คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิทธิการใช้ประโยชน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4891/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินสาธารณสมบัติ การล้อมรั้วกีดขวางสิทธิการใช้ประโยชน์ของประชาชน
ที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของลำรางอีเลิงซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน แม้จะยัง มิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินก็เป็น สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(2) การที่จำเลยล้อมรั้วในที่ดินพิพาทเป็นเหตุให้ โจทก์ไม่สามารถเข้าใช้ประโยชน์ได้ โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณสมบัติ – ข้อพิพาทสิทธิ – อำนาจฟ้อง – ป.วิ.พ.มาตรา 55
จำเลยยื่นคำร้องต่อทางราชการขอให้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาท โดยอ้างว่าได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทเต็มทั้งแปลงตลอดมา โจทก์ซึ่งเป็นกำนันตำบลท้องที่ซึ่งที่ดินตั้งอยู่ในขณะนั้นได้ไปยื่นคำร้องคัดค้านอ้างว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ประชาชนทั่วไปรวมทั้งโจทก์ใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ซึ่งเป็นที่สาธารณประโยชน์ ทางอำเภอสอบสวนแล้วได้มีคำสั่งเปรียบเทียบให้โจทก์ฟ้องร้องต่อศาลภายใน 60 วัน ดังนี้ คำสั่งดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะฟ้องจำเลยแต่อย่างใด เพราะหากที่ดินพิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่พลเมืองใช้ร่วมกันดังที่โจทก์อ้าง โจทก์และจำเลยก็ย่อมมีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวได้ การยื่นคำขอของจำเลยดังกล่าวก็ไม่ปรากฏว่าทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายยิ่งกว่าประชาชนทั่วไป และโจทก์เองก็ไม่มีกฎหมายใดกำหนดให้เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน อีกทั้งไม่ปรากฏว่าถูกจำเลยขัดขวางการใช้สิทธิในที่ดินดังกล่าวเป็นพิเศษ กรณีถือไม่ได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่อันจะทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 55

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2647/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้เป็นถนนสาธารณประโยชน์โดยเจตนา การก่อสร้างรุกล้ำที่ดินสาธารณะ และผลกระทบต่อสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินของผู้อื่น
เจ้าของที่ดินคนเดิมได้แสดงเจตนายกที่ดินพิพาทของตนบางส่วนให้เป็นถนนสาธารณประโยชน์ไปแล้วก่อนที่โจทก์ซื้อมา การที่จำเลยซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของเจ้าของเดิมปลูกสร้างอาคารและรั้วในที่พิพาทจึงเป็นการกระทำโดยปราศจากสิทธิที่จะอ้างได้โดยชอบ และทำให้โจทก์เสียหายเพราะปิดบังหน้าที่ดินและทางเข้าออกจากที่ดินของโจทก์ที่จะไปสู่ถนนใหญ่ จึงต้องรื้อถอนออกไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1520/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ สิทธิการใช้ประโยชน์สิ้นสุดเมื่อเจ้าของบอกเลิก
เมื่อจำเลยมิได้อ้างสิทธิที่จะใช้ทรัพย์สินที่เช่าตามที่กฎหมายอื่นคุ้มครองขึ้นสู้คดี จึงต้องวินิจฉัยคดี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะเช่าทรัพย์ และเมื่อการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็บังคับโจทก์ต้องให้จำเลยใช้ทรัพย์ที่เช่าไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย จำเลยสู้ว่าเช่าก็เท่ากับรับว่าจำเลยอยู่หรือใช้ทรัพย์นั้นโดยโจทก์ยินยอม เมื่อสัญญาเช่าไม่มีหรือบังคับไม่ได้ ก็ไม่มีข้อผูกพันที่ต้องยินยอม โจทก์จะไม่ยอมให้จำเลยใช้ทรัพย์ต่อไปก็ได้ เมื่อโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยออกไป จำเลยก็ไม่มีสิทธิอะไรที่จะอยู่ในที่ดินของโจทก์ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1520/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ สิทธิการใช้ประโยชน์สิ้นสุดเมื่อเจ้าของบอกเลิก
