พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกหมายเรียกตรวจสอบภาษีซ้ำ ต้องมีเหตุผลทางกฎหมายหรือหลักฐานใหม่ที่มิได้ตรวจสอบไปก่อน
ประมวลรัษฎากรมาตรา19และมาตรา20บัญญัติให้อำนาจเจ้าพนักงานประเมินที่จะดำเนินการแก้ไขการประเมินที่ผิดพลาดให้ถูกต้องได้แต่ก็จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดให้ไว้ด้วยโดยจะต้องปรากฏว่าการตรวจสอบครั้งแรกผิดพลาดบกพร่องหรือไม่ถูกต้องการออกหมายเรียกตรวจสอบใหม่จึงจะเป็นการออกหมายเรียกที่ชอบด้วยกฎหมายอีกทั้งระเบียบกรมสรรพากรว่าด้วยการตรวจสอบภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรพ.ศ.2525ได้กำหนดว่าการออกหมายเรียกผู้เสียภาษีมาตรวจสอบไต่สวนในปีภาษีใดจะต้องไม่เรียกตรวจสอบซ้ำกับปีที่เคยออกหมายเรียกไปแล้วเว้นแต่กรณีมีหลักฐานหรือข้อมูลซึ่งไม่ซ้ำกับที่เคยตรวจสอบไปก่อนแล้วหรือกรณีมีเหตุอันสมควรอื่นดังนี้เมื่อไม่ปรากฏหลักฐานว่าการตรวจสอบครั้งแรกผิดพลาดบกพร่องหรือไม่ถูกต้องเจ้าพนักงานประเมินจึงหามีอำนาจออกหมายเรียกโจทก์มาตรวจสอบภาษีใหม่เป็นครั้งที่2ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4357/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีใหม่เมื่อจำเลยขาดนัด – เหตุผลสมควร & การอ้างหลักฐานใหม่
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยอ้างว่า ถ้าจำเลยนำพยานมาสืบจะทำให้จำเลยชนะคดี เนื่องจากโจทก์ย้ายไปอยู่ที่อื่นโจทก์ไม่ฟ้องคดีภายในอายุความ โจทก์ไม่เคยเข้าครอบครองที่พิพาทโจทก์ได้ขายที่พิพาทให้จำเลยแล้ว โจทก์ได้เช่าที่นาของจำเลยทำกินซึ่งมีความหมายอยู่ในตัวว่าถ้ามีการพิจารณาใหม่จำเลยจะชนะคดีเป็นคำขอที่ได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลแล้ว เหตุที่จำเลยอ้างว่าจำเลยขาดนัดเพราะติดต่อหาทนายความไม่ได้และเมื่อหาทนายความได้แล้วทนายความก็ติดว่าความคดีอื่นในวันนัดถึง 3 คดี จึงยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีไม่ทันนั้น แม้จะไต่สวนได้ความจริงเช่นนั้น ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องยกข้อเท็จจริง/กฎหมายที่เคยว่ากันในศาลล่างเท่านั้น การค้นพบหลักฐานใหม่ในชั้นฎีกา หรือการไม่โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นทำให้ฎีกาไม่ได้
ข้อที่อ้างขึ้นใหม่ในศาลฎีกาว่าพบเอกสารอันเป็นข้ออ้างใหม่ตามภาพถ่ายท้ายฎีกา ไม่เป็นข้อที่ศาลฎีกาจะรับพิจารณา และการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยาน จำเลยก็ไม่ได้โต้แย้งไว้ จึงฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การหลังชี้สองสถาน หากเป็นข้อที่มิอาจทราบได้ก่อน
เมื่อจำเลยทั้งสองยื่นคำให้การ ปรากฏตามคำให้การข้อ 2 ว่าไม่รับรองข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์ โดยอ้างว่าบริษัทจำเลยที่ 1ได้จ่ายเงินให้นายย่งกิตต์ตัวแทนโดยปริยายของบริษัทโจทก์ไปหลายครั้ง แต่ไม่ทราบจำนวนเงินที่จะบรรยายให้การละเอียดมาในขณะนี้ได้ทันจะต้องใช้เวลาตรวจสอบทางธนาคารและหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งแสดงว่าจำเลยยังมีข้อต่อสู้อย่างอื่นอีกโดยจำเลยยังไม่อาจยื่นได้ก่อนวันชี้สองสถาน ครั้นเมื่อศาลชี้สองสถานแล้วจำเลยจึงยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การว่าจากการตรวจสอบปรากฏว่าบริษัทจำเลยที่ 1 ได้ชำระเงินให้บริษัทโจทก์ใน พ.ศ. 2503 โดยเช็ค 4 ฉบับเป็นเงิน 1,750,000บาท รายละเอียดตามคำร้อง และนายย่งกิตต์ได้รับเงินตามเช็คฉบับดังกล่าวไปจากธนาคารแล้ว จำนวนหนี้ตามฟ้องจึงเกินอยู่ 1,750,000 บาท ความตามที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นเรื่องที่จำเลยเพิ่งทราบภายหลังจากการชี้สองสถานแล้ว ฉะนั้นจำเลยจึงมีสิทธิขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การหลังจากชี้สองสถานแล้วได้เพราะเป็นข้อที่จำเลยไม่อาจยื่นคำร้องนั้นได้ก่อนวันชี้สองสถาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จ – การพิจารณาหลักฐานใหม่ชั้นฎีกา – ข้อสำคัญแห่งคดี
