พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7329/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิซื้อนาของผู้เช่าเมื่อผู้ให้เช่าขายโดยไม่แจ้งตามกฎหมาย: นับระยะเวลาจากครั้งแรกที่โอน
กรณีผู้ให้เช่านาขายนาไปโดยมิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 มาตรา 53 วรรคหนึ่งกล่าวคือ มิได้แจ้งให้ผู้เช่านาทราบ โดยทำเป็นหนังสือแสดงความจำนงจะขายนาพร้อมทั้งระบุราคาที่จะขายและวิธีการชำระเงินยื่นต่อประธาน คชก. ตำบลเพื่อแจ้งให้ผู้เช่านาทราบภายในสิบห้าวัน ไม่ว่านานั้นจะถูกโอนต่อไปยังผู้ใด ผู้เช่านามีสิทธิซื้อนาจากผู้รับโอน แต่ผู้เช่านาจะต้องใช้สิทธิซื้อนาดังกล่าวภายในกำหนดสองปีนับแต่วันที่ผู้เช่านารู้หรือควรจะรู้หรือภายในกำหนดสามปีนับแต่ผู้ให้เช่านาโอนนานั้นและผู้เช่านาจะต้องใช้สิทธิซื้อนาภายในกำหนดดังกล่าว นับแต่ผู้ให้เช่านาโอนนาเป็นครั้งแรก เพราะผู้เช่านามีสิทธิใช้สิทธิซื้อนาจากผู้รับโอนตามบทบัญญัติดังกล่าวทันทีมิใช่มีสิทธิใช้สิทธิซื้อนาทุกครั้งที่มีการโอนนาให้แก่ผู้รับโอนรายต่อ ๆ มา มิฉะนั้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวก็จะไม่มีโอกาสได้ใช้ เนื่องจากต้องนับระยะเวลาใหม่ตลอดเวลาที่มีการโอนต่อ ๆ ไป
ช. ได้ขายนาแปลงพิพาทนี้ให้ อ. ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2527 โดยจำเลยที่ 1ผู้เช่านาจาก ช. มิได้ใช้สิทธิซื้อที่นาดังกล่าวจาก อ. ภายในกำหนดเวลา 3 ปี นับแต่ช. โอนที่นาแปลงนี้ให้ อ. การที่จำเลยที่ 1 มายื่นคำร้องต่อ คชก. แขวงลำต้อยติ่งอ้างว่า อ. ขายนาแปลงดังกล่าวให้แก่โจทก์ และ จ. ต่อมาโดยมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 ขอให้โจทก์ผู้รับโอนขายนาให้แก่จำเลยที่ 1 ผู้เช่านาเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2535 ซึ่งล่วงเลยเวลาที่ ช. ขายนาแปลงนี้ให้แก่ อ. ประมาณ 7 ปี จำเลยที่ 1 จึงหมดสิทธิซื้อที่นาดังกล่าวตามมาตรา 54 วรรคหนึ่ง
ช. ได้ขายนาแปลงพิพาทนี้ให้ อ. ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2527 โดยจำเลยที่ 1ผู้เช่านาจาก ช. มิได้ใช้สิทธิซื้อที่นาดังกล่าวจาก อ. ภายในกำหนดเวลา 3 ปี นับแต่ช. โอนที่นาแปลงนี้ให้ อ. การที่จำเลยที่ 1 มายื่นคำร้องต่อ คชก. แขวงลำต้อยติ่งอ้างว่า อ. ขายนาแปลงดังกล่าวให้แก่โจทก์ และ จ. ต่อมาโดยมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 ขอให้โจทก์ผู้รับโอนขายนาให้แก่จำเลยที่ 1 ผู้เช่านาเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2535 ซึ่งล่วงเลยเวลาที่ ช. ขายนาแปลงนี้ให้แก่ อ. ประมาณ 7 ปี จำเลยที่ 1 จึงหมดสิทธิซื้อที่นาดังกล่าวตามมาตรา 54 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7329/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิซื้อนาของผู้เช่าเมื่อผู้ให้เช่าขายโดยไม่แจ้งตามกฎหมาย: นับระยะเวลาตั้งแต่การโอนครั้งแรก
กรณีผู้ให้เช่านาขายนาไปโดยมิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 มาตรา 53 วรรคหนึ่งกล่าวคือ มิได้แจ้งให้ผู้เช่านาทราบ โดยทำเป็นหนังสือแสดงความจำนงจะขายนาพร้อมทั้งระบุราคาที่จะขายและวิธีการชำระเงินยื่นต่อประธาน คชก. ตำบลเพื่อแจ้งให้ผู้เช่านาทราบภายในสิบห้าวัน ไม่ว่านานั้นจะถูกโอนต่อไปยังผู้ใด ผู้เช่านามีสิทธิซื้อนาจากผู้รับโอน แต่ผู้เช่านาจะต้องใช้สิทธิซื้อนาดังกล่าวภายในกำหนดสองปีนับแต่วันที่ผู้เช่านารู้หรือควรจะรู้หรือภายในกำหนดสามปีนับแต่ผู้ให้เช่านาโอนนานั้นและผู้เช่านาจะต้องใช้สิทธิซื้อนาภายในกำหนดดังกล่าว นับแต่ผู้ให้เช่านาโอนนาเป็นครั้งแรก เพราะผู้เช่านามีสิทธิใช้สิทธิซื้อนาจากผู้รับโอนตามบทบัญญัติดังกล่าวทันทีมิใช่มีสิทธิใช้สิทธิซื้อนาทุกครั้งที่มีการโอนนาให้แก่ผู้รับโอนรายต่อ ๆ มา มิฉะนั้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวก็จะไม่มีโอกาสได้ใช้ เนื่องจากต้องนับระยะเวลาใหม่ตลอดเวลาที่มีการโอนต่อ ๆ ไป
