พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4165/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งเงินชำระหนี้ตามหมายอายัดศาลโดยเข้าใจผิด และสิทธิในการติดตามเอาเงินคืน
ช. เจ้าหนี้โจทก์ได้โอนสิทธิการรับเงินค่าก่อสร้างให้ ก. และโจทก์ยอมรับว่าจะจ่ายให้ ก. แล้ว สิทธิการรับเงินของ ช. ย่อมหมดไป การที่โจทก์ส่งเงินดังกล่าวให้ศาลตามหมายอายัดเป็นความเข้าใจผิดของโจทก์ โจทก์มีสิทธิติดตามเอาคืนได้
โจทก์ส่งเงินค่าก่อสร้างที่ยังค้างชำระแก่ศาลในคดีที่ ช. เจ้าหนี้เดิมถูกจำเลยฟ้องเพราะมีหมายอายัดมา โจทก์จึงเข้าใจว่าต้องส่งไปให้ศาลและศาลคงอายัดไม่ได้ส่งไปชำระหนี้ผู้ใด การที่จำเลยกับ ช. ประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมรับเงินที่โจทก์ส่งศาล จะถือว่าโจทก์กระทำตามอำเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชำระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มีความผูกพันที่จะต้องชำระตาม ป.พ.พ. มาตรา 407 ไม่ได้
การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่ามีสิทธิติดตามเอาเงินคืนจากจำเลยได้เป็นการใช้สิทธิติดตามตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336 ซึ่งไม่มีอายุความบัญญัติห้ามไว้
โจทก์ส่งเงินค่าก่อสร้างที่ยังค้างชำระแก่ศาลในคดีที่ ช. เจ้าหนี้เดิมถูกจำเลยฟ้องเพราะมีหมายอายัดมา โจทก์จึงเข้าใจว่าต้องส่งไปให้ศาลและศาลคงอายัดไม่ได้ส่งไปชำระหนี้ผู้ใด การที่จำเลยกับ ช. ประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมรับเงินที่โจทก์ส่งศาล จะถือว่าโจทก์กระทำตามอำเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชำระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มีความผูกพันที่จะต้องชำระตาม ป.พ.พ. มาตรา 407 ไม่ได้
การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่ามีสิทธิติดตามเอาเงินคืนจากจำเลยได้เป็นการใช้สิทธิติดตามตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336 ซึ่งไม่มีอายุความบัญญัติห้ามไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4165/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งเงินตามหมายอายัดโดยเข้าใจผิด และสิทธิในการติดตามเอาคืนจากผู้รับเงินไปโดยมิชอบ
ช. เจ้าหนี้โจทก์ได้โอนสิทธิการรับเงินค่าก่อสร้างให้ ก.และโจทก์ยอมรับว่าจะจ่ายให้ ก. แล้ว สิทธิการรับเงินของ ช.ย่อมหมดไป การที่โจทก์ส่งเงินดังกล่าวให้ศาลตามหมายอายัดเป็นความเข้าใจผิดของโจทก์ โจทก์มีสิทธิติดตามเอาคืนได้ โจทก์ส่งเงินค่าก่อสร้างที่ยังค้างชำระ ช. ให้แก่ศาลตามหมายอายัดในคดีที่ ช. เจ้าหนี้โจทก์ถูกจำเลยฟ้อง โดยโจทก์เข้าใจว่ามีหน้าที่ต้องส่งและศาลคงอายัดไม่ส่งไปชำระหนี้แก่ผู้ใดจะถือว่าโจทก์กระทำตามอำเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชำระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มีความผูกพันที่จะต้องชำระตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 407 ไม่ได้ โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์มีสิทธิติดตามเอาเงินที่โจทก์ส่งศาลตามหมายอายัด ซึ่งจำเลยกับ ช. ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันให้จำเลยรับเงินดังกล่าวไปคืนจากจำเลยได้ เป็นการใช้สิทธิติดตามและเอาคืนทรัพย์สินของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336 จึงไม่มีอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการอายัดทรัพย์: การส่งเงินตามหมายบังคับคดีไม่เป็นการละเมิด แม้มีการอายัดทรัพย์ไว้ก่อนหน้า
จำเลยส่งเงินที่ ม. พนักงานของจำเลยมีสิทธิได้รับไปตามหมายบังคับคดีของศาล และตามคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา เป็นไปตามกฎหมาย จึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์
การที่ศาลมีคำสั่งอายัดเงินไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาในคดีที่โจทก์ฟ้อง ไม่ห้ามโจทก์ (เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา) ในคดีอื่นที่จะอายัดทรัพย์นั้นเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาได้เมื่อจำเลยส่งเงินนั้นไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดี การอายัดเสร็จสิ้นแล้ว การอายัดชั่วคราวในคดีของโจทก์ย่อมสิ้นผลไปโดยปริยายโจทก์ไม่มีสิทธิโต้แย้ง
