คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิทธิหักเงิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิหักเงินจากบัญชีหลังคำสั่งอายัด - เจ้าหนี้บุริมสิทธิ vs. สิทธิจากความยินยอม - การบังคับคดี
ผู้ร้องเพิ่งจะมีสิทธิใช้สิทธิหักเงินจากบัญชีเงินฝากของจำเลยมาชำระหนี้ของจำเลยที่มีแก่ผู้ร้องหลังจากวันที่ผู้ร้องได้รับทราบคำสั่งอายัดจากศาลและสิทธิของผู้ร้องดังกล่าวเป็นสิทธิอันเกิดจากความยินยอมของจำเลยที่ให้ไว้ในการฝากเงินตามปกติผู้ร้องหาใช่เจ้าหนี้บุริมสิทธิไม่จึงไม่มีสิทธิจะหักเงินจากบัญชีของจำเลยภายหลังได้รับแจ้งคำสั่งอายัดจากศาลแล้วเพราะเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามในคำสั่งอายัดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา311วรรคสาม สำหรับฎีกาของผู้ร้องที่ว่าศาลควรจะมีคำสั่งไต่สวนคำร้องของผู้ร้องก่อนมีคำสั่งนั้นเมื่อผู้ร้องมิได้ยกขึ้นอุทธรณ์มาก่อนจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ส่วนที่ผู้ร้องฎีกาว่าศาลล่างทั้งสองสั่งให้ผู้ร้องส่งเงินตามที่อายัดจำนวน4,471,719.19บาทเป็นคำสั่งไม่ชอบเพราะผู้ร้องใช้สิทธิหักเงินไว้เพียง940,126.67บาทส่วนเงินของจำเลยที่มีอยู่ในบัญชีอีก2,155,330.76บาทผู้ร้องจัดส่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแล้วนั้นแม้ผู้ร้องพึ่งจะยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาแต่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนผู้ร้องจึงมีสิทธิยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2397/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตเงินบำเหน็จ, ค่าจ้าง, ค่าชดเชย, และสิทธิการหักเงินบำเหน็จในกรณีเกษียณอายุ
ข้อบังคับเกี่ยวกับโครงการเงินบำเหน็จเมื่อออกจากงานของจำเลยกำหนดจำนวนเงินบำเหน็จในกรณีลูกจ้างออกจากงานเพราะเกษียณอายุว่า'..........จำนวนเงินบำเหน็จจะเท่ากับเงินเดือนมูลฐานครั้งสุดท้ายทั้งเดือนคูณด้วยจำนวนปีของการเป็นลูกจ้างในบริษัท'คำว่าเงินเดือนมูลฐานมีความหมายจำกัดลงมาเฉพาะเงินเดือนที่แท้จริงค่านำร่องพิเศษหาใช่เงินเดือนมูลฐานอันจะนำมาคำนวณจำนวนเงินบำเหน็จไม่ต่างกับเรื่องค่าจ้างที่จะนำค่านำร่องพิเศษมาเป็นฐานคำนวณค่าชดเชย. ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยหมวดวินัยและโทษทางวินัยระบุว่าการเตือนด้วยวาจาและการเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นโทษทางวินัยโดยหัวหน้าฝ่ายเป็นผู้มีอำนาจลงโทษสองสถานนี้ได้และหมวดการยื่นคำร้องทุกข์และข้อเสนอแนะกำหนดให้นายเรือมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายด้วยโจทก์ซึ่งเป็นกัปตันหรือนายเรือจึงเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ทำการแทนนายจ้างสำหรับกรณีการลงโทษโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุดตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานฯข้อ43และ36(1). ตามข้อบังคับเกี่ยวกับโครงการเงินบำเหน็จเมื่อออกจากงานของจำเลยข้อ9(ค)ให้สิทธิแก่จำเลยที่จะหักเงินจำนวนเท่าค่าชดเชยออกจากเงินบำเหน็จได้จำเลยได้ใช้สิทธินำค่าชดเชยส่วนอื่นไปหักจากเงินบำเหน็จตามที่แจ้งให้โจทก์ไปรับแล้วการที่มิได้นำค่าชดเชยในเงินค่าเบี้ยเลี้ยงไปหักออกด้วยก็เพราะจำเลยเข้าใจว่าเบี้ยเลี้ยงมิใช่ค่าจ้างเมื่อเบี้ยเลี้ยงเป็นค่าจ้างทั้งจำเลยก็ได้แสดงเจตนาขอหักมาในคำให้การแล้วจึงชอบที่จะหักเงินค่าชดเชยที่เพิ่มขึ้นออกจากเงินบำเหน็จที่จำเลยจะต้องจ่ายได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนประโยชน์แห่งสัญญาและการเปลี่ยนแปลงฐานะทางกฎหมายของคู่สัญญา รวมถึงสิทธิในการหักเงินค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำเหมืองแร่
ก่อให้เกิดสัญญาคู่สัญญากับโจทก์โอนประโยชน์แห่งสัญญาให้แก่จำเลยจำเลยยอมรับสิทธิและบรรดาความรับผิดตามสัญญานั้นกับโจทก์เสมอมา นับว่าเกิดนิติสัมพันธ์ขึ้นระวางโจทก์จำเลยแล้ว คู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง ผิดสัญญาอีกฝ่าย 1 ไม่ฟ้องร้อง แต่กลับทำสัญญายอมรับฐานะใหม่ดังนี้ คู่สัญญาก็ย่อมมีสิทธิแลหน้าที่ตามฐานะใหม่นั้นจะยกเอาข้อผิดสัญญาเดิมมาว่ากล่าวกันไม่ได้ คำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการแลคำสั่งเจ้าพนักงานโลหะกิจกำหนดค่าธรรมเนียมตาม พ.ร.บ.การทำเหมืองแร่ พ.ร.บ.การทำเหมืองแร่ไม่มีบทให้อุทธรณ์ได้ วิธีพิจารณาความแพ่งข้อเท็จจริงซึ่งศาลล่างยังมิได้ชี้ขาดมาศาลฎีกาย้อนสำนวนให้พิจารณาพิพากษาใหม่ฉะเพาะข้อนั้น ๆ ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5523/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิหักเงินจากบัญชีเงินฝากเพื่อชำระหนี้ ไม่ถือเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต หากมีเหตุผลอันสมควร
แม้ตามหนังสือยินยอมมอบเงินฝากเป็นประกันหนี้ของผู้อื่นจะให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะหักเงินจากบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 2 และที่ 3 เพื่อชำระหนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2540 ซึ่งเป็นวันถัดจากวันที่ครบกำหนดตามสัญญากู้ยืมเงินก็ตาม แต่เหตุที่ไม่มีการหักเงินจากเงินฝากของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2540 เนื่องจากนาย ว. ซึ่งเป็นบุตรของจำเลยที่ 2 และที่ 3 และขณะนั้นเป็นผู้จัดการธนาคารโจทก์ สาขาที่จำเลยทั้งสามทำสัญญากู้และค้ำประกัน ไม่ยอมดำเนินการ เพราะนาย ว. ไม่ต้องการให้จำเลยที่ 2 ซึ่งกำลังป่วยอยู่กระทบกระเทือนทางจิตใจ อันแสดงว่าเหตุที่โจทก์ไม่ใช้สิทธิหักเงินจากบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ตั้งแต่วันถัดจากวันที่ครบกำหนดตามสัญญากู้ยืมเงินนั้น มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์เพิกเฉยปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปโดยมิได้ใช้สิทธิตามกฎหมายที่มีอยู่เพื่อให้โจทก์ได้รับประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียวโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่ฝ่ายจำเลยจะพึงได้รับ กรณีไม่อาจถือได้ว่าการกระทำของโจทก์เป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต