คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ส่วนสัด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2655/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัย เหตุฎีกาไม่ชัดเจน ไม่โต้แย้งคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์ และขาดเหตุผลสนับสนุนข้ออ้างเรื่องการครอบครองที่ดินเป็นส่วนสัด
จำเลยฎีกาว่าเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าการครอบครองที่ดินของจำเลยและโจทก์เป็นส่วนสัดก็ต้องแบ่งที่ดินตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น ฎีกาของจำเลยดังกล่าวนอกจากเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ โดยไม่มีเหตุผลสนับสนุนแล้ว ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ก็มิได้ฟังข้อเท็จจริงยุติดังที่จำเลยกล่าวอ้างดังกล่าว แต่วินิจฉัยว่าพยานหลักฐานไม่พอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยครอบครองที่ดินพิพาทเป็นส่วนสัดแน่นอนดังนี้ ฎีกาของจำเลยจึงมิได้โต้แย้งคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 7 ว่าไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องอย่างไร จะต้องรับฟังว่าข้อเท็จจริงเป็นดังที่จำเลยกล่าวอ้างด้วยเหตุประการใด จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยมาโดยไม่ชอบศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งครอบครองที่ดิน: โฉนดร่วม ไม่ตัดสิทธิการแบ่งส่วนสัดเดิม หากมีหลักฐานการครอบครองเป็นสัดส่วน
เมื่อโจทก์จำเลยได้แบ่งกันครอบครองที่พิพาทเป็นส่วนสัดมาแต่แรกแล้วแม้โจทก์จำเลยจะมีชื่อร่วมกันในโฉนดก็ตาม แต่ก็เป็นเพราะเจ้าพนักงานที่ดินแนะนำให้ขอออกโฉนดร่วมกันไปก่อนเนื่องจากที่พิพาทเป็นที่ดินตกสำรวจจึงถือไม่ได้ว่าโจทก์จำเลยมีส่วนในที่ดินแปลงพิพาทเท่ากันตามข้อสันนิษฐานของกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2940/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งแยกที่ดิน: ถือการครอบครองเป็นหลัก แม้เนื้อที่โฉนดไม่ตรงกับที่รังวัดจริง
ศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลย 4 คนแบ่งแยกที่ดินกรรมสิทธิ์รวมซึ่งมีเนื้อที่ตามโฉนด 81 ไร่ 2 งาน 52 ตารางวา ให้เป็นส่วนของโจทก์เนื้อที่ 27 ไร่ 84 ตารางวา ตามที่ครอบครอง เมื่อได้ความจากพยานหลักฐานในชั้นพิจารณาว่าโจทก์จำเลยต่างได้ปกครองที่พิพาทกันตามส่วนของตน และเมื่อคำนวณตามส่วนสัดของที่ดินทั้งหมดเป็นเกณฑ์แล้ว ผลปรากฏว่าโจทก์มีอยู่ 2 ส่วน จำเลยทั้งสี่มีคนละ 1 ส่วน ย่อมเห็นได้ว่าความสำคัญตามคำพิพากษาต้องถือเอาส่วนสัดที่ต่างคนต่างปกครองเป็นสำคัญ ข้อความที่เกี่ยวกับจำนวนเนื้อที่นั้นเป็นเพียงความประสงค์ที่จะแสดงถึงส่วนสัดที่คำนวณได้จากจำนวนเนื้อที่ที่ปรากฏอยู่ในโฉนดเท่านั้น