การที่ศาลมีคำสั่งอายัดเงินไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาในคดีที่โจทก์ฟ้อง ไม่ห้ามโจทก์ (เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา) ในคดีอื่นที่จะอายัดทรัพย์นั้นเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาได้เมื่อจำเลยส่งเงินนั้นไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดี การอายัดเสร็จสิ้นแล้ว การอายัดชั่วคราวในคดีของโจทก์ย่อมสิ้นผลไปโดยปริยายโจทก์ไม่มีสิทธิโต้แย้ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักกลบลบหนี้ในคดีล้มละลาย ต้องแสดงเจตนาชัดเจน การส่งเงินโดยไม่แจ้งความประสงค์ถือเป็นการสละสิทธิ
แม้ว่าพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 จะให้สิทธิแก่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้กับจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้หักกลบลบหนี้กันได้ แต่วิธีหักกลบลบหนี้ก็จะต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 342 โดยแสดงเจตนาแก่อีกฝ่ายหนึ่ง ปรากฏว่าเมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยอายัดเงินที่ผู้ร้องเป็นลูกหนี้จำเลยและให้ส่งเงินนั้นแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์. ผู้ร้องได้ส่งเงินฝากดังกล่าว ให้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยไม่แสดงเจตนาขอหักกลบลบหนี้ หนี้เงินฝากระหว่างจำเลยที่ 1 กับผู้ร้องเป็นอันระงับลงสิทธิที่จะหักกลบลบหนี้ย่อมสิ้นสุดลง ผู้ร้องไม่มีสิทธิขอหักกลบลบหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมกันของนายวงแชร์ต่อลูกแชร์ และการพิพากษาตามส่วนที่ส่งจริง
โจทก์ฟ้องว่า ส่งเงินค่าแชร์รวม 102,680 บาท แต่นำสืบว่าเมื่อหักดอกเบี้ยจากการเปียแชร์ออกแล้ว คงส่งเงินจริงเพียง 60,000 บาท จะเรียกว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องไม่ได้ เพราะเป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจำนวนเต็มก่อนหักดอกเบี้ย เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า โจทก์ควรได้ตามส่วนของจำนวนเต็มก่อนหักดอกเบี้ย เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า โจทก์ควรได้ตามส่วนของจำนวนเต็มเมื่อหักดอกเบี้ยออกแล้วศาลก็มีอำนาจพิพากษาให้โจทก์ได้รับแต่ส่วนที่โจทก์ส่งจริงนั้นได้
จำเลยที่ 1 กับพวกร่วมกันตั้งวงแชร์ขึ้น แล้วช่วยกันหาผู้เล่นมาร่วมเล่นในวงแชร์ที่ตั้งขึ้นด้วยกันนั้น กรณีเห็นได้ชัดว่า จำเลยที่ 1 กับพวกต่างผูกพันตนที่จะรับผิดร่วมกันต่อผู้เล่นทุกคนในฐานะลูกหนี้ร่วม จะแยกความรับผิดเป็นส่วนหาได้ไม่ เว้นแต่จะมีข้อสัญญาตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
จำเลยที่ 1 กับพวกร่วมกันตั้งวงแชร์ขึ้น แล้วช่วยกันหาผู้เล่นมาร่วมเล่นในวงแชร์ที่ตั้งขึ้นด้วยกันนั้น กรณีเห็นได้ชัดว่า จำเลยที่ 1 กับพวกต่างผูกพันตนที่จะรับผิดร่วมกันต่อผู้เล่นทุกคนในฐานะลูกหนี้ร่วม จะแยกความรับผิดเป็นส่วนหาได้ไม่ เว้นแต่จะมีข้อสัญญาตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมของนายวงแชร์ต่อลูกแชร์ แม้จะมีการส่งเงินไม่ครบตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า ส่งเงินค่าแชร์รวม 102,680 บาท. แต่นำสืบว่าเมื่อหักดอกเบี้ยจากการเปียแชร์ออกแล้ว คงส่งเงินจริงเพียง 60,000 บาท. จะเรียกว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องไม่ได้. เพราะเป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจำนวนเต็มก่อนหักดอกเบี้ย. เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์ควรได้ตามส่วนของจำนวนเต็มเมื่อหักดอกเบี้ยออกแล้วศาลก็มีอำนาจพิพากษาให้โจทก์ได้รับแต่ส่วนที่โจทก์ส่งจริงนั้นได้.
จำเลยที่ 1 กับพวกร่วมกันตั้งวงแชร์ขึ้น แล้วช่วยกันหาผู้เล่นมาร่วมเล่นในวงแชร์ที่ตั้งขึ้นด้วยกันนั้น. กรณีเห็นได้ชัดว่า จำเลยที่ 1 กับพวกต่างผูกพันตนที่จะรับผิดร่วมกันต่อผู้เล่นทุกคนในฐานะลูกหนี้ร่วม. จะแยกความรับผิดเป็นส่วนหาได้ไม่. เว้นแต่จะมีข้อสัญญาตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น.
จำเลยที่ 1 กับพวกร่วมกันตั้งวงแชร์ขึ้น แล้วช่วยกันหาผู้เล่นมาร่วมเล่นในวงแชร์ที่ตั้งขึ้นด้วยกันนั้น. กรณีเห็นได้ชัดว่า จำเลยที่ 1 กับพวกต่างผูกพันตนที่จะรับผิดร่วมกันต่อผู้เล่นทุกคนในฐานะลูกหนี้ร่วม. จะแยกความรับผิดเป็นส่วนหาได้ไม่. เว้นแต่จะมีข้อสัญญาตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดจากการเป็นสามีภริยาตามกฎหมายลักษณะผัวเมีย: การแยกอยู่และการส่งเงินให้ใช้จ่าย
ตามกฎหมายลักษณะผัวเมีย การที่หญิงชายจะขาดจากการเป็นสามีภริยากัน ก็ด้วยการหย่าตามพิธีการ หรือมีพฤติการณ์ต้องตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ฉะนั้น การที่ภริยาเพียงแต่แยกออกไปอยู่กับบิดามารดา แต่สามียังไปมาหาสู่ ทั้งยังส่งเงินให้ใช้จ่ายตลอดมานั้น ยังหาถือว่าได้ขาดจากการเป็นสามีภริยากันไม่ ภริยาจึงยังมีสิทธิรับบำนาญตกทอดของสามีด้วย
คำว่า "ร้าง" แปลว่าทอดทิ้งไว้ หรือ ไปจากเมื่อเอามาผสมกับคำว่า "เลิก" แล้ว ความหมายในเรื่องผัวเมียก็แปลได้ว่า ไม่ได้อยู่ร่วมกันหรือทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไว้เท่านั้น ตามกฎหมายลักษณะผัวเมีย การทิ้งเมียร้างไว้ยังไม่ขาดจากการเป็นสามีภริยากัน ยังจะต้องมีพฤติการณ์อย่างอื่นประกอบอีก
คำว่า "ร้าง" แปลว่าทอดทิ้งไว้ หรือ ไปจากเมื่อเอามาผสมกับคำว่า "เลิก" แล้ว ความหมายในเรื่องผัวเมียก็แปลได้ว่า ไม่ได้อยู่ร่วมกันหรือทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไว้เท่านั้น ตามกฎหมายลักษณะผัวเมีย การทิ้งเมียร้างไว้ยังไม่ขาดจากการเป็นสามีภริยากัน ยังจะต้องมีพฤติการณ์อย่างอื่นประกอบอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของกรมไปรษณีย์จากความประมาทในการส่งธนาณัติ ทำให้บุคคลอื่นรับเงินแทนเจ้าของ
บุรุษไปรษณีย์อ้างว่าได้ส่งจดหมายธนาณัติให้คนในบ้านของโจทก์ แต่ปรากฎว่าไม่ใช่คนในบ้านโจทก์ เป็นเหตุให้มีคนปลอมชื่อโจทก์รับเงินไป ต้องถือว่าบุรุษไปรษณีย์ประมาท กรมไปรษณีย์โทรเลขต้องร่วมรับผิดด้วย กรณีเช่นนี้ไม่เข้า มาตรา 55 วรรคต้น แห่งพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ. 2477
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1822/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับข่มขู่ใจให้ส่งเงินทันที ไม่เข้าความผิดฐานกรรโชก
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้กำลังข่มขืนขู่เข็ญยืนใจให้ผู้เสียหายสัญญาจะส่งเงินให้แก่จำเลยกับพวก ขอให้ลงโทษฐานกรรโชก ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้เสียหายถูกบังคับให้เงินทันที จึงมิใช่เป็นเรื่องบังคับให้สัญญาว่าจะส่งทรัพย์ตามความหมายของกรรโชก จึงลงโทษจำเลยฐานกรรโชกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1313/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงโดยใช้อุบายหลอกลวงให้ส่งเงิน แต่กลับนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว คดีไม่ขาดอายุความ
โจทก์จำเลยร่วมกันเช่าที่ดินมาปลูกตึกแถวและได้ตกลงรับผิดจ่ายค่าจ้างเหมาแยกกันตามส่วน ดังนี้เมื่อจำเลยใช้อุบายหลอกลวงให้โจทก์ส่งทรัพย์ให้แก่จำเลยโดยอ้างว่าผู้รับเหมาให้มารับแทน ซึ่งไม่เป็นความจริงเช่นนี้ แม้จำเลยจะได้นำเงินนั้นไปใช้จ่ายค่าประตูหน้าต่างแลเค่าแรงงานก่อสร้างตึกนั้นก็เพื่อประโยชน์ของจำเลยเองไม่เกี่ยวแก่โจทก์ จำเลยต้องมีความผิดตามมาตรา 304