เมื่อจำเลยมิได้อ้างสิทธิที่จะใช้ทรัพย์สินที่เช่าตามที่กฎหมายอื่นคุ้มครองขึ้นสู้คดี จึงต้องวินิจฉัยคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะเช่าทรัพย์ และเมื่อการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็บังคับโจทก์ต้องให้จำเลยใช้ทรัพย์ที่เช่าไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย จำเลยสู้ว่าเช่าก็เท่ากับรับว่าจำเลยอยู่หรือใช้ทรัพย์นั้นโดยโจทก์ยินยอม เมื่อสัญญาเช่าไม่มีหรือบังคับไม่ได้ ก็ไม่มีข้อผูกพันที่ต้องยินยอม โจทก์จะไม่ยอมให้จำเลยใช้ทรัพย์ต่อไปก็ได้ เมื่อโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยออกไป จำเลยก็ไม่มีสิทธิอะไรที่จะอยู่ในที่ดินของโจทก์ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตกระทบสิทธิการใช้ประโยชน์จากสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้สิทธิโดยไม่สุจริตโดยแกล้งเอาหินมากองไว้และเอาไม้ปักเป็นหลักกันไม่ให้โจทก์เอาเรือเข้าจอดในลำแม่น้ำระนองอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งโจทก์ได้ใช้สอยมานานทำให้โจทก์เสียหายหากเป็นจริงตามฟ้องโจทก์ก็เป็นผู้ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8469/2563

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอม การใช้ประโยชน์ที่ดินส่วนกลางเกินสิทธิ และการอุทิศที่ดินเป็นทางสาธารณะ
เดิมโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่โฉนดเลขที่ 8260 แล้วโจทก์จดทะเบียนแบ่งแยกออกเป็นที่ดินแปลงย่อย 45 แปลง และก่อสร้างอาคารพาณิชย์บนที่ดินเหล่านั้นนำออกขาย คงเหลือที่ดินโฉนดเลขที่ 8260 หรือที่ดินส่วนกลาง โจทก์ยอมให้ผู้ซื้อที่ดินและอาคารพาณิชย์จากโจทก์สามารถใช้ที่ดินส่วนกลางทั้งแปลงเป็นทางเดินเข้าออกสู่ถนนสาธารณะ จึงเป็นกรณีที่โจทก์ในฐานะผู้ขายที่ดินจัดให้มีสาธารณูปโภคหรือบริการสาธารณะ และถือได้ว่าเป็นการจัดสรรที่ดินแล้ว ดังนั้น ที่ดินส่วนกลางที่โจทก์ผู้จัดสรรที่ดินจัดให้ผู้ซื้อที่ดินจัดสรรใช้เป็นทางจึงต้องตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินที่จัดสรรทุกแปลงรวมถึงที่ดินทั้งสองแปลงของจำเลยด้วย ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 286 ข้อ 1 และข้อ 30 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะที่โจทก์จัดสรรที่ดิน จำเลยในฐานะเจ้าของสามยทรัพย์ไม่มีสิทธิทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1388 จำเลยและจำเลยร่วมซึ่งเป็นผู้เช่าอาคารบนที่ดินทั้งสองแปลงของจำเลย จึงมีสิทธิเพียงใช้ที่ดินส่วนกลางเป็นทางเข้าออกเท่านั้น ไม่อาจใช้ที่ดินส่วนกลางเป็นของตนเองโดยเฉพาะด้วยการก่อสร้างดัดแปลงและต่อเติมอาคารพาณิชย์รุกล้ำเข้ามาในที่ดินส่วนกลางซึ่งเห็นได้ว่าย่อมทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ โจทก์ในฐานะผู้จัดสรรที่ดินและเจ้าของที่ดินจึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยและจำเลยร่วมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินส่วนกลางได้
แม้จำเลยร่วมซึ่งเป็นผู้เช่าของจำเลยไม่อาจใช้ที่ดินส่วนกลางเกินกว่าการใช้เป็นทางภาระจำยอมก็ตาม แต่โจทก์คงมีแต่กรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนกลางซึ่งตกเป็นภาระจำยอม โจทก์จึงต้องรับกรรมบางอย่างซึ่งกระทบถึงทรัพย์สินของตน และต้องงดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างอันมีอยู่ในกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินนั้นเพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์ของจำเลยซึ่งจำเลยร่วมเช่าด้วย โจทก์ไม่อาจนำที่ดินส่วนกลางซึ่งตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินและอาคารพาณิชย์ของผู้ซื้อไปจากโจทก์ซึ่งใช้เป็นทางเข้าออกไปหาประโยชน์ได้อีกเพราะเป็นการกระทำอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวก โจทก์จึงเรียกค่าเสียหายเป็นค่าใช้ประโยชน์ในที่ดินพิพาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินส่วนกลางจากจำเลยร่วมไม่ได้