คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาซื้อฝาก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1866/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงจากการหลอกลวงเกี่ยวกับที่ดิน: จำเลยเจตนาชี้ที่ดินแปลงอื่นให้ผู้เสียหายหลงเชื่อก่อนทำสัญญาซื้อฝาก
จำเลยนำผู้เสียหายไปดูที่ดินของ บ. ซึ่งอยู่ติดกับถนน ร.พ.ช ผู้เสียหายจึงตกลงรับซื้อฝากเพราะหลงเชื่อตามที่จำเลยหลอกลวงว่าที่ดินของ บ. คือที่ดินของจำเลยที่จะขายฝากแก่ผู้เสียหาย และหลังจากจำเลยขายฝากที่ดินให้แก่ผู้เสียหายแล้ว จำเลยก็ไม่ได้สนใจขวนขวายจะมาซื้อคืนจากผู้เสียหาย เพราะว่าที่ดินแปลงดังกล่าวกับที่ดินของ บ. ที่จำเลยนำชี้ให้ผู้เสียหายดูมีความแตกต่างกันมากโดยที่ดินของจำเลยมีสภาพเป็นป่า รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปถึง แต่ที่ดินของบ. เป็นที่นาทำประโยชน์ได้แล้วและอยู่ติดถนน ร.พ.ช แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนานำชี้ที่ดินแปลงของ บ. เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายว่าเป็นที่ดินของจำเลยที่ประสงค์จะขายฝากแก่ผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและรับซื้อฝากที่ดินแปลงของจำเลยไว้จำเลยจึงมีความผิดฐานฉ้อโกง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าที่ดินธรณีสงฆ์: สัญญาซื้อฝากไม่ผูกพันจำเลย ผู้รับซื้อฝากไม่เกิดสิทธิเช่า
โจทก์รับซื้อฝากบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ธรณีสงฆ์ไว้จาก ฉ. มีกำหนด 1 ปี โดยมีข้อสัญญาด้วยว่า ถ้าฉ.ไม่ไถ่บ้านคืนภายใน 1 ปี ฉ.ยอมโอนสิทธิการเช่าที่ธรณีสงฆ์ให้โจทก์ ครั้นครบ 1 ปีบ้านหลุดเป็นสิทธิแก่โจทก์ ฉ.กลับยื่นคำร้องต่อจำเลย ซึ่งเป็นผู้จัดการผลประโยชน์ที่ธรณีสงฆ์ขอโอนสิทธิการเช่าให้แก่ ท. ด. เจ้าหน้าที่ของจำเลยได้รายงานเท็จต่อคณะกรรมการจัดผลประโยชน์ของจำเลยว่าไม่มีบ้านปลูกอยู่ในที่ดิน คณะกรรมการจึงอนุญาตให้ ท. เป็นผู้เช่าแทน ฉ.ได้ ดังนี้แม้ในทางปฏิบัติจะมีความเห็นของเจ้าหน้าที่ว่า ผู้ใดเป็นเจ้าของบ้านผู้นั้นควรได้รับเช่าที่ดินก็ตาม แต่ก็มิใช่ข้อบังคับเด็ดขาดว่า จำเลยต้องเช่าเสมอไป การที่มีข้อสัญญาระหว่าง ฉ.กับโจทก์นั้นจำเลยก็มิได้เป็นคู่สัญญาด้วย ข้อตกลงดังกล่าวไม่ผูกพันจำเลย ฉะนั้น การที่โจทก์รับซื้อฝากบ้านจนหลุดเป็นสิทธิไม่ก่อให้เกิดสิทธิการเช่าที่ดิน และจำเลยไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องให้โจทก์เช่าที่พิพาท การที่เจ้าหน้าที่ของจำเลยทำรายงานเท็จก็เป็นเรื่องทำผิดวินัยตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนส่วนหนึ่งต่างหาก หาใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้โจทก์ไม่ได้เช่าที่พิพาทไม่ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดฐานกระทำละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเรื่องสัญญาซื้อฝากและสัญญากู้เงิน: ศาลอนุญาตให้สืบพยานได้หากมูลหนี้เป็นไปได้
โจทก์ฟ้องว่า สามีโจทก์ได้ขายฝากที่นาไว้กับจำเลยแต่มีเงินให้ไม่ครบ จำเลยจึงทำเป็นหนังสือสัญญากู้เงินให้แก่โจทก์ไว้ขอให้ใช้เงินศาลจะสั่งให้งดสืบพยานโจทก์เสียหาชอบไม่เพราะมูลหนี้ตามฟ้องย่อมเป็นไปได้ไม่เป็นการฝืนความจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยินยอมไม่ติดใจว่ากล่าวหลังทำสัญญาซื้อฝากแล้ว แม้มีการยักยอกก่อนหน้า สิทธิเรียกร้องย่อมระงับ
จำเลยได้ทำใบรับเงินให้แก่ผู้เสียหาย 1 ฉบับ มีข้อความว่าจำเลยได้รับเงินจากผู้เสียหาย 1 หมื่นบาทเพื่อซื้อแร่จากจังหวัดยะลามาให้ผู้เสียหายแล้วจำเลยได้กลับมาแจ้งแก่ผู้เสียหายว่าได้เอาเงิน 7000 บาท ไปวางมัดจำสำหรับทำสัญญาซื้อแร่ และได้นำเงินที่เหลือมาคืน ต่อมาจำเลยจึงได้ทำสัญญาขายฝากโรงงานถลุงแร่ของจำเลยแก่ผู้เสียหายจำนวนราคาขายฝากให้ถือเอาหลักฐานที่จำเลยทำไว้กับผู้เสียหาย คือสัญญากู้ยืม และรับเงินรวม 3 ฉบับและเงินจำนวน 1 หมื่นบาทดังกล่าวข้างต้นได้รวมอยู่เป็นค่าซื้อฝากโรงงานด้วย หลังจากทำสัญญาขายฝากแล้วผู้เสียหายจึงได้ทราบว่า จำเลยยักยอกเอาเงิน 7000 บาทซึ่งอ้างว่าไปวางมัดจำซื้อแร่นั้น เอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย
การที่ผู้เสียหายตกลงทำสัญญากับจำเลยเอาเงินที่หาว่าจำเลยยักยอกไปรวมเป็นราคาค่าซื้อฝากของโรงงานของจำเลยเสร็จไปแล้วนั้น ผู้เสียหายจะกลับรื้อฟื้นขึ้นมาว่ากล่าวฟ้องร้องไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางแพ่งขอให้คืนเงินรายนี้หรือทางอาญาขอให้ลงโทษฐานยักยอก เพราะการตกลงกับจำเลยดังกล่าวข้างต้นนั้น มีผลเป็นการยินยอมไม่ติดใจว่ากล่าวในเงินรายนี้แล้ว
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงผิดจากพยานหลักฐานในท้องสำนวนศาลฎีกาไม่จำต้องถือตามและมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 501/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อฝากจากผู้ไม่มีสิทธิ + เจ้าของไม่ฟ้องคัดค้านในเวลาที่กำหนด = ผู้รับซื้อฝากไม่มีสิทธิในที่ดิน
ที่ดิน ขับไล่ สัญญารับซื้อฝากจากผู้ไม่ใช่เจ้าของโดยรู้แล้วแม้สัญญาซื้อฝากจะทำเป็นกรมธรรมและชอบด้วยกฎหมาย ทั้งเจ้าของอันแท้จริงจะมิได้ฟ้องร้องตามที่เจ้าพนักงานสั่งในเวลาที่ซื้อขายฝากก็ดี ผู้รับซื้อฝากไม่มีสิทธิในที่ดินนั้น