คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สำนึกผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำร้ายแม่ยายด้วยไฟฟ้า แม้แรงดันต่ำ ศาลไม่รอการลงโทษ เหตุจำเลยขาดสำนึกผิด
การที่จำเลยใช้กระแสไฟฟ้าทำอันตรายแก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นแม่ยายของจำเลยและมีอายุถึง 56 ปี จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจแม้จะเป็นกระแสไฟฟ้าเพียง 12 โวลต์ ก็ตาม ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง หลังเกิดเหตุจำเลยไม่ได้แสดงความรับผิดชอบหรือรู้สำนึกในการกระทำความผิดด้วยการดูแลรักษาพยาบาลหรือชดใช้ค่าเสียหายหรือขอขมาต่อผู้เสียหายแต่ประการใดจนเมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 2พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้ว จำเลยจึงได้นำบันทึกของผู้เสียหายที่ระบุว่าไม่ติดใจเอาความแก่จำเลยมาแสดง การกระทำดังกล่าวของจำเลยมิได้ทำด้วยความรู้สำนึกในการกระทำความผิด แต่ทำเพื่อประโยชน์ในทางคดีของตนเท่านั้น จึงไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รอการลงโทษคดีค้าประเวณี: พฤติการณ์ผู้ต้องหาไม่สำนึกผิด, มีประวัติอาชญากรรม, และมีแนวโน้มกระทำผิดซ้ำ
จำเลยกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าของกิจการและสถานการค้าประเวณี และฐานเป็นธุระจัดหาซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี อันเป็นความผิดสองกรรมและจากรายงานการสืบเสาะและพินิจของพนักงานคุมประพฤติปรากฏว่าจำเลยยังเป็นเจ้าของสถานที่ในลักษณะเดียวกันกับสถานที่ในคดีนี้อีกแห่งหนึ่ง โดยมีการแบ่งเป็นห้องเล็ก ๆ ภายในไว้สำหรับบริการทางเพศแสดงว่าจำเลยมิได้รู้สึกยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมืองนอกจากนี้จำเลยยังมีนิสัยและความประพฤติเป็นนักเลงอันธพาลและพกพาอาวุธปืน มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้อื่นมาหลายครั้งซึ่งจำเลยทราบรายงานดังกล่าวก็มิได้คัดค้านและพนักงานคุมประพฤติเห็นว่าการใช้วิธีคุมประพฤติน่าจะไม่ได้ผลกับจำเลย ตามพฤติการณ์แห่งคดีประกอบกับความประพฤติของจำเลยจึงไม่สมควรที่จะรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1883/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาตและการมอบตัวแสดงความสำนึกผิดเป็นเหตุสมควรรอการลงโทษ
จำเลยมีอาวุธปืนเล็กกล 1 กระบอก และกระสุนปืน 4 นัด แม้เป็นอาวุธร้ายแรง แต่จำเลยนำมามอบให้เจ้าพนักงาน และมอบตัวต่อเจ้าพนักงานโดยสมัครใจ ชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาจำเลยให้การรับสารภาพ กรณีมีเหตุสมควรรอการลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 29/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนาเพื่อชิงทรัพย์: ลดโทษจากความสำนึกผิดและสภาพครอบครัว
เหตุที่เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากการที่ผู้ตายซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยทั้งสองดุด่า จำเลยที่ 2 ด้วยถ้อยคำรุนแรงสร้างความเจ็บแค้นแก่จำเลยที่ 2 และจำเลยทั้งสองประสงค์ต่อทรัพย์จึงกระทำผิดขึ้นจำเลยที่ 1 พึ่งอายุได้ 18 ปี ในขณะเกิดเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับความกระทบกระเทือนกับปัญหาในครอบครัว บิดามารดาจำเลยที่ 1หย่าร้าง จำเลยที่ 1 อยู่กับมารดาซึ่งมีสามีใหม่และมีบุตรเกิดกับสามีใหม่ ส่วนมารดาจำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตายตั้งแต่จำเลยที่ 2ยังเป็นเด็กบิดามีภริยาใหม่แล้วมีบุตรกับภริยาใหม่ ชั้นจับกุมจำเลยทั้งสองยอมให้จับกุมแต่โดยดีและรับสารภาพโดยตลอดตั้งแต่ชั้นจับกุม ชั้นสอบสวนจนถึงชั้นศาลทั้ง ๆ ที่ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ในขณะเกิดเหตุ จึงเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานและให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1180/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการหึงหวง ศาลลดโทษเนื่องจากความสำนึกผิดและพฤติการณ์หลังเกิดเหตุ
