมาตรา 193/34 (1) มาใช้บังคับมิได้
ฎีกาโจทก์ที่ว่า จำเลยให้การต่อสู้เรื่องอายุความแต่เพียงว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความตาม ป.พ.พ.มาตรา 165 (เดิม), 563 โดยมิได้ให้เหตุผลประกอบข้ออ้างแต่อย่างใด ไม่เป็นประเด็นข้อพิพาทนั้น เมื่อจำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์มิได้กล่าวแก้ยกประเด็นข้อนี้ในคำแก้อุทธรณ์ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ข้อความที่ระบุในสัญญาเช่าอาคารให้ถือว่าสัญญาจ้างบริการเป็นส่วนหนึ่งของอายุการเช่าเท่านั้น มิใช่ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อสัญญาเช่าอาคารทั้งหมด ดังนี้จะนำอายุความตาม ป.พ.พ.มาตรา 193 /33 (3) (4) (5)หรือมาตรา 193/34 (1) มาใช้บังคับมิได้
ฎีกาโจทก์ที่ว่า จำเลยให้การต่อสู้เรื่องอายุความแต่เพียงว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความตาม ป.พ.พ.มาตรา 165 (เดิม), 563 โดยมิได้ให้เหตุผลประกอบข้ออ้างแต่อย่างใด ไม่เป็นประเด็นข้อพิพาทนั้น เมื่อจำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์มิได้กล่าวแก้ยกประเด็นข้อนี้ในคำแก้อุทธรณ์ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2690/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ค่าบริการ: สัญญาจ้างบริการแยกจากสัญญาเช่า สิทธิเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34(7)
การบริการต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในสัญญาจ้างบริการที่พิพาทเช่นการรักษาความปลอดภัย การบริการให้มีน้ำประปาใช้ในบริเวณห้องสุขาสาธารณะการบำรุงรักษาอาคารและสาธารณูปโภค เป็นต้นเป็นเรื่องที่โจทก์ในฐานะเจ้าของอาคารผู้ให้เช่าจัดการสิ่งบริการต่าง ๆ ดังกล่าวให้แก่จำเลยผู้เช่าอาคาร โดยโจทก์เรียกเก็บค่าบริการเป็นรายเดือนจากจำเลย อันเป็นการดำเนินการประจำเป็นปกติธุระ ถือว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบธุรกิจในการรับทำการงานต่าง ๆ เรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34(7) มีอายุความสองปี ข้อความที่ระบุในสัญญาเช่าอาคารให้ถือว่าสัญญาจ้างบริการเป็นส่วนหนึ่งของอายุการเช่าเท่านั้น มิใช่ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อสัญญาเช่าอาคารทั้งหมด ดังนี้จะนำอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/33(3)(4)(5) หรือมาตรา 193/34(1) มาใช้บังคับมิได้ ฎีกาโจทก์ที่ว่า จำเลยให้การต่อสู้เรื่องอายุความแต่เพียงว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(เดิม)563 โดยมิได้ให้เหตุผลประกอบข้ออ้างแต่อย่างใด ไม่เป็นประเด็นข้อพิพาทนั้น เมื่อจำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์มิได้กล่าวแก้ยกประเด็นข้อนี้ในคำแก้อุทธรณ์ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2690/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ค่าบริการ: สัญญาจ้างบริการต่างจากสัญญาเช่า และอายุความตามลักษณะธุรกิจ
การบริการต่างๆตามที่ระบุไว้ในสัญญาจ้างบริการที่พิพาทเช่นการรักษาความปลอดภัยการบริการให้มีน้ำประปาใช้ในบริเวณห้องสุขาสาธารณะการบำรุงรักษาอาคารและสาธารณูปโภคเป็นต้นเป็นเรื่องที่โจทก์ในฐานะเจ้าของอาคารผู้ให้เช่าจัดการสิ่งบริการต่างๆดังกล่าวให้แก่จำเลยผู้เช่าอาคารโดยโจทก์เรียกเก็บค่าบริการเป็นรายเดือนจากจำเลยอันเป็นการดำเนินการประจำเป็นปกติธุระถือว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบธุรกิจในการรับทำการงานต่างๆเรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา193/34(7)มีอายุความสองปี ข้อความที่ระบุในสัญญาเช่าอาคารให้ถือว่าสัญญาจ้างบริการเป็นส่วนหนึ่งของอายุการเช่าเท่านั้นมิใช่ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อสัญญาเช่าอาคารทั้งหมดดังนี้จะนำอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา193/33(3)(4)(5)หรือมาตรา193/34(1)มาใช้บังคับมิได้ ฎีกาโจทก์ที่ว่าจำเลยให้การต่อสู้เรื่องอายุความแต่เพียงว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา165(เดิม)563โดยมิได้ให้เหตุผลประกอบข้ออ้างแต่อย่างใดไม่เป็นประเด็นข้อพิพาทนั้นเมื่อจำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นโจทก์มิได้กล่าวแก้ยกประเด็นข้อนี้ในคำแก้อุทธรณ์จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับช่วงสิทธิของบริษัทประกันภัยจากการทำสัญญาจ้างบริการรักษาความปลอดภัย และความรับผิดของบริษัทรักษาความปลอดภัยต่อความเสียหาย
จำเลยทำสัญญารับจ้างรักษาความปลอดภัยสถานที่ของบริษัทท. โดยยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ในกรณีทรัพย์สินสูญหายเพราะความประมาทเลินเล่อของพนักงานรักษาความปลอดภัยของจำเลย ส่วนโจทก์รับประกันภัยทรัพย์สินของบริษัท ท. จากการบุกรุกโจรกรรม ระหว่างเวลากรมธรรม์มีผลคุ้มครอง ได้มีคนร้ายงัดประตูสำนักงานเข้าไปลักเครื่องคิดเลขของบริษัท ท. ไปเพราะความประมาทของพนักงานรักษาความปลอดภัยของจำเลยเมื่อโจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยไปก่อนแล้ว ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยซึ่งมีต่อจำเลยตามสัญญารับจ้างรักษาความปลอดภัยทันทีโดยผลของกฎหมายและมีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยได้