พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5182/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่ดินโดยสุจริต: สิทธิภาระจำยอม vs. การรื้อถอน และการรวมพิจารณาฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลูกสร้างโรงเรือนและรั้วคอนกรีตรุกล้ำที่ดินของโจทก์โดยไม่สุจริต ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินของโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้เพื่อขอให้ยกฟ้อง และฟ้องแย้งว่าจำเลยปลูกสร้างโรงเรือนและรั้วคอนกรีตอยู่บนที่ดินของโจทก์โดยสุจริต จึงขอให้โจทก์จดทะเบียนโอนขายที่ดินส่วนพิพาทให้แก่จำเลย หากโจทก์ไม่ยอมก็ขอให้โจทก์จดทะเบียนสิทธิภาระจำยอมให้แก่จำเลย โดยจำเลยยอมเสียเงินให้แก่โจทก์ 100,000 บาท ซึ่งจำเลยมีสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1312 ฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฟ้องเดิมโดยตรง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 471/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้อน: การฟ้องเรียกค่าเสียหายซ้ำกับคดีสิทธิภาระจำยอมที่ยังพิจารณาอยู่
เมื่อคดีทั้งสองเรื่องโจทก์อ้างสิทธิอย่างเดียวกันว่า ที่ดินโจทก์มีสิทธิภาระจำยอมเหนือที่ดินพิพาทที่จำเลยโอนให้ พ. และค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องในคดีนี้สืบเนื่องมาจากจำเลยไม่ยอมให้ที่ดินพิพาทเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินโจทก์ ซึ่งโจทก์สามารถฟ้องเรียกได้ในคดีก่อนอยู่แล้ว การที่โจทก์กลับมาฟ้องเรียกค่าเสียหายในคดีนี้ขณะที่คดีก่อนยังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องซ้อนต้องห้ามตาม ป.วิ.พ.มาตรา 173 วรรคสอง (1) ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5764/2538 เวอร์ชัน 5 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอม: การจดทะเบียนภาระจำยอมใหม่ไม่กระทบสิทธิภาระจำยอมเดิม ตราบเท่าที่ไม่ลดทอนหรือทำให้เสื่อมความสะดวก
ที่ดินโฉนดเลขที่ 1915 และ 23121 ทั้ง 2 แปลง และที่ดินอีก 6 แปลงตามโฉนดเลขที่ 23115 ถึง 23120 เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยแต่ผู้เดียว จำเลยชอบที่จะจดทะเบีบนภาระจำยอมในที่ดินทั้ง 2 แปลง ให้แก่ที่ดินของจำเลยอีก 6 แปลงได้ ทั้งการจดทะเบียนภาระจำยอมของจำเลยดังกล่าวก็มิใช่เป็นการจำหน่ายหรือทำให้ภาระจำยอมของโจทก์ตกไปในบังคับแห่งสิทธิอื่นการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมของโจทก์ต้องลดลงไปหรือเสื่อมความสะดวกแก่การใช้แต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1200/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิภาระจำยอมจากการใช้ทาง: การใช้ทางต้องเป็นการปรปักษ์ ไม่ใช่การใช้โดยวิสาสะหรือการต่อจากผู้อื่น
จำเลยมิได้ยื่นคำฟ้องฎีกาโต้แย้งว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ถูกต้อง เพียงแต่ยื่นคำแก้ฎีกาว่าฟ้องเคลือบคลุม นอกเหนือประเด็นที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไว้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยตามคำแก้ฎีกาของจำเลย
ทางพิพาทในที่ดินของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้อง โจทก์ได้ใช้เส้นทางพิพาทมาหลายปีแล้ว แต่ในการใช้ทางพิพาท ส.เคยใช้มาก่อนและโจทก์ได้ใช้ต่อมาอีกตอน ส.ใช้นั้นโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่า ส.จะใช้ทางอย่างปรปักษ์อันจะทำให้เกิดสิทธิภาระจำยอม เมื่อเห็น ส.ใช้ทางพิพาทมาโจทก์ก็ถือสิทธิใช้ต่อมา สภาพทางพิพาทเป็นทางที่อยู่ในทุ่งนาแม้บางตอนจะมีที่สูงบ้าง และโจทก์ได้ใช้เพื่อประโยชน์ในการทำนา ประกอบกับจำเลยยินยอมให้โจทก์ใช้ทางพิพาท จึงเป็นลักษณะที่โจทก์ใช้ทางพิพาทโดยถือวิสาสะ มิใช่เป็นการใช้สิทธิในทางพิพาทอย่างปรปักษ์อันจะทำให้เกิดสิทธิภาระจำยอม แม้โจทก์จะใช้มาเกิน 10 ปี เมื่อไม่เป็นการใช้อย่างปรปักษ์ก็ไม่ได้สิทธิภาระจำยอม