ช.ได้ขายนาแปลงพิพาทนี้ให้อ. ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2527 โดยจำเลยที่ 1ผู้เช่านาจาก ช.มิได้ใช้สิทธิซื้อที่นาดังกล่าวจากอ. ภายในกำหนดเวลา 3 ปี นับแต่ช.โอนที่นาแปลงนี้ให้อ.การที่จำเลยที่1มายื่นคำร้องต่อคชก.แขวงลำต้อยติ่งอ้างว่า อ. ขายนาแปลงดังกล่าวให้แก่โจทก์ และ จ. ต่อมาโดยมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 ขอให้โจทก์ผู้รับโอนขายนาให้แก่จำเลยที่ 1 ผู้เช่านาเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2535 ซึ่งล่วงเลยเวลาที่ ช.ขายนาแปลงนี้ให้แก่อ. ประมาณ 7 ปี จำเลยที่ 1 จึงหมดสิทธิซื้อที่นาดังกล่าวตามมาตรา 54 วรรคหนึ่ง
ช.ได้ขายนาแปลงพิพาทนี้ให้อ. ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2527 โดยจำเลยที่ 1ผู้เช่านาจาก ช.มิได้ใช้สิทธิซื้อที่นาดังกล่าวจากอ. ภายในกำหนดเวลา 3 ปี นับแต่ช.โอนที่นาแปลงนี้ให้อ.การที่จำเลยที่1มายื่นคำร้องต่อคชก.แขวงลำต้อยติ่งอ้างว่า อ. ขายนาแปลงดังกล่าวให้แก่โจทก์ และ จ. ต่อมาโดยมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 ขอให้โจทก์ผู้รับโอนขายนาให้แก่จำเลยที่ 1 ผู้เช่านาเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2535 ซึ่งล่วงเลยเวลาที่ ช.ขายนาแปลงนี้ให้แก่อ. ประมาณ 7 ปี จำเลยที่ 1 จึงหมดสิทธิซื้อที่นาดังกล่าวตามมาตรา 54 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2259/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับตามคำวินิจฉัยคชก.ที่ดิน เกินกำหนดสิทธิซื้อนา และผลกระทบต่ออำนาจฟ้อง
ฟ้องโจทก์เป็นการร้องขอต่อศาลให้บังคับกรณีมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยหรือคำสั่งอันเป็นที่สุดของคชก.ตำบลหรือคชก.จังหวัดซึ่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฯมาตรา58วรรคแรกให้นำบทบัญญัติว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลมและตามพระราชบัญญัติ อนุญาโตตุลาการฯมาตรา24วรรคแรกให้ศาลมีอำนาจทำคำสั่งปฏิเสธไม่รับบังคับตามคำชี้ขาดในกรณีที่ศาลเห็นว่า คำชี้ขาด ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ใช้บังคับแก่ข้อพิพาทนั้นเมื่อพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฯมาตรา56วรรคแรกบัญญัติให้ ผู้เช่านาต้องใช้สิทธิซื้อนาพิพาทภายในกำหนดเวลา2ปีนับแต่วันที่ผู้เช่านารู้หรือควรจะรู้หรือภายในกำหนดเวลา3ปีนับแต่ผู้ให้เช่านาโอนนานั้นแต่ตามฟ้องปรากฏว่าจำเลยที่1โอนขายนาพิพาทให้แก่จำเลยที่2เมื่อวันที่27สิงหาคม2538และโจทก์ทั้งสองทราบเรื่องเมื่อประมาณเดือนมกราคม2532หลังจากนั้นจึงดำเนินการยื่นเรื่องราวต่อคชก.ตำบลเพื่อวินิจฉัยข้อพิพาทมีความหมายอยู่ในตัวว่าโจทก์ทั้งสองมิได้ใช้สิทธิซื้อนาภายในกำหนดเวลา3ปีนับแต่จำเลยที่1โอนขายนาพิพาทให้แก่จำเลยที่2คำวินิจฉัยของคชก.ตำบลที่ชี้ขาดให้โจทก์ทั้งสองมีสิทธิซื้อนาพิพาทจากจำเลยที่2จึงไม่ชอบแม้จำเลยที่1ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำวินิจฉัยของคชก.ตำบลเกินกำหนดเวลาตามมาตรา56และจำเลยที่2มิได้ยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคชก.ตำบลศาลก็ต้องปฏิเสธไม่รับบังคับตาม คำชี้ขาดของคชก.ตำบลและเป็นเรื่อง อำนาจฟ้องซึ่งเป็น ข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนทั้งจำเลยที่2ก็ได้กล่าวแก้ในคำแก้ฎีกาด้วยศาลฎีกาวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา142(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1339/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิซื้อนาของผู้เช่าเมื่อผู้ให้เช่าขายฝ่าฝืนกม. & ฟ้องซ้ำ: ไม่เป็นฟ้องซ้ำหากมีการปฏิบัติตามเงื่อนไข
