คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิทธิในการฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินสาธารณะและการกีดขวางทางออกของที่ดินข้างเคียง สิทธิในการฟ้องรื้อถอน
จำเลยปลูกต้นไม้และก่อสร้างห้องน้ำในที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะที่คั่นอยู่ระหว่างที่ดินของโจทก์กับถนนหลวง เมื่อที่ดินของโจทก์มิได้ติดต่อกับถนนหลวงมาแต่เดิมเนื่องจากมีที่ดินพิพาทคั่นอยู่ และจำเลยอยู่ในที่ดินพิพาทมาก่อนที่โจทก์จะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินของตนเช่นนี้ โจทก์จะอ้างว่าได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากจำเลยครอบครองที่ดินพิพาทกีดขวางทางออกสู่ถนนสาธารณะหาได้ไม่ กรณียังไม่ต้องด้วย ป.พ.พ. มาตรา 421 และมาตรา 1337 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้รื้อถอนต้นไม้และสิ่งก่อสร้างออกไปจากที่ดินพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการฟ้องขับไล่ของผู้รับโอนสิทธิหน้าที่จากสัญญาเช่าเดิม แม้ยังไม่ทำสัญญาเช่าใหม่
แม้สัญญาเช่าที่ดินระหว่างมารดาโจทก์กับกระทรวงศึกษาธิการจะระงับโดยเหตุที่มารดาโจทก์ถึงแก่กรรมก็ตาม แต่โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่างๆ ซึ่งตกทอดมาจากมารดาโจทก์ ดังนั้น เมื่อโจทก์ยังคงครอบครองที่พิพาทและต่อมาโจทก์ก็ได้ทำสัญญาเช่าที่พิพาทกับกระทรวงศึกษาธิการต่อไปอีกเช่นนี้ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งขออาศัยมารดาโจทก์ปลูกบ้านในที่ดินบางส่วนของที่พิพาทได้ กระทรวงศึกษาธิการไม่จำต้องส่งมอบที่ดินที่เช่าให้แก่โจทก์อีก (ประชุมใหญ่ ครั้งที่17/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73-74/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการฟ้องคดีแบ่งที่ดิน แม้ขาดนัดยื่นคำให้การในคดีเดิม การใช้สิทธิโดยสุจริต
ฮ. ฟ้อง อ. และ บ. เป็นจำเลยว่า ฮ. อ. บ. เป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกัน ขอให้บังคับให้ อ. และ บ. แบ่งที่ดินส่วนของ ฮ. ให้แก่ ฮ. บ. จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของ บ. แต่ผู้เดียว ส่วน อ. จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้วกลับเป็นโจทก์ฟ้อง บ. เป็นคดีอีกสำนวนหนึ่งว่า อ. บ. และ ฮ. ได้ครอบครองที่พิพาทร่วมกันมา ที่ บ. ให้การในคดีแรกว่าที่พิพาทเป็นของบ. แต่ผู้เดียวนั้น เป็นการรบกวนสิทธิของ อ. อ. จึงขอให้พิพากษาแบ่งที่พิพาทให้แก่ อ. หนึ่งในสามส่วน ดังนี้ บ. จะหาว่าการที่ อ. ฟ้องตนนั้นเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการฟ้องคดีเช่าต้องตรงกับความเป็นเจ้าของที่ดิน หากโจทก์ยอมรับว่าไม่มีสิทธิในที่ดิน สิทธิในการฟ้องย่อมสิ้นสุด
เมื่อฟ้องของโจทก์ยืนยันว่าโจทก์เป็นเจ้าของนาพิพาท หาได้กล่าวอ้างถึงสิทธิอื่นใดเหนือที่พิพาทขึ้นสนับสนุนอีกไม่ เมื่อโจทก์ยอมรับว่าที่พิพาทนั้นไม่ใช่ของโจทก์เป็นของกรมชลประทานโดยเจ้าของเดิมแบ่งยกให้กรมชลประทานไปแล้วก่อนโอนขายให้โจทก์ ดังนี้ตามฟ้องและคำรับของโจทก์ย่อมแสดงว่าโจทก์ไม่มีสิทธิใดๆเหนือที่พิพาททั้งสิ้น (รวมทั้งสิทธิให้เช่า) เมื่อตนไม่มีสิทธิใดๆแล้ว จะอ้างว่าสัญญาเช่าปิดปากผู้เช่ามิให้โต้เถียงสิทธิของผู้ให้เช่านั้นก็ไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 476/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการฟ้องคดีขึ้นอยู่กับการครอบครอง หากไม่มีสิทธิครอบครอง แม้จะชนะในประเด็นอื่น ก็ไม่มีผลต่อการชนะคดี
เมื่อ ศาลฎีกาเห็นว่าจะ วินิจฉัยชี้ขาดเป็นสถาน++ก็ไม่ทำให้ชนะคดีได้แล้ว ศาลฎีกามีอำนาจไม่ วินิจฉัยในประเด็นที่ ฎีกาขึ้นมา