คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หลงต่อสู้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6952/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดของพนักงานรัฐที่ร่วมกันทุจริตในการรับจำนำทรัพย์สิน โดยจำเลยฎีกาว่าหลงต่อสู้คดีหรือไม่
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองซึ่งมีหน้าที่จัดการและดูแลทรัพย์สินของสถานธนานุเคราะห์ได้ร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธข้อเท็จจริงในทางพิจารณาปรากฏว่า จำเลยที่ 1 ทำหน้าที่จัดการดูแลทรัพย์สินที่รับจำนำไว้ และมีหน้าที่นำทรัพย์สินมาให้ผู้จำนำไถ่คืน ส่วนจำเลยที่ 2 ทำหน้าที่ผู้จัดการมีหน้าที่รับจำนำและมีหน้าที่ให้การไถ่ถอนทรัพย์สินแก่ประชาชนที่นำทรัพย์สินไปจำนำ ผู้จำนำจะต้องนำทรัพย์สินที่จะจำนำมายื่นให้จำเลยที่ 2ตรวจดูสภาพทรัพย์สินและตีราคา แล้วจำเลยที่ 2 จะเขียนข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินรวมทั้งรายละเอียดต่าง ๆ แล้วส่งให้พนักงานข้อมูลพิมพ์ตั๋วจำนำอันเป็นการยืนยันว่าการตรวจสภาพและตีราคาทรัพย์จำนำ เป็นหน้าที่โดยตรงของจำเลยที่ 2 ทั้งหลังจากทราบเหตุคดีนี้แล้ว คณะกรรมการสอบสวนได้ทำรายงานสรุปว่าจำเลยที่ 2กระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงกรณีทุจริตต่อหน้าที่ โดยร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 ซึ่งจำเลยที่ 2 นำสืบปฏิเสธว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดคนเดียวโดยจำเลยที่ 2 อ้างข้อเท็จจริงต่าง ๆ เป็นข้อต่อสู้คดีได้โดยถูกต้อง ดังนั้นข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาจึงไม่แตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องในข้อสาระสำคัญ และจำเลยที่ 2 จึงมิได้หลงต่อสู้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9664/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันเวลาการกระทำผิดเป็นรายละเอียดในฟ้อง ไม่ใช่สาระสำคัญ หากจำเลยไม่หลงต่อสู้ ศาลลงโทษตามข้อเท็จจริงได้
วันเวลากระทำผิดเป็นเพียงรายละเอียดที่จะต้องกล่าวไว้ในฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) ข้อแตกต่างในเรื่องวันกระทำผิดจึงไม่ใช่ข้อสาระสำคัญ หากจำเลยมิได้หลงต่อสู้ ศาลจะลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นก็ได้ ตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสอง คดีนี้จำเลยให้การและเบิกความว่าไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง และนำสืบข้อเท็จจริงตรงตามที่โจทก์นำสืบมา ถือไม่ได้ว่าจำเลยหลงต่อสู้ ศาลจึงพิพากษาลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3147/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงวันเวลาเกิดเหตุในฟ้อง และการนำสืบแก้ข้อกล่าวหาที่ไม่ถือว่าหลงต่อสู้
โจทก์ฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่4สิงหาคมแต่นำสืบว่าเหตุเกิดวันที่4มิถุนายนเป็นข้อแตกต่างเพียง รายละเอียดเกี่ยวกับเวลากระทำความผิดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา192วรรคสามมิให้ถือว่าต่างกันใน ข้อสาระสำคัญ ในชั้นแรกจำเลยให้การปฏิเสธลอยต่อมาได้ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การว่าตามวันเวลาในฟ้องจำเลยไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุแต่จำเลยเบิกความว่าในวันเกิดเหตุตามที่โจทก์นำสืบผู้เสียหายและน้องชายจำเลยมาขอให้จำเลยไกล่เกลี่ยเรื่องที่บุคคลทั้งสองมีเรื่องชกต่อยกันขณะบุคคลทั้งสองอยู่ที่บ้านจำเลยก็เกิดทะเลาะต่อสู้ทำร้ายกันจนผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บจำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องในการกระทำผิดด้วยถือได้ว่าจำเลยนำสืบแก้ข้อกล่าวหาโดยมิได้ หลงต่อสู้ศาลจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2215/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำฟ้องภายหลังจำเลยให้การปฏิเสธลอย และผลต่อการหลงต่อสู้
ในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดสุดท้าย โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับเดือนที่จำเลยกระทำผิดจากเดือนกรกฎาคม 2530 เป็นเดือนพฤษภาคม 2530 ซึ่งเป็นเดือนที่เกิดเหตุจริงตามที่พยานโจทก์เบิกความ เมื่อปรากฏว่าในตอนที่จำเลยให้การจำเลยเพียงแต่ให้การปฏิเสธลอย แม้จำเลยจะนำสืบว่าเดือนกรกฎาคม 2530 จำเลยถูกขังอยู่ในเรือนจำก็เป็นการถูกขังระหว่างสอบสวนในคดีนี้ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีที่จำเลยหลงต่อสู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2215/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำฟ้องและการหลงต่อสู้: ศาลอนุญาตแก้ไขได้หากไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้
ในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดสุดท้าย โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับเดือนที่จำเลยกระทำผิดจากเดือนกรกฎาคม 2530เป็นเดือนพฤษภาคม 2530 ซึ่งเป็นเดือนที่เกิดเหตุจริงตามที่พยานโจทก์เบิกความ เมื่อปรากฏว่าจำเลยให้การปฏิเสธลอย แม้จำเลยจะนำสืบว่าเดือนกรกฎาคม 2530 จำเลยถูกขังอยู่ในเรือนจำก็เป็นการถูกขังระหว่างสอบสวนในคดีนี้ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีที่จำเลยหลงต่อสู้ ชอบที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2215/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำฟ้องภายหลังจำเลยให้การปฏิเสธลอย และการยกเว้นการหลงต่อสู้
ในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดสุดท้าย โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับเดือน ที่จำเลยกระทำผิดจากเดือน กรกฎาคม 2530เป็นเดือน พฤษภาคม 2530 ซึ่ง เป็นเดือน ที่เกิดเหตุจริงตาม ที่พยานโจทก์เบิกความ เมื่อปรากฏว่าในตอน ที่จำเลยให้การจำเลยเพียงแต่ ให้การปฏิเสธลอย แม้จำเลยจะนำสืบว่าเดือน กรกฎาคม2530 จำเลยถูก ขังอยู่ในเรือนจำ ก็เป็นการถูก ขังระหว่างสอบสวนในคดีนี้ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีที่จำเลยหลงต่อสู้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องคดีรับของโจร: วันเวลาและสถานที่กระทำผิดที่ไม่ชัดเจนไม่ทำให้ฟ้องเคลือบคลุม หากจำเลยไม่หลงต่อสู้
โจทก์บรรยายฟ้องวันเวลาเกิดเหตุความผิดฐานรับของโจรไว้ว่าเมื่อระหว่างวันเวลาดังกล่าวในข้อ 1 จนถึงวันเวลาดังกล่าวในข้อ 2วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยกับพวกได้บังอาจรับของโจรซึ่งเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับวันเวลาที่เกิดการกระทำความผิดฐานรับของโจรพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม โจทก์บรรยายฟ้องว่าเหตุรับของโจรเกิดในท้องที่สองแห่งเกี่ยวพันกันและจำเลยกับพวกร่วมกันรับของโจรทรัพย์ทั้งหมดที่ถูกลักไป แต่ทางพิจารณาได้ความว่าพบรถยนต์ของกลางอันเป็นทรัพย์ส่วนหนึ่งที่ถูกลักไปในอีกท้องที่หนึ่งซึ่งต่างไปจากที่โจทก์ฟ้องข้อแตกต่างดังกล่าวเป็นเพียงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่กระทำความผิดและทรัพย์ที่จำเลยรับไว้มิได้เป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้ถือได้ว่ามิใช่ข้อแตกต่างกันในสาระสำคัญอันจะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาลงโทษจำเลยแม้ฟ้องผิดฐานเจตนา แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าประมาท และมิใช่เหตุให้จำเลยหลงต่อสู้
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดโดยเจตนา แต่ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดโดยประมาทเมื่อปรากฏว่าการที่โจทก์ฟ้องผิดไปไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยได้ตามที่พิจารณาได้ความเพราะข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ข้อสารสำคัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาลงโทษจำเลยแม้ฟ้องผิดฐานเจตนา แต่ความจริงคือประมาท และไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดโดยเจตนา แต่ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดโดยประมาท เมื่อปรากฏว่าการที่โจทก์ฟ้องผิดไปไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้ ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยได้ตามที่พิจารณาได้ความเพราะข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ข้อสารสำคัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1772-1773/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันเวลาทำผิดคลาดเคลื่อน แม้ไม่สำคัญ แต่จำเลยอ้างต่างจากฟ้อง ถือหลงต่อสู้คดี ศาลลงโทษไม่ได้
วันกระทำผิดที่ปรากฏในทางพิจารณาตามข้อนำสืบของโจทก์แตกต่างกับวันกระทำผิดที่โจทก์กล่าวไว้ในฟ้องไป 1 เดือน แม้ข้อแตกต่างนี้ไม่ใช่ข้อสารสำคัญ แต่เมื่อจำเลยเบิกความอ้างฐานที่อยู่ว่าตามวันที่โจทก์กล่าวหาในฟ้อง จำเลยอยู่บ้านมิได้ไปกระทำผิด ก็ถือได้ว่าจำเลยได้หลงต่อสู้คดีแล้ว จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
of 3