คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิ่งประดิษฐ์ใหม่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7716/2549

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อนุสิทธิบัตรต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่และมิได้เป็นที่รู้กันโดยทั่วไป การฉีดพลาสติกขึ้นรูปไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ใหม่
อนุสิทธิบัตรของจำเลยที่ใช้ชื่อและแสดงถึงสิ่งประดิษฐ์ว่าเป็นโต๊ะที่ประกอบจากชิ้นส่วนที่ขึ้นรูปครั้งเดียว โดยมีคำอธิบายส่วนภูมิหลังว่าวิธีการดังกล่าวจะช่วยลดความเสียหายจากขั้นตอนของการต่อชิ้นส่วน หากผู้ประกอบไม่ชำนาญพอ และอื่นๆ โดยมีข้อถือสิทธิในวิธีการประดิษฐ์ว่าเป็นโต๊ะที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนขาโต๊ะซึ่งทำจากการฉีดพลาสติกขึ้นรูปครั้งเดียวและมีบทสรุปว่า โต๊ะมีลักษณะประกอบด้วยชิ้นส่วนขาโต๊ะที่ขึ้นรูปครั้งเดียว ความสำคัญของอนุสิทธิบัตรของจำเลยจึงเป็นเรื่องของกรรมวิธีการประดิษฐ์เมื่อชุดขาโต๊ะตามอนุสิทธิบัตรของจำเลยทำการฉีดพลาสติกขึ้นรูปครั้งเดียวตรงกับฟ้องโจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียที่จะฟ้องจำเลยเพื่อขอให้เพิกถอนอนุสิทธิบัตรของจำเลยได้ตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 65 นว วรรคสองแล้ว
คำขอรับอนุสิทธิบัตรของจำเลยมีชื่อที่แสดงถึงการประดิษฐ์คือโต๊ะที่ประกอบจากชิ้นส่วนที่ขึ้นรูปครั้งเดียวและตามข้อถือสิทธิว่าการประดิษฐ์ที่ขอคุ้มครองคือโต๊ะที่มีลักษณะประกอบด้วยชิ้นส่วนขาโต๊ะทำจากการฉีดพลาสติกขึ้นรูปครั้งเดียว สาระสำคัญทางการประดิษฐ์ที่จำเลยจดอนุสิทธิบัตรคือการฉีดพลาสติกขาโต๊ะขึ้นรูปครั้งเดียว แต่การฉีดขึ้นรูปพลาสติกเพียงครั้งเดียวเป็นวิธีการผลิตที่มีมานานแล้ว งานประดิษฐ์ของจำเลยจึงมิใช่การประดิษฐ์ขึ้นใหม่ ตามความหมายในมาตรา 65 ทวิ ประกอบด้วย มาตรา 6 วรรค (1) (2) และมาตรา 65 ทศ แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 รวมถึงข้อถือสิทธิที่กล่าวถึงการประกอบขาโต๊ะทั้งสองด้านเข้าด้วยกันโดยใช้ท่อหรือคานเหล็กสองเส้นที่เจาะเป็นช่องทั้งปลายบนและล่างเพื่อใช้สกรูยึดด้านบน ส่วนด้านล่างใช้สำหรับสอดใส่ตะแกรง รวมทั้งลวดลายประกอบขาโต๊ะซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงรายละเอียดที่ไม่ซับซ้อนดังมีคำอธิบายอยู่ในหนังสือ การออกแบบเครื่องเรือน ซึ่งเป็นหนังสือคู่มือการศึกษาที่แพร่หลายมาก่อนหน้าวันขอรับอนุสิทธิบัตรของจำเลย จึงถือว่าไม่ใช่การประดิษฐ์ใหม่เช่นกัน กรณีมีเหตุที่ควรเพิกถอนอนุสิทธิบัตรของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4783/2549 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนสิทธิบัตรยาจากสมุนไพร กวาวเครือ ที่ไม่เป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ และไม่มีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้น
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสิทธิบัตรของจำเลยที่ 1 โดยกล่าวอ้างว่าการประดิษฐ์ที่มีส่วนประกอบของกวาวเครือมีการเปิดเผยสาระสำคัญ หรือรายละเอียดในเอกสารหรือสิ่งพิมพ์ที่เผยแพร่มาตั้งแต่ปี 2474 ก่อนวันที่จำเลยที่ 1 ขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์จึงไม่ใช่การประดิษฐ์ขึ้นใหม่ และไม่มีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้น เพราะองค์ประกอบสมุนไพรจากกวาวเครือเป็นส่วนประกอบพื้นๆ ธรรมดาที่บุคคลอื่นและโจทก์ใช้หรือผลิตกันอยู่ทั่วไป ทั้งไม่สามารถประยุกต์ในทางอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรืออื่นๆ ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องการผลิตทางอุตสาหกรรม ไม่เป็นประโยชน์ทางอุตสาหกรรม คงถือเป็นเพียงการผสมสมุนไพร จึงไม่อาจขอรับสิทธิบัตรได้ คำบรรยายฟ้องของโจทก์เป็นที่เข้าใจอย่างชัดแจ้งแล้วว่า สิทธิบัตรพิพาทไม่สมบูรณ์เพราะเหตุใด ฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม
โจทก์ประกอบธุรกิจจำหน่ายและผลิตยาและเครื่องสำอางซึ่งผลิตจากสมุนไพรกวาวเครือ ต่อมาเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2542 จำเลยที่ 1 ประกาศในหนังสือพิมพ์ให้ผู้ผลิต ขาย มีไว้เพื่อขาย และเสนอขายผลิตภัณฑ์จากกวาวเครือที่มีลักษณะเช่นเดียวกัน หรือคล้ายกันกับองค์ประกอบสมุนไพรจากกวาวเครือของจำเลยที่ 1 ยุติการกระทำและเรียกคืนผลิตภัณฑ์จากท้องตลาด จึงเป็นการบรรยายฟ้องว่าโจทก์ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรกวาวเครือเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 ซึ่งหากสิทธิบัตรพิพาทมีผลสมบูรณ์ จำเลยที่ 1 ย่อมจะมีสิทธิแต่ผู้เดียวในการประดิษฐ์ตามสิทธิบัตรดังกล่าว และมีสิทธิห้ามบุคคลอื่นรวมทั้งโจทก์ในการประกอบการค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกวาวเครือได้ ทั้งนี้ โดยพิจารณาจากข้อถือสิทธิที่ระบุไว้ในสิทธิบัตรพิพาทเป็นสำคัญ โจทก์ย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการฟ้องขอให้เพิกถอนสิทธิบัตรได้ ตาม พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 54 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19339-19344/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบัตรไม่สมบูรณ์: การเพิกถอนสิทธิบัตรออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มิได้เป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่
แม้จำเลยจะมีพยานบุคคลเพียงปากเดียว แต่ไม่ปรากฏว่าเมื่อมีการประกาศโฆษณาคำขอรับสิทธิบัตร โจทก์ทั้งหกยื่นคำคัดค้านต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าตนมีสิทธิรับสิทธิบัตรดีกว่าจำเลยหรือคำขอรับสิทธิบัตรของจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งไม่มีข้อเท็จจริงว่าขั้นตอนในการออกสิทธิบัตรของพนักงานเจ้าหน้าที่มีความบกพร่อง จึงต้องถือว่าจำเลยเป็นผู้ทรงสิทธิบัตรโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อโจทก์ทั้งหกฟ้องคดีนี้โดยกล่าวอ้างว่าการออกแบบผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตรของจำเลยไม่เป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ โจทก์ทั้งหกจึงมีหน้าที่พิสูจน์ว่าแบบผลิตภัณฑ์ของจำเลยเป็นแบบผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถือว่าเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522
ค่าทนายความเป็นค่าฤชาธรรมเนียมตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 149 วรรคหนึ่ง เมื่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้ค่าฤชาธรรมเนียมตกเป็นพับแล้ว ก็ไม่อาจพิพากษากำหนดให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชดใช้ค่าทนายความให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง คำพิพากษาในส่วนนี้จึงไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 161 ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 45 ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคสอง