คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สูงเกินส่วน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2545 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญาบัตรเครดิตสูงเกินส่วน ศาลลดดอกเบี้ยตามกฎหมาย
เงินค่าทดแทนการออกเงินทุนเพิ่ม และค่าปรับเพื่อทดแทนค่าใช้จ่ายจากการเรียกเก็บเงินในหนี้บัตรเครดิต นับแต่วันที่จำเลยผิดนัดชำระเงินที่โจทก์เรียกเก็บทั้งหมดนั้น เป็นการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในกรณีที่จำเลย ไม่ชำระหนี้เงินดังกล่าวตรงตามเวลาที่กำหนดไว้มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ เมื่อเบี้ยปรับดังกล่าวนั้นกำหนดไว้สูงเกินส่วน จึงเห็นควรให้ลดเบี้ยปรับลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 383 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับจากสัญญาบัตรเครดิตสูงเกินส่วน ศาลลดเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
เงินค่าทดแทนการออกเงินทุนเพิ่มและค่าปรับเพื่อทดแทนค่าใช้จ่ายจากการเรียกเก็บเงินตามสัญญาใช้บัตรเครดิตที่จำเลยต้องชำระให้โจทก์ล้วนแต่เป็นการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในกรณีที่จำเลยไม่ชำระหนี้เงินดังกล่าวตรงตามเวลาที่กำหนดไว้มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 379 ซึ่งหากกำหนดไว้สูงเกินส่วนศาลย่อมลดลงได้ตามมาตรา 383 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1846/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับดอกเบี้ยผิดนัดสูงเกินส่วน ศาลลดเบี้ยปรับให้เหมาะสมตามดุลพินิจ
ฟ้องโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับดอกเบี้ยได้บรรยายถึงหลักเกณฑ์ข้อตกลงตามสัญญาเกี่ยวกับอัตราและระยะเวลาการชำระดอกเบี้ยในกรณีปกติและในกรณีผิดนัดผิดสัญญาไว้โดยละเอียดครบถ้วน จึงเป็นการบรรยายโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้วส่วนกรณีที่ว่าจำเลยชำระดอกเบี้ยไปแล้วจำนวนเท่าใด ในอัตราเท่าใดเป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณาฟ้องโจทก์ในเรื่องนี้จึงไม่เคลือบคลุม ตามข้อสัญญากู้เงินระบุว่าถ้าจำเลยไม่ชำระหนี้ก็ดีหรือไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องก็ดี โจทก์มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยได้ในอัตราร้อยละ 21 ต่อปี จากต้นเงินกู้ที่ค้างชำระซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่กำหนดไว้ในกรณีมีการชำระหนี้ถูกต้องตามสัญญา ดอกเบี้ยที่กำหนดให้มีอัตราสูงขึ้นดังกล่าวเป็นค่าเสียหายที่โจทก์และจำเลยตกลงกันไว้ล่วงหน้าว่าจำเลยจะต้องชดใช้เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ในกำหนดเวลาตามสัญญาจึงมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ ดอกเบี้ยที่โจทก์เรียกเอาจากจำเลยตามสัญญาในกรณีปกตินั้นมีอัตราร้อยละ 13.5 ต่อปี เป็นอย่างสูง การที่โจทก์กำหนดเบี้ยปรับไว้ในลักษณะเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 21 ต่อปีซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติเกือบเท่าตัวนับว่าเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน ศาลย่อมลดลงเป็นจำนวนพอสมควรคืออัตราร้อยละ 18 ต่อปีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1846/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสูงเกินส่วน ศาลลดดอกเบี้ยผิดนัดให้เหมาะสม
ฟ้องโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับดอกเบี้ยได้บรรยายถึงหลักเกณฑ์ข้อตกลงตามสัญญาเกี่ยวกับอัตราและระยะเวลาการชำระดอกเบี้ยในกรณีปกติและในกรณีผิดนัดผิดสัญญาไว้โดยละเอียดครบถ้วนจึงเป็นการบรรยายโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้วส่วนกรณีที่ว่าจำเลยชำระดอกเบี้ยไปแล้วจำนวนเท่าใดในอัตราเท่าใดเป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณาฟ้องโจทก์ในเรื่องนี้จึงไม่เคลือบคลุม ตามข้อสัญญากู้เงินระบุว่าถ้าจำเลยไม่ชำระหนี้ก็ดีหรือไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องก็ดีโจทก์มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยได้ในอัตราร้อยละ21ต่อปีจากต้นเงินกู้ที่ค้างชำระซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่กำหนดไว้ในกรณีมีการชำระหนี้ถูกต้องตามสัญญาดอกเบี้ยที่กำหนดให้มีอัตราสูงขึ้นดังกล่าวเป็นค่าเสียหายที่โจทก์และจำเลยตกลงกันไว้ล่วงหน้าว่าจำเลยจะต้องชดใช้เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ในกำหนดเวลาตามสัญญาจึงมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ ดอกเบี้ยที่โจทก์เรียกเอาจากจำเลยตามสัญญาในกรณีปกตินั้นมีอัตราร้อยละ13.5ต่อปีเป็นอย่างสูงการที่โจทก์กำหนดเบี้ยปรับไว้ในลักษณะเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ21ต่อปีซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติเกือบเท่าตัวนับว่าเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนศาลย่อมลดลงเป็นจำนวนพอสมควรคืออัตราร้อยละ18ต่อปีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4287/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับจากสัญญาเงินกู้สูงเกินส่วน ศาลลดลงให้เหมาะสมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สัญญากู้เงินระหว่างโจทก์จำเลยข้อ2.1ก.กำหนดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ14350ต่อปีแต่สัญญาข้อ2.4มีข้อความระบุว่า"ในกรณีที่ผู้กู้ไม่ชำระต้นเงินและ/หรือกำหนดเวลาที่ระบุตามข้อ3ผู้กู้ยอมให้ผู้ให้กู้คิดดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้ที่ยังคงค้างชำระทั้งหมดในอัตราสูงสุดตามที่ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาตให้บริษัทเงินทุนสามารถเรียกเก็บได้จากลูกค้าเงินกู้แทนอัตราที่กำหนดไว้ในข้อ2.1,2.2และ2.3ข้างต้น"โจทก์จึงมีสิทธิเรียกเอาดอกเบี้ยตามอัตราที่ตกลงกันไว้ได้แต่ปรากฎว่าข้อตกลงระหว่างโจทก์และจำเลยดังกล่าวเป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับการชดใช้ค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในกรณีจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามเวลาที่กำหนดอันมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา379ถ้าเบี้ยปรับกำหนดไว้สูงเกินส่วนศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา383

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8097/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับในสัญญา: ศาลมีอำนาจลดจำนวนลงได้หากสูงเกินส่วน
เงินค่าปรับที่คู่กรณีกำหนดกันไว้ในสัญญา ถือได้ว่าเป็นเบี้ยปรับอย่างหนึ่งซึ่งต้องปรับด้วย ป.พ.พ. มาตรา 383 วรรคแรก แม้มีข้อตกลงกันไว้แต่ก็มิได้กำหนดบังคับไว้เด็ดขาดว่าจะต้องให้เป็นไปตามนั้น ถ้าสูงเกินส่วน ศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าปรับสูงเกินส่วน ศาลลดค่าปรับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 383 แม้มีข้อตกลง
แม้ตามสัญญาจะซื้อจะขายกำหนดค่าปรับในกรณีที่ผู้ขายส่งมอบสิ่งของให้แก่ผู้ซื้อไม่ถูกต้องภายในกำหนดสัญญาโดยผู้ขายยอมให้ปรับเป็นเงินร้อยละ 10 ของราคาสิ่งของทั้งหมดก็ตาม แต่ค่าปรับดังกล่าว ถ้าสูงเกินส่วนศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 383.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3821/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าปรับสูงเกินส่วนในสัญญาซื้อขาย ศาลลดค่าปรับให้เหมาะสมกับความเสียหาย
โจทก์ทำสัญญาซื้อขายเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ไฟฟ้าจากจำเลยรวม 4 ฉบับ จำเลยผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาและปรับจำเลยพร้อมริบหลักประกันตามสัญญารวมเป็นเงินทั้งสิ้น 558,404 บาทการที่โจทก์บอกเลิกสัญญาแต่ละฉบับภายหลังจำเลยผิดสัญญาเป็นเวลานานเป็นปีและปรับจนถึงวันที่โจทก์บอกเลิกสัญญาเป็นจำนวนค่าปรับสูงเกินกว่าราคาสิ่งของที่โจทก์ซื้อมาก จึงเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดค่าปรับเป็นเงิน 260,359.20 บาท จึงเป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3821/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสูงเกินส่วนจากสัญญาซื้อขาย ศาลลดค่าปรับให้เหมาะสมกับความเสียหาย
โจทก์ทำสัญญาซื้อขายเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ไฟฟ้าจากจำเลยรวม4 ฉบับ จำเลยผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาและปรับจำเลยพร้อมริบหลักประกันตามสัญญารวมเป็นเงินทั้งสิ้น 558,404 บาท การที่โจทก์บอกเลิกสัญญาแต่ละฉบับภายหลังจำเลยผิดสัญญาเป็นเวลานานเป็นปีและปรับจนถึงวันที่โจทก์บอกเลิกสัญญาเป็นจำนวนค่าปรับสูงเกินกว่าราคาสิ่งของที่โจทก์ซื้อมาก จึงเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดค่าปรับเป็นเงิน 260,359.20 บาทจึงเป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2565

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสูงเกินส่วน ศาลลดค่าปรับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 383
หากโจทก์ผู้รับจ้างปฏิบัติผิดข้อกำหนดตามที่ระบุในสัญญา จำเลยผู้ว่าจ้างมีสิทธิเรียกค่าปรับได้ ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการกำหนดค่าเสียหายในกรณีที่โจทก์ไม่ชำระหนี้หรือชำระหนี้ไม่ถูกต้องตามสมควรไว้ล่วงหน้า จึงเข้าลักษณะเป็นเบี้ยปรับและค่าปรับที่จำเลยเรียกจากโจทก์สูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383 วรรคหนึ่ง แต่การที่จำเลยคิดค่าปรับจากโจทก์เป็นการใช้สิทธิตามข้อตกลงในสัญญาโดยชอบ เมื่อศาลพิพากษาให้ลดค่าปรับซึ่งเป็นเบี้ยปรับลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 383 วรรคหนึ่ง เป็นผลให้จำเลยต้องคืนเบี้ยปรับบางส่วนให้แก่โจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้ดอกเบี้ยจากเบี้ยปรับที่ได้รับคืน เพราะเป็นฝ่ายผิดสัญญา