พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมหมดประโยชน์เมื่อมีการปลูกสร้างเต็มพื้นที่ ทำให้เจ้าของภารยทรัพย์มีสิทธิเรียกให้พ้นจากภารจำยอมได้
ที่ดินโฉนดเลขที่ 2480 เป็นทางภารจำยอมของที่ดินแปลงอื่น ต่อมามีการแบ่งแยกปรากฏว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 2480ที่เหลืออยู่หลังจากการแบ่งแยกที่ดินในส่วนที่ออกเป็นโฉนด เลขที่ 19056,19057 และ 19058 แล้ว มีลักษณะเป็น ถนนซอยกว้างประมาณ 6 เมตร ออกสู่ถนนเพชรเกษม ลักษณะของทางภารจำยอมเป็นซอยตัน ริมทางภารจำยอม มีตึกแถวและสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีสภาพปลูกสร้างมานานหลายปี ปลูกเต็มพื้นที่ของที่ดินโฉนดเลขที่ 19056,19057 และ 19058 แสดงว่าที่ดินที่ถูกใช้เป็นทางภารจำยอมคือที่ดินโฉนดเลขที่ 2480ส่วนที่เหลืออยู่หลังจากการแบ่งแยกที่ดินออกไปแล้วส่วนที่ดินโฉนดเลขที่ 19056,19057 และ 19058 ไม่ได้ถูกใช้เป็นทางภารจำยอมมาเป็นเวลานานเพราะมีสิ่งปลูกสร้างเป็นตึกแถวเต็มพื้นที่ จึงเป็นกรณีที่ภารจำยอมนั้นไม่ใช้หรือใช้ไม่ได้ตามรูปการ หมดประโยชน์แก่สามยทรัพย์แล้วโจทก์จึงมีสิทธิเรียกให้พ้นจากภารจำยอมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364-365/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเลิกการล้มละลายทำให้ฎีกาหมดประโยชน์ ศาลฎีกาไม่พิจารณาอีกต่อไป
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิกการล้มละลายย่อมมีผลให้จำเลยหลุดพ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลายและเท่ากับว่าศาลได้มีคำสั่งยกเลิกการพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยไปด้วยในตัวจึงไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาฎีกาของจำเลยเกี่ยวกับคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีและคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดอีกต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7238/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมหมดประโยชน์ พิจารณาประโยชน์ต่อสามยทรัพย์ ไม่ใช่ตัวบุคคลผู้ใช้
การที่จะพิจารณาว่าภารจำยอมหมดประโยชน์แก่สามยทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1400 หรือไม่ ต้องพิจารณาถึงสามยทรัพย์เป็นสำคัญมิใช่พิจารณาถึงตัวบุคคลที่อยู่ในสามยทรัพย์ แม้ตัวบุคคลที่อยู่ในสามยทรัพย์จะมิได้ใช้ภารยทรัพย์ แต่ถ้าภารยทรัพย์ยังมีประโยชน์ต่อสามยทรัพย์อยู่ ก็จะถือว่าภารจำยอมหมดประโยชน์แก่สามยทรัพย์มิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7238/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมหมดประโยชน์หรือไม่ พิจารณาประโยชน์ต่อสามยทรัพย์เป็นหลัก ไม่ใช่การใช้งานจริงของผู้ใช้
การที่จะพิจารณาว่าภารจำยอมหมดประโยชน์แก่สามยทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1400 หรือไม่ ต้องพิจารณาถึงสามยทรัพย์เป็นสำคัญ มิใช่พิจารณาถึงตัวบุคคลที่อยู่ในสามยทรัพย์แม้ว่าตัวบุคคลที่อยู่ในสามยทรัพย์จะมิได้ใช้ภารยทรัพย์ แต่ถ้าภารยทรัพย์ยังมีประโยชน์ต่อสามยทรัพย์อยู่ ก็จะถือว่าภารจำยอมหมดประโยชน์แก่สามยทรัพย์มิได้ สามยทรัพย์เป็นที่ดิน 3 แปลงอยู่ติดกัน แต่เป็นของเจ้าของคนเดียวกัน ฉะนั้นเจ้าของสามยทรัพย์จึงเลือกที่จะทำประตูออกไปสู่ภารยทรัพย์ซึ่งอยู่ติดกับสามยทรัพย์แปลงใดก็ได้ และถ้าเจ้าของสามยทรัพย์ขายสามยทรัพย์แปลงสุดท้ายซึ่งมิได้ทำประตูเข้าออกให้ผู้อื่นไป ผู้ซื้อก็ยังเป็นเจ้าของสามยทรัพย์แปลงนั้นอยู่และมีสิทธิใช้ภารยทรัพย์ที่ติดกับสามยทรัพย์นั้นได้ ดังนี้ภารจำยอมส่วนนี้จึงไม่ได้หมดประโยชน์แก่สามยทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6266/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดภารจำยอมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์: การไม่ใช้สิทธิเกิน 10 ปี และภารจำยอมหมดประโยชน์
การจะรับฟังว่าภารจำยอมสิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1399 นั้น โจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความว่า ทางภารจำยอมมิได้ใช้สิบปีขึ้นไป ส่วนภารจำยอมสิ้นไปตามมาตรา 1400 โจทก์ก็จะต้องนำสืบให้ได้ความว่าภารจำยอมหมดประโยชน์หรือเสื่อมประโยชน์แก่สามยกทรัพย์ เจ้าของสามยทรัพย์ใช้ที่ดินแปลงอื่นซึ่งซื้อจากบุคคลภายนอกไปสู่โรงงานของเจ้าของสามยทรัพย์นั้น เป็นทางซึ่งเจ้าของสามยทรัพย์ใช้เป็นประโยชน์สำหรับที่ดินแปลงอื่นเพื่อใช้ออกสู่โรงงาน ไม่ใช่สำหรับที่ดินแปลงสามยทรัพย์เพื่อใช้ออกทางสาธารณะ จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าทางภารจำยอมหมดประโยชน์หรือเสื่อมประโยชน์แก่สามยทรัพย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1612/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาที่หมดประโยชน์หลังคดีถึงที่สุด ศาลฎีกายกคำร้อง
ฎีกาผู้ร้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นพิพากษาคดี คดีถึงที่สุด และโจทก์ ได้ขอหมายบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยแล้วคดีอยู่ในระหว่างการบังคับคดี ฎีกาผู้ร้องจึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดี ศาลฎีกาไม่จำต้องวินิจฉัย