คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หนี้ค่าเสียหาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2507/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ค่าเสียหายจากการผิดสัญญา/ละเมิดที่ไม่สามารถกำหนดจำนวนแน่นอน ไม่เป็นเหตุฟ้องล้มละลาย
การกระทำของจำเลยจะเป็นการกระทำผิดสัญญาจ้างแรงงานหรือตัวแทนและกระทำละเมิดต่อโจทก์ แต่ไม่ปรากฏว่าตามสัญญาจ้างแรงงานระหว่างโจทก์กับจำเลยได้กำหนดค่าเสียหายกรณีจำเลยกระทำการเช่นนี้ไว้เป็นจำนวนที่แน่นอน และการกระทำละเมิดของจำเลยต่อโจทก์ โจทก์ก็มิได้ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 438 วรรคหนึ่ง แต่อย่างใด แม้โจทก์จะดำเนินการฟ้องเรียกเงินตามสัญญาซื้อขายจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. และหุ้นส่วนผู้จัดการ ลูกค้าของโจทก์ที่ซื้อสินค้าไปเกินวงเงินสินเชื่อตามที่จำเลยได้อนุมัติและศาลมีคำพิพากษาตามยอมให้บุคคลดังกล่าวชำระเงินแก่โจทก์แล้วก็ตาม แต่จำเลยก็มิได้ถูกฟ้องในคดีแพ่งดังกล่าวด้วย จะนำจำนวนหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวมาเป็นฐานคำนวณให้จำเลยรับผิดหาได้ไม่ เพราะกรณียังไม่แน่นอนว่าโจทก์จะบังคับคดีแก่ลูกค้าของโจทก์ภายใน 10 ปี ได้เงินชำระหนี้เพียงใดหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องในอนาคต หนี้ตามฟ้องจึงเป็นหนี้ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาจ้างแรงงานหรือตัวแทนและมูลละเมิด อันเป็นหนี้ที่ยังไม่อาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอนไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 9 (3) โจทก์จึงไม่มีสิทธินำหนี้ดังกล่าวมาฟ้องให้จำเลยล้มละลายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7001/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักกลบลบหนี้ต้องไม่มีข้อต่อสู้ หากมีข้อพิพาทเรื่องหนี้ค่าเสียหาย จำเลยมิอาจหักกลบลบหนี้ได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนเงินค่าสินค้าที่โจทก์ชำระไป เนื่องจากจำเลยไม่ส่งมอบสินค้าให้แก่โจทก์ตามสัญญา จำเลยอ้างว่าโจทก์มีหนี้ค่าเสียหายที่ต้องรับผิดต่อจำเลย จากการไม่ชำระค่าสินค้าและรับมอบสินค้าทั้งหมดภายในกำหนด แต่โจทก์ปฏิเสธความรับผิด เช่นนี้ถือว่าหนี้ค่าเสียหายหรือสิทธิเรียกร้องดังกล่าวยังมีข้อต่อสู้อยู่ จำเลยมิได้ฟ้องแย้งเพื่อให้ได้ข้อยุติว่า โจทก์จะต้องรับผิดต่อจำเลยหรือไม่ เพียงใด จำเลยจึงนำหนี้ค่าเสียหายหรือสิทธิเรียกร้องดังกล่าว ซึ่งจำเลยอ้างเพียงฝ่ายเดียวมาหักกลบลบหนี้กับเงินค่าสินค้าของโจทก์ไม่ได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 344

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11234/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: การจำแนกประเภทหนี้ค่าเสียหาย, เบี้ยปรับ, และดอกเบี้ยผิดนัด
โจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันทำให้หนี้เดิมระงับไปและเปลี่ยนมาเป็นหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความแทน ซึ่งตามสัญญาดังกล่าวจำเลยยอมรับว่าเป็นหนี้ค่าปรับของยอดซื้อผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมต่อเดือนต่ำกว่าจำนวนที่จำเลยได้ให้คำรับรองไว้ จำนวนเงินดังกล่าวถือว่าเป็นค่าเสียหายอันจำเลยยอมรับผิดชดใช้แก่โจทก์ ถือว่าเป็นมูลหนี้เกี่ยวกับค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความแจ้งชัดแล้ว มิใช่ค่าเสียหายที่คู่ความตกลงกันไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะมีการไม่ชำระหนี้จึงมิใช่เบี้ยปรับ จำเลยต้องรับผิดในค่าเสียหายดังกล่าวแก่โจทก์ตามจำนวนที่ตกลงกันไว้
แต่ในส่วนที่เป็นเบี้ยปรับอัตราร้อยละ 12 ต่อปี ของหนี้ค่าซื้อผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมค้างชำระ โจทก์และจำเลยมิได้ตกลงหรือกำหนดเบี้ยปรับดังกล่าวไว้เป็นจำนวนที่แน่นอนแจ้งชัดในขณะทำสัญญาประนีประนอมยอมความ จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ยอมรับว่าเป็นหนี้เบี้ยปรับ
ส่วนค่าเบี้ยปรับอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือน ของต้นเงินที่ยังไม่ชำระตามสัญญาประนีประนอมยอมนั้น เป็นการที่จำเลยสัญญาแก่โจทก์ไว้ล่วงหน้าว่าจำเลยจะชดใช้ค่าเสียหายกรณีที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ จึงเป็นเบี้ยปรับอันศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383