คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หนี้ค้าง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8160/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจำนองครอบคลุมหนี้ทั้งหมดของผู้จำนองร่วม แม้จะชำระหนี้บางส่วนแล้ว หากยังมีหนี้ค้างอยู่ จำนองยังไม่ระงับ
โจทก์และ ศ. ร่วมกันทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับจำเลยโดยโจทก์จดทะเบียนจำนองที่ดินของโจทก์ไว้กับจำเลยเพื่อประกันหนี้โดยสัญญาจำนองระบุว่า โจทก์ตกลงจำนองที่ดินทั้งแปลงเพื่อประกันหนี้และภาระผูกพันใดๆ ของโจทก์และหรือ ศ. ที่มีต่อจำเลยผู้รับจำนอง ทั้งที่มีอยู่แล้วในขณะนี้และที่จะมีขึ้นในภายหน้าทุกลักษณะทุกประเภทหนี้ ดังนี้ เมื่อข้อพิพาทนี้เป็นเรื่องการบังคับตามสัญญาจำนองไม่ใช่ข้อพิพาทกันในเรื่องการชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี จึงต้องพิจารณาบังคับตามสัญญาจำนองเป็นสำคัญ แม้โจทก์จะชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีให้แก่จำเลยจนครบถ้วนแล้ว แต่เมื่อ ศ. ยังคงเป็นหนี้จำเลยอยู่อีกและหนี้ของ ศ. เป็นหนี้ที่อยู่ในบังคับของสัญญาจำนองที่ดินที่โจทก์ทำกับจำเลย ภาระจำนองในที่ดินที่เป็นประกันจึงยังไม่ถูกล้างหรือระงับสิ้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5897/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดหน่วงเพลทแม่พิมพ์ขัดต่อสิทธิจำเลย แม้มีหนี้ค้างก่อนหน้า สิทธิยึดหน่วงเกิดขึ้นเมื่อถึงกำหนดชำระ
แม้จำเลยทั้งสองจะจ้างโจทก์ทำเพลทแม่พิมพ์หลายครั้งแต่ในการจ้างแต่ละครั้งสามารถแยกออกจากกันได้ ดังนั้น หนี้ค่าจ้างตามสัญญาจ้างทำเพลทแม่พิมพ์ครั้งที่ 1 ถึงที่ 3 จึงไม่เกี่ยวกับการว่าจ้างครั้งที่ 4 และไม่เป็นคุณประโยชน์แก่โจทก์เกี่ยวด้วยเพลทแม่พิมพ์ตามสัญญาจ้างครั้งที่ 4 ที่โจทก์ยึดถือไว้ ทั้งหนี้ค่าจ้างทำเพลทแม่พิมพ์ครั้งที่ 4 ก็ยังไม่ถึงกำหนดชำระเนื่องจากโจทก์ให้เครดิตแก่จำเลยทั้งสองเป็นเวลา 90 วัน โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะยึดหน่วงเพลทแม่พิมพ์ดังกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 241

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2372/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เลิกสัญญาเช่าซื้อกับผู้เช่าซื้อเดิมแล้ว ไม่ปรากฏหนี้ค้าง ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิด
โจทก์ผู้ให้เช่าซื้อได้เลิกสัญญาเช่าซื้อกับจำเลยที่ 1ผู้เช่าซื้อแล้วและไม่ปรากฏว่าขณะที่เลิกสัญญาจำเลยที่ 1มีหนี้ที่ต้องรับผิดต่อโจทก์ จำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ด้วย ส่วนสัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์กับผู้เช่าซื้อคนใหม่จะสมบูรณ์หรือไม่ใช้บังคับได้เพียงใดไม่เกี่ยวกับจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์เนื่องจากการที่ผู้เช่าซื้อคนใหม่ผิดสัญญาเช่าซื้อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1256/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงินประกันหนี้กับการบังคับคดี: การหักเงินเพื่อเป็นประกันหนี้ไม่ถือเป็นการชำระหนี้
เงินที่จำเลยยินยอมให้โจทก์หักไว้เป็นเงินเพื่อเป็นประกันหนี้โจทก์ตามฟ้อง หาใช่เป็นการชำระหนี้แก่โจทก์ตามที่โจทก์ฟ้องจำเลยไม่ เมื่อโจทก์นำเงินดังกล่าวชำระหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว แต่ไม่พอชำระ โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะขอให้ศาลออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาจนครบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2100/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีภาษีอากรมีผลลบล้างสิทธิในการโต้แย้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ ทำให้หนี้ภาษีค้างเป็นอันยุติ
การที่จำเลยได้ถอนฟ้องย่อมเป็นการลบล้างผลแห่งการยื่นคำฟ้องและกระทำให้คู่ความกลับคืนเข้าสู่ฐานะเดิมเสมือนหนึ่งมิได้มีการยื่นฟ้องเลยตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากรฯ มาตรา 17 และ 29 ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 176 เท่ากับว่าจำเลยมิได้ใช้สิทธิโต้แย้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์โดยอุทธรณ์คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ต่อศาลตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในมาตรา 30 (2) แห่ง ป.รัษฎากร หนี้ภาษีอากรค้างตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์เป็นอันยุติ จำเลยย่อมไม่มีสิทธิโต้แย้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ไม่ว่าโดยวิธีฟ้องหรือให้การต่อสู้ในศาลเพื่อขอให้งดหรือลดเบี้ยปรับตามการประเมินได้ คดีจึงไม่มีประเด็นต้องวินิจฉัยว่ามีเหตุอันสมควรงดหรือลดเบี้ยปรับแก่จำเลยหรือไม่ การที่ศาลภาษีอากรกลางพิจารณางดเบี้ยปรับตามหนังสือแจ้งการประเมินจึงไม่ชอบ