เจ้าของที่ดินผู้ให้เช่านาจะขายนาไปต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและเงื่อนไขที่พระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ.2524มาตรา53และมาตรา54กำหนดไว้หากมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นจะทำเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความยกเว้นบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวหาได้ไม่ดังนั้นถ้าผู้ให้เช่านาขายนาไปให้จำเลยโดยมิได้ปฏิบัติตามมาตรา54โจทก์ผู้เช่านาย่อมมีสิทธิซื้อนาจากจำเลยได้สิทธิของโจทก์ตามมาตรา54ดังกล่าวหาได้ระงับสิ้นไปโดยผลของสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ แม้ประธานคชก.ตำบลจะมีหนังสือแจ้งคำวินิจฉัยให้จำเลยทราบพร้อมทั้งระบุว่าจำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคชก.จังหวัดได้ภายใน90วันนับแต่วันที่คชก.ตำบลมีคำวินิจฉัยซึ่งเป็นการแจ้งระยะเวลายื่นอุทธรณ์คลาดเคลื่อนไปจากที่พระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ.2524มาตรา56กำหนดไว้ก็ตามจำเลยก็จะปฏิเสธไม่ยอมรับรู้ว่ากฎหมายบัญญัติให้ยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนด60วันนับแต่วันที่คชก.ตำบลได้มีคำวินิจฉัยหาได้ไม่เมื่อจำเลยมิได้ยื่นอุทธรณ์ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดคำวินิจฉัยของคชก.ตำบลย่อมเป็นที่สุดและเมื่อไม่ปรากฏว่าคำวินิจฉัยของคชก.ตำบลไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไรการที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยอันเป็นที่สุดของคชก.ตำบลโจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยขอให้ขายที่นาพิพาทตามคำวินิจฉัยของคชก.ตำบลได้ ปัญหาว่าโจทก์ฟ้องซ้ำหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทแต่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยให้คดีก่อนโจทก์ฟ้องส.กับจำเลยขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายนาพิพาทศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ในฐานะผู้เช่ามีสิทธิซื้อนาจากจำเลยตามราคาและวิธีการชำระเงินที่ผู้รับโอนซื้อไว้หรือตามราคาตลาดในขณะนั้นแต่ทั้งนี้โจทก์จะต้องใช้สิทธิซื้อนาดังกล่าวก่อนเมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ใช้สิทธิซื้อนาพิพาทจากจำเลยในฐานะผู้รับโอนตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ.2524มาตรา54โจทก์จะขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายหาได้ไม่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องพิพากษายกฟ้องดังนั้นในคดีก่อนศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะโจทก์ไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายนั้นกำหนดจึงยังไม่ได้วินิจฉัยในเนื้อหาแห่งคำฟ้องของโจทก์แต่ฟ้องโจทก์คดีนี้โจทก์ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดครบถ้วนแล้วโจทก์จึงฟ้องจำเลยผู้รับโอนนาพิพาทขอให้จดทะเบียนขายนาพิพาทให้โจทก์เช่นนี้จึงไม่ใช่เป็นการรื้อร้องฟ้องกันในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิซื้อนาแปลงที่เช่าก่อน และความรับผิดของผู้ให้เช่าเมื่อขายนาโดยไม่แจ้ง
การที่กฎหมายบัญญัติให้ผู้ให้เช่านาจะขายนาได้ต่อเมื่อได้แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้เช่านาทราบพร้อมทั้งราคาที่จะขายและวิธีการชำระเงินนั้นก็เพื่อให้โอกาสแก่ผู้เช่านามีสิทธิซื้อนาแปลงที่ตนเช่าก่อนบุคคลอื่นเท่านั้น ที่โจทก์ผู้ให้เช่านาขายนาไปโดยไม่ได้แจ้งเป็นหนังสือให้จำเลยผู้เช่านาทราบนั้นไม่เป็นการผิดสัญญาเช่าเพราะการเช่านาไม่ระงับไป โดยผู้ซื้อต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของโจทก์ที่มีต่อจำเลยตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 29 และไม่เป็นการละเมิดเพราะจำเลยมีสิทธิที่จะซื้อนาจากผู้ซื้อในราคาและตามวิธีการชำระเงินที่โจทก์ได้ขายให้แก่ผู้ซื้อไปตามมาตรา 41 วรรค 4