ทางพิพาทในที่ดินของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้อง โจทก์ได้ใช้เส้นทางพิพาทมาหลายปีแล้ว แต่ในการใช้ทางพิพาท ส.เคยใช้มาก่อนและโจทก์ได้ใช้ต่อมาอีกตอน ส.ใช้นั้นโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่า ส.จะใช้ทางอย่างปรปักษ์อันจะทำให้เกิดสิทธิภาระจำยอม เมื่อเห็น ส.ใช้ทางพิพาทมาโจทก์ก็ถือสิทธิใช้ต่อมา สภาพทางพิพาทเป็นทางที่อยู่ในทุ่งนาแม้บางตอนจะมีที่สูงบ้าง และโจทก์ได้ใช้เพื่อประโยชน์ในการทำนา ประกอบกับจำเลยยินยอมให้โจทก์ใช้ทางพิพาท จึงเป็นลักษณะที่โจทก์ใช้ทางพิพาทโดยถือวิสาสะ มิใช่เป็นการใช้สิทธิในทางพิพาทอย่างปรปักษ์อันจะทำให้เกิดสิทธิภาระจำยอม แม้โจทก์จะใช้มาเกิน 10 ปี เมื่อไม่เป็นการใช้อย่างปรปักษ์ก็ไม่ได้สิทธิภาระจำยอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3668/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิภาระจำยอมโดยการใช้สิทธิปรปักษ์ และการไม่ถือว่าเป็นการละเมิดเมื่อกระทำโดยสุจริตก่อนซื้อที่ดิน
แม้ชายคา หน้าต่างหากมีการเปิด และทางระบายน้ำของห้องแถวจำเลยซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของ ว. จะได้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ก็ตาม เมื่อจำเลยได้กระทำด้วยความสุจริตเพื่อการใช้ชายคา หน้าต่างกับทางระบายน้ำดังกล่าวมาก่อนที่โจทก์จะซื้อที่ดินของโจทก์ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ ทั้งจำเลยได้ใช้สิทธินั้นด้วยอำนาจปรปักษ์มาเป็นเวลาเกิน 10 ปี จึงได้สิทธิภาระจำยอมเกี่ยวกับชายคา หน้าต่างกับทางระบายน้ำนั้นในที่ดินโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2554/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ทางในที่ดินของผู้อื่นโดยอาศัยสิทธิของเจ้าของเดิม ไม่ถือเป็นการได้สิทธิภาระจำยอมโดยอายุความ
ทางพิพาทเป็นทางผ่านเข้าออกในที่ดินของจำเลยที่ 1 ที่มีมาอยู่แต่เดิมแล้วก่อนที่โจทก์จะใช้เป็นทางผ่านเข้าออก โจทก์เริ่มใช้ทางพิพาทเข้าออกขณะพี่ชายโจทก์มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินนั้นแทนคณะพ่อค้า และโจทก์เป็นคณะกรรมการดูแลที่ดินคนหนึ่ง จึงเป็นการใช้ทางโดยอาศัยสิทธิของเจ้าของที่ดิน ทั้งตามพฤติการณ์ถือได้ว่าโจทก์ใช้ทางพิพาทโดยการถือวิสาสะมิใช่เป็นการใช้สิทธิปรปักษ์ แม้โจทก์จะใช้ทางพิพาทในที่ดินของจำเลยที่ 1 ติดต่อกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบปี ทางพิพาทก็ไม่ตกเป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์โดยอายุความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมโดยการใช้ทางต่อเนื่อง: การได้สิทธิภาระจำยอมจากการใช้ทางเป็นเวลาหลายสิบปี
จำเลยยินยอมให้โจทก์เดินและใช้เกวียนลากเข็นข้าวผ่านนาของจำเลยมาเป็นเวลาหลายสิบปี เฉพาะเวลาหมดฤดูทำนา ทางพิพาทนั้นก็ตกอยู่ในภาระจำยอมที่จะต้องให้โจทก์เดินผ่านได้เมื่อสิ้นฤดูทำนาแล้วตลอดไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2552 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องภาระจำยอม: เจ้าของที่ดินเท่านั้นที่ฟ้องบังคับได้ การได้สิทธิภาระจำยอมจากการครอบครอง
ป.พ.พ. มาตรา 1387 บัญญัติให้ภาระจำยอมเป็นทรัพย์สิทธิที่กฎหมายก่อตั้งขึ้นสำหรับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ฉะนั้นผู้ที่จะฟ้องบังคับภาระจำยอมจำต้องเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้น โจทก์ที่ 2 เป็นเพียงผู้ดำเนินกิจการโรงเรียน จ. ซึ่งปลูกสร้างอยู่บนที่ดินพิพาทของโจทก์ที่ 1 จึงไม่ใช่เจ้าของที่ดิน ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้เปิดทาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2552
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องบังคับภาระจำยอมต้องเป็นเจ้าของที่ดิน การใช้ทางต่อเนื่องไม่ทำให้เกิดภาระจำยอม
ป.พ.พ. มาตรา 1387 บัญญัติให้ภาระจำยอมเป็นทรัพยสิทธิที่กฎหมายก่อตั้งขึ้นสำหรับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ผู้ที่จะฟ้องบังคับภาระจำยอมจึงต้องเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้น โจทก์ที่ 2 เป็นเพียงผู้ดำเนินกิจการโรงเรียนซึ่งปลูกสร้างอยู่บนที่ดินของโจทก์ที่ 1 จึงไม่ใช่เจ้าของที่ดิน ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้เปิดทางภาระจำยอม