พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากการบังคับขายทรัพย์สินโดยไม่มีอำนาจ แม้เชื่อโดยสุจจริต ผู้กระทำและผู้รับซื้อต้องรับผิด
การพิจารณาคดีส่วนแพ่งตาม ป.ม.วิ.อาญา ม.46 ให้ศาลถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ส่วนการชี้ขาดคดีส่วนแพ่ง ศาลต้องดำเนินตามมาตรา 47 กล่าวคือ ดูว่าตามข้อเท็จจริงที่ได้จากคำพิพากษาคดีส่วนอาญานั้น จำเลยต้องรับผิดในทางแพ่งประการใดหรือไม่ ทั้งนี้โดยไม่คำนึงถึงเลยว่าจำเลยผิดในทางอาญา และต้องมีโทษหรือไม่อย่างไร
ปลัดอำเภอบังคับให้ผู้แจ้งปริมาณเสื้อผ้า ขายเสื้อผ้าต่าง ๆ แก่ผู้อื่นโดยราคาถูก แม้จะเชื่อโดยสุจจริตว่า ทำไปโดยมีอำนาจ โดยชอบด้วยกฎหมาย และผู้ซื้อรับซื้อโดยคิดว่าถูกต้องก็ตาม ถ้าปรากฏว่า การกระทำนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยกฏหมาย เพราะได้มีประกาศยกเลิกการควบคุมในการนั้นแล้ว ปลัดอำเภอและผู้รับซื้อก็ต้องรับผิดฐานละเมิด
โจทก์กล่าวบรรยายข้อเท็จจริงไว้เป็นตอน ๆ ได้ความชัดว่า จำเลยที่ 1 บังคับให้โจทก์ขายผ้าให้จำเลยที่ 2, 3, 4 ในราคาถูกโดยไม่มีความชอบธรรมที่จะทำได้ตามกฎหมาย เป็นการเพียงพอที่จะให้ค่าสินไหมทดแทนในทางแพ่งแล้ว
ปลัดอำเภอบังคับให้ผู้แจ้งปริมาณเสื้อผ้า ขายเสื้อผ้าต่าง ๆ แก่ผู้อื่นโดยราคาถูก แม้จะเชื่อโดยสุจจริตว่า ทำไปโดยมีอำนาจ โดยชอบด้วยกฎหมาย และผู้ซื้อรับซื้อโดยคิดว่าถูกต้องก็ตาม ถ้าปรากฏว่า การกระทำนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยกฏหมาย เพราะได้มีประกาศยกเลิกการควบคุมในการนั้นแล้ว ปลัดอำเภอและผู้รับซื้อก็ต้องรับผิดฐานละเมิด
โจทก์กล่าวบรรยายข้อเท็จจริงไว้เป็นตอน ๆ ได้ความชัดว่า จำเลยที่ 1 บังคับให้โจทก์ขายผ้าให้จำเลยที่ 2, 3, 4 ในราคาถูกโดยไม่มีความชอบธรรมที่จะทำได้ตามกฎหมาย เป็นการเพียงพอที่จะให้ค่าสินไหมทดแทนในทางแพ่งแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายทรัพย์สินโดยสุจจริตและกรรมสิทธิ์ในที่ดิน แม้เจ้าของเดิมมีข้อพิพาท
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เอาที่ของโจทก์ราคา 900 บาทไปขายให้จำเลยที่ 2 ขอให้พิพากษาว่าที่เป็นของโจทก์และสัญญาซื้อขายใช้ไม่ได้ ขอให้เพิกถอน ศาลชั้นต้นฟังว่าที่เป็นมฤดกตกทอดให้แก่โจทก์และจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 2 ได้รับซื้อและรับโอนโดยสุจจริต จึงพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ฟังว่าที่ดินเป็นของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ก็รับโอนโดยสุจจริต จึงพิพากษายืนดังนี้ ถือว่าเรื่องที่ซื้อขายที่พิพาทโดยสุจจริตหรือไม่ เป็นอันยุตติแล้ว ข้อฎีกาของโจทก์ที่ขอให้วินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จึงไม่จำเป็นที่ศาลฎีกาจะชี้ขาด เพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินผิดแปลง แม้โอนนานและครอบครองตามเจตนา แต่ผู้รับโอนสุจจริตได้กรรมสิทธิ์ตามโฉนดที่ได้รับ
ในกรณีที่มีการโอนที่ดินโดยโอนโฉนดไขว้กันนั้น แม้จะโอนมาช้านานและปกครองที่ตามที่ตั้งใจโอน ถ้ามีผู้รับโอนโฉนดโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจจริต ผู้รับโอนย่อมได้ที่ดินตามโฉนดที่ตนได้รับโอนนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสุจจริตในคดีอาญาและคดีแพ่ง: ผลกระทบต่อการโอนทรัพย์สิน
ในคดีอาญาศาลพิพากษาว่าคดีโจทก์ไม่พอฟังว่า จำเลยได้รู้เห็นสมคบในการรับโอนที่ดินโดยทุจจริต และจำเลยก็นำสืบได้สมว่า ซื้อไว้โดยสุจจริตใจ แล้วชี้ขาดว่าหลักฐานไม่พอฟังว่า จำเลยเกี่ยวข้องกับการทุจจริตนั้น ย่อมหมายความแต่เพียงว่า จำเลยมิได้มีเจตนาทุจจริตอันเป็นผิดในคดีอาญาเท่านั้นจะฟังว่าจำเลยได้รับโอนที่ดินนั้นโดยสุจจริตตามประมวลแพ่งฯ ไม่ได้
คำว่าสุจจริตตามกฎหมายอาญาต่างกับคำว่าสุจจริตตามกฎหมายแพ่ง เช่นในเรื่องได้ทรัพย์มา สำหรับตามกฎหมายอาญาหมายความเพียงว่า ไม่รู้สึกตนว่าทำการติดต่อกับผู้ร้ายส่วนตามกฎหมายแพ่งหมายความว่าไม่รู้หรือไม่ควรจะรู้ถึงความบกพร่องแห่งกรรมสิทธิ์ที่มีมาในอดีต
การพิพากษาคดีส่วนแพ่ง จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีส่วนอาญาเพียงไร
คำว่าสุจจริตตามกฎหมายอาญาต่างกับคำว่าสุจจริตตามกฎหมายแพ่ง เช่นในเรื่องได้ทรัพย์มา สำหรับตามกฎหมายอาญาหมายความเพียงว่า ไม่รู้สึกตนว่าทำการติดต่อกับผู้ร้ายส่วนตามกฎหมายแพ่งหมายความว่าไม่รู้หรือไม่ควรจะรู้ถึงความบกพร่องแห่งกรรมสิทธิ์ที่มีมาในอดีต
การพิพากษาคดีส่วนแพ่ง จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีส่วนอาญาเพียงไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเข้าใจโดยสุจจริตในที่ดินของตน: ไม่เป็นความผิดอาญา
ทำรื้อรั้วและเข้าไปถอนต้นไม้ในที่ซึ่งตนเข้าใจโดยสุจจริตว่าเป็นของตนนั้น ไม่เป็นผิดทางอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จ: สุจจริตเริ่มแรก + ไม่แจ้งความเท็จภายหลัง = ไม่ผิด
จำเลยนำความไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานตามคำที่บอกโดยสุจจริต ภายหลังทราบว่าข้อความ เปนเท็จ แต่จำเลยก็นิ่งเสียไม่ไปแจ้งต่อเจ้าพนักงาน ดังนี้ไม่เปนฐานแจ้งความเท็จ