คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิทธิทำเหมืองแร่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7036/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทำเหมืองแร่และการขัดขวางสิทธิ: ประทานบัตรและการยินยอม
จำเลยอยู่ในที่พิพาทมาแต่ปี 2517 ก่อนโจทก์ขอออกประทานบัตรจำเลยไม่เคยให้หลักฐานแสดงความยินยอมให้โจทก์ไปแสดงให้เป็นที่พอใจของพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าโจทก์มีสิทธิทำเหมืองแร่ในเขตที่พิพาทตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2510 มาตรา 50 โจทก์จึงไม่อาจนำประทานบัตรที่ได้รับมาอ้างว่าที่พิพาทอยู่เขตประทานบัตร จำเลยโต้แย้งขัดขวางสิทธิในการทำเหมืองแร่ของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 683/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิประทานบัตรทำเหมืองแร่ vs. สิทธิครอบครองที่ดิน: ผู้ได้รับประทานบัตรมีสิทธิใช้ที่ดินแต่เพียงผู้เดียว
โจทก์ได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่ดีบุกในที่พิพาท จึงมีสิทธิใช้ที่พิพาทนั้นเพื่อกิจการเหมืองแร่แต่เพียงผู้เดียว แม้ต่อมาจำเลยเข้าไปปลูกบ้านอยู่อาศัยและปลูกต้นไม้ในที่พิพาท แต่เมื่อจำเลยมิใช่ผู้ถืออาชญาบัตร ประทานบัตรชั่วคราวประทานบัตรหรือผู้รับใบอนุญาตจากทางราชการ จำเลยจึงต้องห้ามมิให้เข้าไปยึดถือครอบครองที่พิพาทโดยผลของ พระราชบัญญัติ แร่ฯ จำเลยจึงไม่มีสิทธิครอบครองในที่พิพาท แม้ทางราชการจะออกทะเบียนบ้านระบุเลขที่บ้านหลังที่จำเลยเข้าไปปลูกอยู่อาศัยก็ตาม จำเลยจะนำทะเบียนบ้านมาเป็นหลักฐานอ้างสิทธิว่าจำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่พิพาทยันโจทก์หาได้ไม่ เนื่องจากทะเบียนบ้านมิใช่เป็นหลักฐานแห่งการครอบครองที่ดิน การที่โจทก์ได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่ไม่ทำให้โจทก์ได้สิทธิครอบครองที่ดิน เมื่อโจทก์ฟ้องให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินประทานบัตรของโจทก์จึงไม่ใช่เรื่องฟ้องเรียกสิทธิครอบครองคืนจากผู้แย่งสิทธิครอบครองโจทก์จึงไม่ต้องฟ้องขับไล่จำเลยภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่จำเลยเข้าไปอยู่ในที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 338/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทำเหมืองแร่และการขัดขวางการทำประโยชน์ในที่ดินประทานบัตร แม้ประทานบัตรเดิมสิ้นอายุ แต่ได้ยื่นขอใหม่แล้ว ยังคงมีสิทธิฟ้องได้
การได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่นั้นไม่ทำให้ผู้นั้นได้สิทธิครอบครองที่ดินที่อยู่ในเขตประทานบัตรด้วย แต่เมื่อมีผู้ใดเข้าไปขัดขวางในการทำแร่ในเขตประทานบัตรโดยไม่มีอำนาจโดยชอบแล้วผู้ได้รับประทานบัตรก็ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้นั้นได้ ถึงแม้ประทานบัตรเดิมขาดอายุแล้ว แต่โจทก์ก็ได้ขอประทานบัตรใหม่ก่อนที่อายุประทานบัตรจะครบกำหนด ขณะเกิดเหตุอยู่ในระหว่างดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้นเมื่อจำเลยขัดขวางโจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4025/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทำเหมืองแร่เหนือการครอบครอง: โจทก์มีสิทธิขับไล่จำเลยออกจากที่ดินในเขตประทานบัตร แม้โจทก์มิได้เป็นเจ้าของที่ดิน
จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทในเขตประทานบัตรก็โดยอาศัยสิทธิของเจ้าของประทานบัตรคนก่อนๆ ซึ่งเข้าครอบครองทำเหมืองแร่อยู่แล้ว แม้จำเลยเข้าอยู่มาช้านานเท่าใดก็ไม่ได้สิทธิครอบครองเป็นเจ้าของที่พิพาท เมื่อที่ประทานบัตรตกได้แก่โจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิเข้าทำเหมืองแร่ในเขตประทานบัตรได้ทั้งหมด โดยอาศัยสิทธิตามประทานบัตรนั่นเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทำเหมืองแร่ vs. สิทธิครอบครองที่ดิน: ประทานบัตรไม่สร้างสิทธิในที่ดิน การต่ออายุประทานบัตรล่าช้าทำให้สิทธิทำเหมืองแร่สิ้นสุด
ประทานบัตรที่โจทก์มีอยู่เดิมนั้นออกโดยพระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ พ.ศ.2461 ซึ่งมาตรา 51 บัญญัติว่าประทานบัตรทำเหมืองแร่ไม่ได้ให้อำนาจแก่ผู้ถือประทานบัตรหวงห้าม หรือถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดินในเขตที่ได้รับอนุญาตให้ทำเหมืองแร่นั้นเลยคงเพียงให้ขุดล้างแร่ได้เท่านั้นแม้โจทก์จะเคยได้รับอนุญาตให้ทำเหมืองแร่ในเขตที่ดินอันรวมถึงที่พิพาทด้วยแต่โจทก์ยื่นคำขอต่ออายุเกินกำหนดตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรณีจึงสั่งไม่อนุญาตให้ต่ออายุ และแนะนำให้โจทก์ยื่นขอประทานบัตรใหม่ การขอประทานบัตรใหม่โดยยังมิได้รับประทานบัตรนั้น โจทก์ยังไม่มีสิทธิใดๆ ในที่พิพาทเท่ากับโจทก์ยื่นเรื่องราวขออนุญาตทำเหมืองแร่ใหม่เหมือนบุคคลทั่วๆ ไปเมื่อได้ความว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่จำเลยได้มาโดยการจับจองเมื่อ พ.ศ.2492 ได้รับใบเหยียบย่ำเมื่อ พ.ศ.2493 จำเลยได้แจ้งการครอบครองและทางการได้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้จำเลยแล้ว จำเลยได้เสียภาษีบำรุงท้องที่ตลอดมาทุกปีปลูกข้าว มันสำปะหลังและยางพารา กรีดน้ำยางได้มา 10 ปีเศษแล้วดังนี้จำเลยย่อมมีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าโจทก์ และย่อมมีสิทธิคัดค้านต่อเจ้าหน้าที่ว่าประทานบัตรที่โจทก์ขอใหม่นั้นทับที่ของจำเลยซึ่งครอบครองและมี น.ส.3 แล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้ห้ามจำเลยและขอให้จำเลยถอนคำคัดค้านนั้น(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1889/2514 และที่ 1890/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทำเหมืองแร่เหนือการครอบครองที่ดิน: การดำเนินการโดยสุจริตของผู้ขอประทานบัตรและการจำกัดสิทธิจำเลยเฉพาะการขัดขวางการทำเหมือง
เข้าครอบครองที่ดินโดยไม่+จริตภายหลังที่มีผู้ขอประทานบัตร์ทำเหมืองแร่นั้น เมื่อได้รับประทานบัตร์แล้ว ผู้รับประทานบัตร์ย่อมฟ้องขอห้ามมิให้ผู้ครอบครองเกี่ยวข้องเป็นการขัดขวางต่อสิทธิการทำเหมืองแร่ได้ (อ้างฎีกาที่ 868/2456) โจทก์ฟ้องขอห้ามมิให้เกี่ยว+กับที่ดิน ศาลตัดสินไม่ให้เกี่ยวข้องฉะเพาะในการขัดขวางต่อสิทธิการทำเหมืองแร่ได้ ไม่เป็นการนอกคำขอ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2474

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทำเหมืองแร่ต้องไม่ละเมิดสิทธิเจ้าของที่ดิน แม้ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ประทานบัตรไม่ใช่กรรมสิทธิ
ใช้สิทธิไม่ต้องเสียหายคนอื่น การตัดสินเรื่องเลมิด ไม่จำต้องคำนึงว่าผู้เลมิดผิดทางอาชญาหรือไม่
เมื่อฎีกาได้แต่ข้อกฎหมายข้อใดเป็นข้อเท็จจริงศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้ข้อเท็จจริง
ศาลกำหนดค่าเสียหายเกินสมควรเป็นข้อเท็จจริงเหมืองแร่ ประทานบัตร์ไม่ใช่หนังสือแสดงกรรมสิทธที่ดิน