พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7864/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาศาลชั้นต้นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.อบต. ถือเป็นที่สุด ไม่อุทธรณ์ฎีกาได้
ตาม พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2542 มาตรา 25 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า "ในระหว่างที่ไม่มีกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ให้นำกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลมาใช้บังคับกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโดยอนุโลม?" และตาม พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 มาตรา 25 วรรคสอง บัญญัติว่า "เมื่อศาลได้รับคำร้องแล้ว ให้ดำเนินการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและวินิจฉัยมีคำสั่งให้ถอนใบสมัครหรือไม่โดยเร็ว คำสั่งของศาลนั้นให้เป็นที่สุด..." และมาตรา 58 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า "เมื่อศาลได้รับคำร้องคัดค้านแล้ว ให้ดำเนินการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งโดยเร็วโดยให้เจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการเลือกตั้งหรือผู้ได้รับเลือกตั้งที่มีส่วนได้เสียมีโอกาสต่อสู้การคัดค้านนั้น เมื่อศาลสั่งอย่างใด ให้แจ้งคำสั่งไปยังเทศบาลโดยมิชักช้า คำสั่งศาลนั้นให้เป็นที่สุด" หมายความว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งหรือคำพิพากษาอย่างไรเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่ว่าศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาตามมาตรา 25 หรือมาตรา 58 ก็ล้วนแต่มีผลทำให้คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นที่สุดทั้งสองกรณี คู่ความไม่สามารถอุทธรณ์ฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7864/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลเกี่ยวกับการเลือกตั้งส.อบต.ถือเป็นที่สุด ไม่อุทธรณ์ฎีกาได้
คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่ว่าศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลพ.ศ. 2482 มาตรา 25 หรือมาตรา 58 ประกอบพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2542 มาตรา 25 วรรคหนึ่ง ย่อมเป็นที่สุด คู่ความไม่สามารถอุทธรณ์ฎีกาได้ การที่ผู้ร้องอุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษาของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาและสั่งรับอุทธรณ์ของผู้ร้องเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4143/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คุณสมบัติผู้สมัคร ส.อบต. ต้องมีภูมิลำเนาในเขตเลือกตั้ง การย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านแต่ไม่ได้อาศัยจริงถือเป็นเหตุขาดคุณสมบัติ
ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาตำบลซึ่งได้รับเลือกตั้งต้องเป็นผู้มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำและมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในหมู่บ้านในตำบลนั้นเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหกเดือนจนถึงวันสมัครรับเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537มาตรา 9(2) นั้น หมายความว่า ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งดังกล่าวต้องมีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำและมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในหมู่บ้านในตำบลที่อยู่ในเขตเลือกตั้งนั้นด้วย
การที่โจทก์มีบ้านอันเป็นภูมิลำเนาตามกฎหมายอยู่ในหมู่บ้านในตำบลนอกเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล แต่ได้ย้ายชื่อของตนจากบ้านนั้นเข้าไปอยู่ในฐานะผู้อาศัยในทะเบียนบ้านของผู้อื่นซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งดังกล่าวเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยโจทก์ไม่จงใจย้ายภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ไปที่บ้านดังกล่าว ถือได้ว่าโจทก์ไม่มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำและมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในเขตเลือกตั้ง โจทก์จึงขาดคุณสมบัติผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
การที่โจทก์มีบ้านอันเป็นภูมิลำเนาตามกฎหมายอยู่ในหมู่บ้านในตำบลนอกเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล แต่ได้ย้ายชื่อของตนจากบ้านนั้นเข้าไปอยู่ในฐานะผู้อาศัยในทะเบียนบ้านของผู้อื่นซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งดังกล่าวเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยโจทก์ไม่จงใจย้ายภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ไปที่บ้านดังกล่าว ถือได้ว่าโจทก์ไม่มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำและมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในเขตเลือกตั้ง โจทก์จึงขาดคุณสมบัติผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล