พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4074/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้ยืมและจำนองไม่เป็นนิติกรรมอำพราง เมื่อมีหลักฐานการรับเงินจริงและสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ซื้อขายหลักทรัพย์
จำเลยทั้งสองกู้ยืมเงินและจำนองประกันการกู้ยืมไว้กับโจทก์แล้วจำเลยที่ 2 ฝากเงินไว้กับโจทก์เพื่อวัตถุประสงค์ ในการที่จะให้โจทก์ดำเนินการเป็นนายหน้าและตัวแทนในการ ซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่จำเลยที่ 2 โดยใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน เป็นหลักประกันการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าว มิใช่เป็นเรื่อง นิติกรรมอำพรางหรือนิติกรรมทำขึ้นด้วยการแสดงเจตนาลวงสัญญากู้ยืมเงินและสัญญาจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันจึงมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย จำเลยทั้งสองต้องรับผิดตามสัญญากู้ยืมเงินและสัญญาจำนองดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1810/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีการค้า: การประเมินจากชื่อในโฉนดและหลักฐานการรับเงิน
โจทก์ที่ 2 ร่วมกับ ป. จัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด พ. มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการซื้อ ขายและแบ่งแยกขายที่ดิน แต่ห้างหุ้นส่วนมิได้ดำเนินการทำเองทั้งหมดได้ ทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ที่ 2 เป็นผู้มีชื่อ ในโฉนด ที่ดินและขายให้ลูกค้าเมื่อโจทก์ที่ 2 มีชื่อ ในโฉนด ถือ กรรมสิทธิ์อยู่ย่อมก่อให้เกิดเงินได้พึงประเมิน ทั้งตาม หลักฐานการซื้อ ขายมีชื่อ โจทก์ที่ 2 เป็นผู้รับเงินย่อมต้อง ถือ ว่าโจทก์ที่ 2 เป็นผู้รับเงินได้พึงประเมินนั้นไว้ ดังนี้มาตรา 61 แห่ง ป.รัษฎากร เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจเรียกเก็บภาษีทั้งหมดจากผู้มีชื่อ ในหนังสือสำคัญนั้นก็ได้แต่ ถ้า มีการโอนเงินได้พึงประเมินให้แก่บุคคลอื่นบุคคลนั้นมีสิทธิหักเงินภาษีจากจำนวนเงินซึ่ง โอนให้แก่บุคคลอื่นตาม ส่วน การประกอบธุรกิจซื้อ ขายและแบ่งแยกขายที่ดิน เป็นการหาผลประโยชน์อันมีมูลค่าจากที่ดินที่จัดสรรและปลูกบ้านขายเป็นจำนวนมาก ดังนี้เป็นการประกอบการค้าอันต้อง เสียภาษีการค้า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คเป็นหลักฐานการรับเงิน ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้ออกเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อเป็นหลักฐานแห่งการรับเงิน. ฉะนั้นย่อมแสดงว่าคู่กรณี.ไม่มีเจตนา.ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น. จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3. ถึงแม้จะมีการแก้เช็คกัน (แก้วันที่) ก็ยังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เงินตามเช็คนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ตามสัญญากู้ จำเป็นต้องมีหลักฐานการรับเงินที่ชัดเจนจากผู้ให้กู้ หรือการเวนคืน/แทงเพิกถอนสัญญา
โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่จำเลยกู้โจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าได้ชำระเงินกู้ให้โจทก์แล้วและฟ้องแย้งเรียกเงินที่ชำระเกินคืนจากโจทก์ด้วย เช่นนี้เมื่อหนังสือสัญญากู้ยังอยู่ที่โจทก์โดยยังมิได้แทงเพิกถอนในเอกสารว่าได้มีการชำระหนี้หรือมีเอกสารที่มีลายมือชื่อโจทก์ผู้ให้กู้มาแสดงย่อมจะฟังว่าจำเลยได้ชำระเงินกู้แก่โจทก์แล้วหาได้ไม่
(อ้างฎีกาที่ 513/2501)
(อ้างฎีกาที่ 513/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์การชำระหนี้จากการยึดถือสัญญากู้และการขาดหลักฐานการรับเงิน
เมื่อปรากฎว่าสัญญากู้เงินที่จำเลยทำให้โจทก์ยึดถือเป็นหลักฐานยังคงอยู่ที่โจทก์โดยมิได้เพิกถอนในเอกสารนั้นว่าได้ชำระหนี้แล้ว ทั้งรับว่าไม่มีเอกสารใดอีกที่มีลายมือชื่อโจทก์พอที่จะให้เป็นหลักฐานแสดงการรับเงินของโจทก์ก็ย่อมแสดงว่าจำเลยยังคงเป็นหนี้โจทก์อยู่
เช็คเป็นตราสารซึ่งผู้สั่งจ่ายสั่งธนาคารให้ใช้เงินให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเมื่อทวงถาม จึงเรียกไม่ได้ว่าเป็นสิ่งของหรือทรัพย์สินอย่างอื่น
เช็คเป็นตราสารซึ่งผู้สั่งจ่ายสั่งธนาคารให้ใช้เงินให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเมื่อทวงถาม จึงเรียกไม่ได้ว่าเป็นสิ่งของหรือทรัพย์สินอย่างอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5554/2561
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยที่ 3-5 ร่วมรับผิดชำระหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน โดยโจทก์มีหลักฐานการรับเงิน และศาลแก้ไขจำนวนหนี้ให้ถูกต้อง
การส่งเอกสารภาษาต่างประเทศต่อศาล ไม่จำต้องทำคำแปลเป็นภาษาไทยเสมอไป นอกจากศาลสั่งให้ทำคำแปล ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 46 วรรคสาม เมื่อเอกสารดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งแห่งพยานหลักฐานที่รับฟังประกอบกับพยานอื่นที่โจทก์นำสืบ และตามเอกสารมีคำแปลที่เพียงพอแก่การพิจารณาข้อเท็จจริงแล้ว ศาลย่อมรับฟังเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานของโจทก์ได้