พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายวัสดุก่อสร้างโดยมิได้ปฏิบัติตามระเบียบการจัดซื้อของหน่วยราชการ ทำให้สัญญาไม่ผูกพัน
++ เรื่อง ซื้อขาย ++
++ โจทก์ฎีกา
++ โปรดดูย่อจากหนังสือคำพิพากษาศาลฎีกา สำนักงานศาลยุติธรรม
++ เล่มที่ 1 หน้า 11 ++
++ ขอดูชุดพิเศษโปรดติดต่อห้องบริการเอกสารสำเนาคำพิพากษา (ห้องสมุด) ชั้น 4, 5 ++
++ โจทก์ฎีกา
++ โปรดดูย่อจากหนังสือคำพิพากษาศาลฎีกา สำนักงานศาลยุติธรรม
++ เล่มที่ 1 หน้า 11 ++
++ ขอดูชุดพิเศษโปรดติดต่อห้องบริการเอกสารสำเนาคำพิพากษา (ห้องสมุด) ชั้น 4, 5 ++
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2884/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่หน่วยราชการโดยวิธีปิดหมายตาม ป.วิ.พ. มาตรา 79 การนับระยะเวลาให้มีผลใช้ได้
คำสั่งของศาลภาษีอากรที่สั่งในคำฟ้องของโจทก์ในตอนต้นที่ว่า"รับคำฟ้อง หมายส่งสำเนาให้จำเลย ให้โจทก์นำส่งภายใน 7 วัน" เป็นกรณีที่ศาลภาษีอากรสั่งว่าในการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยให้ส่งโดยวิธีธรรมดาก่อน ส่วนคำสั่งศาลภาษีอากรที่สั่งต่อไปว่า "เนื่องจากจำเลยเป็นหน่วยราชการมีภูมิลำเนาแน่นอนการส่งหากไม่มีผู้รับให้ปิด" นั้น เป็นกรณีที่ศาลภาษีอากรได้สั่งไว้เป็นการล่วงหน้าว่า หากส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยโดยวิธีธรรมดาไม่สามารถที่จะทำได้ ก็ให้เจ้าพนักงานศาลส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยวิธีอื่นตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ.มาตรา 79 วรรคแรก โดยการปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้ ณ สถานที่ทำการของจำเลย เมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานศาลนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้แก่จำเลยแล้ว เจ้าหน้าที่งานสารบรรณของจำเลยไม่เต็มใจรับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้ เท่ากับว่าการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยวิธีธรรมดาไม่อาจทำได้ เจ้าพนักงานศาลจึงปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้ ณ สถานที่ทำการของจำเลย เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2540ดังนี้ จึงเป็นการส่งโดยวิธีอื่นตาม ป.วิ.พ.มาตรา 79 วรรคแรก มิได้เป็นการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องตามข้อความในคำสั่งศาล ตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ.มาตรา 76 เมื่อศาลภาษีอากรมิได้กำหนดระยะเวลาการปิดหมายไว้ว่าจะให้มีผลใช้ได้เมื่อใด ดังที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ.มาตรา 79 วรรคสอง การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยการปิดหมายในคดีนี้ จึงมีผลใช้ได้เมื่อกำหนดเวลาสิบห้าวันได้ล่วงพ้นไปแล้วนับตั้งแต่วันปิดหมาย คือมีผลเมื่อพ้นวันที่ 9 ธันวาคม 2540 จำเลยยื่นคำให้การเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2540 จึงเป็นการยื่นคำให้การภายในกำหนดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7989/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดซื้อโดยมิชอบ การทำละเมิดต่อโจทก์ และการฟ้องคดีไม่ขาดอายุความ
ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216 เรื่อง ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ลงวันที่ 29 กันยายน 2515 ข้อ 9 และพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2534 มาตรา 9ต่างก็บัญญัติว่า กระทรวงการคลังมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเงินแผ่นดิน และตามระเบียบของทางราชการ กระทรวงการคลังมีอำนาจทำความเห็นได้ว่าจำเลยทั้งสี่จะต้องรับผิดฐานละเมิดตามที่สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติโจทก์เสนอความเห็นไปหรือไม่ และโจทก์มีอำนาจฟ้องตามความเห็นของกระทรงการคลังได้ แม้เลขาธิการของโจทก์เคยมีความเห็นว่าไม่มีผู้รับผิดชอบทางแพ่งก็ตาม และปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ในกรณีเช่นนี้ เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จำเลยก็มีอำนาจยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง หนังสือพิพาทไม่มีความจำเป็นต้องจัดซื้อโดยเร่งด่วนเนื่องจากได้จัดซื้อตอนกลางปีการศึกษา และไม่ใช่หนังสือภาคบังคับ ไม่จำเป็นตามหลักสูตรเพราะครูสามารถสอนนักเรียนได้โดยใช้คู่มือ จึงถือได้ว่าไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดซื้อหนังสือ หากมีการล่าช้าในการจัดซื้อก็ไม่อาจก่อให้เกิดความเสียหายอีกทั้งร้านสหกรณ์กลาโหมจำกัด เป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ฯ แต่ไม่เป็นหน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจ จำเลยทั้งสี่จึงไม่มีสิทธิที่จะซื้อจากร้านสหกรณ์กลาโหม จำกัด แม้ผู้บังคับบัญชาของจำเลยทั้งสี่เคยมีหนังสือสั่งการไว้ว่าร้านสหกรณ์กลาโหมจำกัด เป็นหน่วยราชการให้สนับสนุนกิจการร้านสหกรณ์กลาโหมจำกัด ก็ตาม แต่ก็เป็นเพราะความผิดพลาดและเข้าใจผิดทั้งหนังสือสั่งการดังกล่าวเป็นการแนะนำเท่านั้น ไม่ได้บังคับให้ต้องปฏิบัติตาม การที่จำเลยทั้งสี่ร่วมกันจัดซื้อหนังสือพิพาทโดยวิธีกรณีพิเศษตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นพ.ศ. 2522 ข้อ 16 จึงไม่ชอบ เป็นการผิดระเบียบและก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ย่อมเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ การที่โจทก์ได้มีหนังสือสอบถามไปยังผู้อำนวยการการประถมศึกษาจังหวัดราชบุรีว่าได้ซื้อหนังสือแบบทดสอบประเมินผลฉบับบูรณาการชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หรือไม่โดยจังหวัดราชบุรีได้ตอบโจทก์เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2524ก็เพื่อต้องการทราบเกี่ยวกับการจัดซื้อหนังสือเท่านั้นยังไม่ทราบผู้ทำละเมิด ซึ่งจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอีกชั้นหนึ่ง จึงนับอายุความจากวันที่จังหวัดราชบุรีแจ้งการจัดซื้อหนังสือดังกล่าวไม่ได้ เมื่อโจทก์ได้รับหนังสือจากกระทรวงการคลัง ฉบับลงวันที่ 10 กันยายน 2533 ระบุชื่อผู้ทำละเมิดให้โจทก์ทราบ และโจทก์ฟ้องคดีนี้ในวันที่ 28เดือนเดียวกัน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5454/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน่วยราชการต้องรับผิดค่าสินค้า แม้มิได้ตั้งบัญชีเจ้าหนี้ หากซื้อสินค้าไปใช้ในกิจการ
การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้บัญชาการเรือนจำซื้อสินค้าจากโจทก์ไปใช้ในกิจการของเรือนจำแล้วมิได้จัดให้มีการตั้งบัญชีเจ้าหนี้ไว้ตามระเบียบปฏิบัติราชการของกรมราชทัณฑ์จำเลยที่ 2 ที่วางไว้เพื่อให้มีผลผูกพันจำเลยที่ 2 นั้น เป็นเพียงระเบียบปฏิบัติภายในของจำเลยที่ 2 ไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้เป็นบุคคลภายนอกและไม่ทราบถึงระเบียบดังกล่าวได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882-899/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน่วยราชการไม่ต้องรับผิดในสัญญาเช่าซื้อที่ดิน หากการจัดสรรไม่ได้ทำในนามหน่วยงาน แต่ทำโดยสวัสดิการที่ไม่ได้เป็นส่วนราชการ
สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล มีฐานะเท่ากรมในรัฐบาล เป็นหน่วยราชการ มีหน้าที่พัฒนาชนบทตามนโยบายรัฐบาลมิได้มีอำนาจหน้าที่ในการจัดสรรที่ดินให้ประชาชนทั่วไปเช่าซื้อ การจัดสรรที่ดินจึงมิใช่ราชการของจำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 1 ตั้งคณะกรรมการขึ้นดำเนินการจัดสรรที่ดิน โดยคณะกรรมการดังกล่าวดำเนินงานในนามของสวัสดิการสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท สวัสดิการสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทดังกล่าวกมิใช่ส่วนราชการของจำเลยที่ 1 การดำเนินงานของสวัสดิการสำนักเร่งรัดพัฒนาชนบทจึงมิใช่ราชการของจำเลยที่ 1 การประกาศจัดสรรที่ดินก็ดี สัญญาเช่าซื้อที่ดินก็ดี ใบเสร็จรับเงินก็ดี ีล้วนแต่ทำในนามของสวัสดิการของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทมิได้กระทำในนามของจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 1 ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นจัดสรรที่ดิน ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแก่ประชาชนว่าเป็นผู้จัดสรรที่ดิน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรก็ตาม ก็ไม่มีผลให้การจัดสรรที่ดินกลายเป็นราชการของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882-899/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน่วยราชการไม่ต้องรับผิดในสัญญาเช่าซื้อที่จัดสรรโดยคณะกรรมการในนามสวัสดิการ แม้ใช้ชื่อหน่วยงาน
สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจำเลยที่1เป็นนิติบุคคลมีฐานะเท่ากรมในรัฐบาลเป็นหน่วยราชการมีหน้าที่พัฒนาชนบทตามนโยบายรัฐบาลมิได้มีอำนาจหน้าที่ในการจัดสรรที่ดินให้ประชาชนทั่วไปเช่าซื้อการจัดสรรที่ดินจึงมิใช่ราชการของจำเลยที่1การที่จำเลยที่1ตั้งคณะกรรมการขึ้นดำเนินการจัดสรรที่ดินโดยคณะกรรมการดังกล่าวดำเนินงานในนามของสวัสดิการสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทสวัสดิการสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทดังกล่าวก็มิใช่ส่วนราชการของจำเลยที่1การดำเนินงานของสวัสดิการสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจึงมิใช่ราชการของจำเลยที่1การประกาศจัดสรรที่ดินก็ดีสัญญาเช่าซื้อที่ดินก็ดีใบเสร็จรับเงินก็ดีล้วนแต่ทำในนามของสวัสดิการของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทมิได้กระทำในนามของจำเลยที่1แม้จำเลยที่1ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นจัดสรรที่ดินก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแก่ประชาชนว่าเป็นผู้จัดสรรที่ดินซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรก็ตามก็ไม่มีผลให้การจัดสรรที่ดินกลายเป็นราชการของจำเลยที่1จำเลยที่1จึงไม่ต้องรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะสำนักงานสลากกินแบ่ง: ไม่เป็นหน่วยราชการ และสลากกินแบ่งไม่ใช่หนังสือสำคัญในราชการ
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่เป็นหน่วยราชการ
สลากกินแบ่งเป็นหนังสือสำคัญ แต่ไม่ใช่หนังสือสำคัญในราชการ
สลากกินแบ่งเป็นหนังสือสำคัญ แต่ไม่ใช่หนังสือสำคัญในราชการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะสำนักงานสลากกินแบ่งฯ ไม่เป็นหน่วยราชการ ส่งผลต่อการพิจารณาความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่เป็นหน่วยราชการ
สลากกินแบ่งเป็นหนังสือสำคัญ แต่ไม่ใช่หนังสือสำคัญในราชการ
สลากกินแบ่งเป็นหนังสือสำคัญ แต่ไม่ใช่หนังสือสำคัญในราชการ