ฟ้องว่าเบิกความเท็จแต่เท่าที่ปรากฎในฟ้องและในคำให้การ จำเลยเบิกความเท็จในข้อสำคัญอย่างใดไม่ได้ความ ดังนี้แม้จำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
เมื่อไม่ได้อ้างคำนวนเป็นพะยาน จะขอให้ศาลเรียกมาประกอบการพิจารณาชั้นฎีกานั้นเป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
เมื่อไม่ได้อ้างคำนวนเป็นพะยาน จะขอให้ศาลเรียกมาประกอบการพิจารณาชั้นฎีกานั้นเป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาหลักฐานใหม่หลังมีคำพิพากษา ศาลมีอำนาจจำกัดเพื่อป้องกันการพิจารณาไม่มีที่สิ้นสุด
โจทก์ฟ้องเรียกคืนเรือยนต์หรือให้ใช้ราคาเรือยนต์ที่ไปจ้างจำเลยซ่อม แล้วเครื่องยนต์หายไป ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาเรือ ระหว่างอุทธรณ์จำเลยอ้างว่า ตำรวจจับคนร้ายและเครื่องยนต์ได้ โจทก์ได้ปราณีประนอมกับคนร้าย รับเครื่องยนต์คืนไปแล้ว ขอให้ศาลอุทธรณ์เรียกหลักฐานมาพิจารณา ดังนี้ ถือว่าเป็นเรื่องศาลพิพากษาแล้ว ศาลไม่อนุญาต หากเป็นจริงก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะว่ากล่าวต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกดอกผลจากทรัพย์จำนอง: ศาลมีอำนาจพิจารณาหลักฐานใหม่ได้ และสิทธิจำนองครอบคลุมดอกผลที่แท้จริงเท่านั้น
จำนองโอนทรัพย์ที่จำนองบุคคลภายนอกไป เมื่อผู้รับ+บอกกล่าวความประสงค์บังคับจำนองแก่ผู้รับโอนแล้วสิทธิจำนองย่อมครอบถึงดอก+แห่งทรัพย์ที่จำนอง แต่นั้นผู้รับจำนองมีสิทธิจะเรียกผู้รับโอนทรัพย์สินจำนองส่งมอบดอกผลที่เกิดขึ้นแท้จริงให้แก่ตน แต่จะเรียกค่าสินไหมทดแทนอื่นใดอีกมิได้
โจทก์ส่งพะยานเอกสารเพิ่มเติมติดท้ายอุทธรณ์ขึ้นมาด้วยศาลอุทธรณ์จะรับฟังพะยานหลักฐานเช่นนี้หรือไม่ย่อมอยู่+ดุลยพินิจของศาลล่าง
สนธิสัญญาทางไมตรีระหว่างสยามกับอังกฤษ หมายเหตุ โจทก์ฎีกา วันที่ 8 มีนาคม 2480
โจทก์ส่งพะยานเอกสารเพิ่มเติมติดท้ายอุทธรณ์ขึ้นมาด้วยศาลอุทธรณ์จะรับฟังพะยานหลักฐานเช่นนี้หรือไม่ย่อมอยู่+ดุลยพินิจของศาลล่าง
สนธิสัญญาทางไมตรีระหว่างสยามกับอังกฤษ หมายเหตุ โจทก์ฎีกา วันที่ 8 มีนาคม 2480
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีภายหลังมีคำสั่งไม่ฟ้อง ต้องมีหลักฐานใหม่สำคัญ และขอบเขตอำนาจศาลฎีกา
เมื่อพนักงานอยัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีแล้วพนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบสวนเกี่ยกับเรื่องเดียวกันนั้นอีกได้ต่อเมื่อมีพะยานหลักฐานไหม่อันสำคัญแก่คดีซึ่งน่าจะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาได้ในกรณีที่มีการสอบสวนใหม่ภายหลังที่มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีแล้ว เมื่อโจทก์นำคดีขึ้นสู่ชั้นศาลเป็นหน้าที่ของโจทก์จะก้องสืบแสดงว่าโจทก์มีหลักฐานใหม่อันสำคัญแก่คดีจริงมิฉะนั้นลงโทษจำเลยมิได้อุทธรณ์ฏีกา ในคดีที่จำเลยผู้เดียวฎีกาคัดค้านคำพิพากษศาลอุทธรณ์ที่ให้ลงโทษจำเลย หลายคนในความผิดฐานเดียวกัน ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาให้ยกฟ้องฝดจทก์ตลอดไปถึงจำเลยอื่นที่มิได้ฎีกาได้ถ้าเป็นเหตุอยู่ในลักาณคดี