ฉะนั้น เมื่อปรากฏในชั้นบังคับคดีว่าเนื้อที่ดินตามโฉนดขาดไป คงรังวัดได้ 71 ไร่ 2 งาน 70 ตารางวา จึงชอบที่จะถือเอาส่วนที่ดินที่โจทก์ครอบครองตามที่ระบุไว้ในคำพิพากษาเป็นเงื่อนไขสำคัญกว่าจำนวนเนื้อที่สำหรับใช้เป็นหลักในการบังคับคดี ศาลย่อมให้แบ่งแยกที่ดินให้โจทก์ 2 ใน 6 ส่วนของที่ดินที่รังวัดได้ ขาดเกินเพียงใดให้คิดชดเชยกันระหว่างที่ดินที่โจทก์ครอบครองกับที่ดินติดต่อส่วนที่เหลือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2940/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งแยกที่ดินตามการครอบครองจริง แม้เนื้อที่ตามโฉนดไม่ตรงกับที่รังวัดได้ ศาลต้องยึดส่วนสัดการครอบครองเป็นหลัก
ศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลย 4 คนแบ่งแยกที่ดินกรรมสิทธิ์รวมซึ่งมีเนื้อที่ตามโฉนด 81 ไร่ 2 งาน 42ตารางวา ให้เป็นส่วนของโจทก์เนื้อที่ 27 ไร่84 ตารางวาตามที่ครอบครอง เมื่อได้ความจากพยานหลักฐานในชั้นพิจารณาว่าโจทก์จำเลยต่างได้ปกครองที่พิพาทกันตามส่วนของตน และเมื่อคำนวณตามส่วนสัดของที่ดินทั้งหมดเป็นเกณฑ์แล้ว ผลปรากฏว่าโจทก์มีอยู่ 2 ส่วน จำเลยทั้งสี่มีคนละ 1 ส่วนย่อมเห็นได้ว่าความสำคัญตามคำพิพากษาต้องถือเอาส่วนสัดที่ต่างคนต่างปกครองเป็นสำคัญข้อความที่เกี่ยวกับจำนวนเนื้อที่นั้นเป็นเพียงความประสงค์ที่จะแสดงถึงส่วนสัดที่คำนวณได้จากจำนวนเนื้อที่ที่ปรากฏอยู่ในโฉนดเท่านั้นฉะนั้นเมื่อปรากฏในชั้นบังคับคดีว่าเนื้อที่ดินตามโฉนดขาดไป คงรังวัดได้ 71 ไร่ 2 งาน 70 ตารางวา จึงชอบที่จะถือเอาส่วนที่ดินที่โจทก์ครอบครองตามที่ระบุไว้ในคำพิพากษา เป็นเงื่อนไขสำคัญกว่าจำนวนเนื้อที่สำหรับใช้เป็นหลักในการบังคับคดี ศาลย่อมให้แบ่งแยกที่ดินให้โจทก์ 2 ใน 6 ส่วนของที่ดินที่รังวัดได้ ขาดเกินเพียงใดให้คิดชดเชยกันระหว่างที่ดินที่โจทก์ครอบครองกับที่ดินติดต่อส่วนที่เหลือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินจากการครอบครองเป็นส่วนสัด แม้มีชื่อในโฉนดรวมกัน การครอบครองอันแท้จริงยังคงมีผล
โจทก์จำเลยต่างได้ครอบครองที่ดินมีโฉนดมาเป็นส่วนสัดจนต่างได้กรรมสิทธิ์แล้ว การที่จำเลยเพียงแต่ยอมให้โจทก์มีชื่อในโฉนดเป็นเจ้าของรวมกัน เมื่อโจทก์จำเลยโอนชื่อในโฉนดรับมรดก เช่นนี้ หาได้ลบล้างการครอบครองอันแท้จริงนั้นไม่และกรณีมิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยสละสิทธิการครอบครองส่วนของตนให้โจทก์แต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินแม้ชื่อในโฉนดไม่ตรง: การครอบครองเป็นส่วนสัดต่อเนื่องยาวนานทำให้มีกรรมสิทธิ์