จำเลยสำนึกผิดในการกระทำของตนต่อผู้ตายซึ่งจำเลยหลงรักถือเป็นสามีเมื่อแทงและฟันผู้ตายจนล้มลงแล้วจำเลยมีโอกาสหลบหนีไปได้แต่ไม่หลบหนีกลับเข้าประคองกอดผู้ตายไว้จนสิ้นใจตายรอให้เจ้าพนักงานมาจับตัวไปดำเนินคดีและให้การรับสารภาพเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานด้วยความสำนึกผิดไม่ได้คิดที่จะต่อสู้คดีมาตั้งแต่ต้นการรับสารภาพของจำเลยจึงไม่ใช้รับเพราะจำนนต่อพยานหลักฐานและเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษศาลลดโทษให้จำเลยได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายในครอบครัว: ศาลลดโทษจากอุกอาจร้ายแรง พิจารณาความขัดแย้งส่วนตัวและสำนึกผิด
จำเลยฟันน้องเขยด้วยมีดหมูตาย แม้เหตุจะเกิดในตลาด แต่เป็นเรื่องในระหว่างครอบครัว และเกิดในบ้านของคนทั้งสองนั้นเอง หาใช่เรื่องคนอื่นบุกรุกเข้าไปทำร้ายหรือเป็นการลอบทำร้ายไม่ จำเลยมีความเสียใจและน้อยใจอยู่แล้วเป็นทุนเดิมเพราะเหตุที่มารดาขับไล่ออกจากบ้าน เมื่อมาถูกน้องเขยล้อเลียนซึ่งจำเลยเข้าใจว่าเป็นการเยาะเย้ยอีก จึงฉวยมีดเข้าทำร้ายทันที ดังนี้ เห็นได้ชัดว่าจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะทำร้ายผู้ตายมาแต่แรก แต่โมโหร้ายเกินไปจึงฟันไปทีเดียว เพียงเท่านี้จะถือเอาเป็นเรื่องอุกอาจร้ายแรงตามมาตรา 250 ข้อ 4 หาได้ไม่ จำเลยคงผิดตามมาตรา 249 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3452/2563

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกป่าสงวน: ลดโทษรอการลงโทษเนื่องจากจำเลยสำนึกผิดและบรรเทาความเสียหาย
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยเป็นคดีอาญาตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และขอให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐ จึงเป็นการฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา การพิจารณาคดีในส่วนแพ่งต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 40 ตอนท้าย และคำพิพากษาในคดีส่วนแพ่งจะต้องกล่าวหรือแสดงเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยทั้งปวง กับต้องวินิจฉัยไปตามประเด็นแห่งคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 141 (4) (5) ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีส่วนแพ่งโดยยังมิได้สอบคำให้การจำเลย จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาคดีส่วนแพ่งไปโดยมิชอบ จึงให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 6 ในคดีส่วนแพ่ง ให้ศาลชั้นต้นสอบคำให้การจำเลยในคดีส่วนแพ่ง แล้วพิจารณาและพิพากษาคดีส่วนแพ่งไปตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5992/2564

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รอการลงโทษจำคุกในคดีเช็ค แม้ชำระหนี้ไม่ครบ แต่แสดงความสำนึกผิดและพยายามชำระหนี้
จำเลยชำระหนี้ต้นเงินตามเช็คให้แก่โจทก์ แต่มิได้นำดอกเบี้ยของต้นเงินดังกล่าวมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ ซึ่งโจทก์แถลงต่อศาลประสงค์ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยดังกล่าวให้แก่โจทก์ด้วย กรณีถือได้ว่าจำเลยยังมิได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ครบถ้วนสิ้นเชิง จึงไม่มีผลให้หนี้ดังกล่าวสิ้นผลผูกพันไปก่อนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด จึงถือไม่ได้ว่าคดีเลิกกันตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 7