เจ้าของที่ดินหลายคนสมยอมลงชื่อภรรยาผู้ใหญ่บ้านในหน้าโฉนดแต่ผู้เดียวโดยประสงค์จะให้เสียค่าธรรมเนียมน้อยและสะดวกแต่ก่อนหรือหลังออกโฉนดตลอดมาแต่ละเจ้าของก็ได้ครอบครองเป็นส่วนสัดโดยสงบเปิดเผยติดต่อกันเกิน 10 ปีดังนี้เจ้าของนั้นมีกรรมสิทธิ์อยู่แม้ภรรยาผู้ใหญ่บ้านจะมีชื่อในหน้าโฉนดแต่ผู้เดียวก็หาได้กรรมสิทธิ์ทั้งหมดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1980/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมขายส่วนของตนได้ แม้คนอื่นไม่ยินยอม แต่ห้ามจำหน่ายภาระติดพันโดยไม่ยินยอม
เจ้าของร่วมคนหนึ่งๆ ขายที่ดินให้ผู้อื่นโดยระบุส่วนสัดของตนบอกจำนวนเนื้อที่ไว้อย่างชัดแจ้ง มิได้เกินกว่าส่วนสิทธิของตนนั้น แม้เจ้าของร่วมคนอื่นจะมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยก็ตาม การซื้อขายนั้นก็ย่อมสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1361 วรรคหนึ่ง ส่วนมาตรา 1361 วรรคสอง นั้น ท่านประสงค์ห้ามมิให้เจ้าของรวมคนหนึ่งๆ จำหน่ายจำนำหรือก่อให้เกิดภาระติดพันแก่ตัวทรัพย์สินนั้น โดยมิได้รับความยินยอมแห่งเจ้าของร่วมทุกคน เพราะเป็นการทำลายสิทธิของเจ้าของรวมคนอื่นด้วย มิใช่แต่เฉพาะส่วนของตน (ฎีกาที่ 277/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1680/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมขายส่วนของตนได้ แม้ไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วมอื่น หากระบุส่วนสัดชัดเจน
เจ้าของร่วมคนหนึ่ง ๆ ขายที่ดินให้ผู้อื่นโดยระบุส่วนสัดของคนบอกจำนวนเนื้อที่ไว้อย่างชัดแจ้ง มิได้เกินกว่าส่วนสิทธิของตนนั้น แม้เจ้าของร่วมคนอื่นจะมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ก็ตาม การซื้อขายนั้นก็ย่อมสมบูรณ์ตาม ป.ม.แพ่ง ฯมาตรา 1361 วรรค 1 ส่วนมาตรา 1361 วรรค 2 นั้น ท่านประสงค์ห้ามมิให้เจ้าของร่วมคนหนึ่ง ๆ จำหน่าย จำนำ หรือก่อให้เกิดภาระติดพันแก่ตัวทรัพย์สินนั้น โดยมิได้รับความยินยอมแห่งเจ้าของร่วมทุกคนเพราะเป็นการทำลายสิทธิของเจ้าของรวมคนอื่นด้วย มิใช่แต่เฉพาะส่วนของตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2474

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ในฐานะผู้รับมฤดก: กรรมสิทธิเกิดจากการครอบครองเป็นส่วนสัด
มฤดกยังไม่ได้แบ่ง ผู้รับมฤดกปกครองเป็นส่วนเป็นสัดได้เท่าที่ปกครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7667/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกโดยการครอบครองเป็นส่วนสัดและการขาดอายุความมรดก
นับแต่วันที่ ส. ตาย ทายาทของ ส. คือโจทก์ จำเลย และ อ. ได้ครอบครองที่ดินทรัพย์มรดกเป็นส่วนสัด อันเป็นการแบ่งปันทรัพย์มรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1750 วรรคหนึ่ง แล้ว และถือได้ว่าการแบ่งปันมรดกเสร็จสิ้นแล้วนับแต่วันที่ได้มีการครอบครองเป็นส่วนสัด จึงไม่มีปัญหาเรื่องคดีโจทก์ขาดอายุความมรดก 1 ปี ตามมาตรา 1754 หรือไม่