พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สิน: เพิกถอนได้หากเจ้าหนี้พิสูจน์ได้ว่าการโอนนั้นทำเพื่อลดทรัพย์สินที่นำมาชำระหนี้
จำเลยที่1เพิ่งจดทะเบียนยกที่ดินพิพาทให้จำเลยที่2ผู้เป็นบุตรทั้งๆที่เข้าอยู่ในที่ดินก่อนหน้านั้นนานแล้วและก่อนวันจดทะเบียน2วันจำเลยที่1คงเป็นหนี้โจทก์อยู่ถึงเก้าแสนบาทเมื่อจดทะเบียนโอนให้แล้วจำเลยที่1ก็หลบหนีไปพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าเป็นการกระทำไปทั้งที่รู้ว่าเป็นทางให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบเมื่อเป็นการยกให้โดยเสน่หาลำพังจำเลยที่1ลูกหนี้รู้ฝ่ายเดียวก็ขอให้เพิกถอนได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้โอนทรัพย์สินโดยเสน่หาเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สิน เจ้าหนี้มีสิทธิเพิกถอนได้
ที่พิพาทเป็นของจำเลย. จำเลยยอมให้ผู้ร้องไปขอออกโฉนดที่พิพาทเป็นของผู้ร้อง ถือได้ว่าจำเลยได้ยกที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องโดยเสน่หาโดยที่จำเลยรู้อยู่ว่าจะทำให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบเพราะจำเลยไม่มีทรัพย์สินอย่างอื่นจะชำระหนี้อีกแม้ผู้ร้องจะไม่รู้ถึงความจริงว่า จำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ก็ไม่สำคัญเพียงแต่จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้รู้ฝ่ายเดียวก็พอแล้วโจทก์ชอบที่จะขอให้เพิกถอนการให้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเช็คของผู้เสียหายไปโดยเจตนาทุจริตเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สิน ถือเป็นความผิดฐานเอาไปเสีย
ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ทรงเช็ค ได้ส่งเช็คซึ่งกำหนดแล้วให้แก่จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายเพื่อให้จำเลยออกเช็คให้ใหม่แทนเช็คฉบับนั้นเพราะธนาคารปฏิเทธการจ่ายว่ามีเงินไม่พอจ่าย จำเลยได้รับเช็คแล้วได้เอาเช้คนั้นหลบหนีไป และไม่ได้ออกเช็คให้ใหม่ ดังนี้ เป็นการเอาไปเสียซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเอาเช็คของผู้อื่นไปโดยเจตนาทุจริตเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สิน ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คได้ส่งเช็คซึ่งถึงกำหนดแล้วให้แก่จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายเพื่อให้จำเลยออกเช็คให้ใหม่แทนเช็คฉบับนั้นเพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายว่าเงินไม่พอจ่ายจำเลยได้รับเช็คแล้วได้เอาเช็คนั้นหลบหนีไปและไม่ได้ออกเช็คให้ใหม่ ดังนี้ เป็นการเอาไปเสียซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนทรัพย์เพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สิน แม้ผู้รับโอนไม่รู้ตัว
การที่จำเลยโอนทรัพย์ให้ผู้ร้องโดยเสน่หาเพื่อหลีกเลี่ยงการชำระหนี้ ทำให้โจทก์เสียเปรียบนั้น แม้จะฟังว่าผู้ร้องไม่รู้ถึงข้อความจริงที่ทำให้เจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบก็ดี โจทก์ก็ขอให้เพิกถอนการโอนนั้นเสียได้
ในชั้นบังคับคดีร้องขัดทรัพย์นั้น หากโจทก์อ้างว่าผู้ร้องได้ทรัพย์นั้นมาโดยไม่สุจริต เป็นการหลีกเลี่ยงการชำระหนี้โจทก์แล้ว ศาลก็มีอำนาจชี้ขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 ได้โดยไม่ต้องให้โจทก์ไปดำเนินคดีฟ้องร้อง ขอให้ทำลายการโอนหรือเพิกถอนการฉ้อฉลเสียก่อนแต่ประการใด.
ในชั้นบังคับคดีร้องขัดทรัพย์นั้น หากโจทก์อ้างว่าผู้ร้องได้ทรัพย์นั้นมาโดยไม่สุจริต เป็นการหลีกเลี่ยงการชำระหนี้โจทก์แล้ว ศาลก็มีอำนาจชี้ขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 ได้โดยไม่ต้องให้โจทก์ไปดำเนินคดีฟ้องร้อง ขอให้ทำลายการโอนหรือเพิกถอนการฉ้อฉลเสียก่อนแต่ประการใด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนทรัพย์เพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สิน แม้ผู้รับโอนไม่รู้เรื่อง ศาลมีอำนาจชี้ขาดในชั้นบังคับคดี
การที่จำเลยโอนทรัพย์ให้ผู้ร้องโดยเสน่หาเพื่อหลีกเลี่ยงการชำระหนี้ทำให้โจทก์เสียเปรียบนั้นแม้จะฟังว่าผู้ร้องไม่รู้ถึงข้อความจริงที่ทำให้เจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบก็ดีโจทก์ก็ขอให้เพิกถอนการโอนนั้นเสียได้
ในชั้นบังคับคดีร้องขัดทรัพย์นั้น หากโจทก์อ้างว่าผู้ร้องได้ทรัพย์นั้นมาโดยไม่สุจริตเป็นการหลีกเลี่ยงการชำระหนี้โจทก์แล้วศาลก็มีอำนาจชี้ขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 ได้โดยไม่ต้องให้โจทก์ไปดำเนินคดีฟ้องร้อง ขอให้ทำลายการโอนหรือเพิกถอนการฉ้อฉลเสียก่อนแต่ประการใด
ในชั้นบังคับคดีร้องขัดทรัพย์นั้น หากโจทก์อ้างว่าผู้ร้องได้ทรัพย์นั้นมาโดยไม่สุจริตเป็นการหลีกเลี่ยงการชำระหนี้โจทก์แล้วศาลก็มีอำนาจชี้ขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 ได้โดยไม่ต้องให้โจทก์ไปดำเนินคดีฟ้องร้อง ขอให้ทำลายการโอนหรือเพิกถอนการฉ้อฉลเสียก่อนแต่ประการใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงเจตนาลวงในการซื้อขายที่ดินเพื่อหลีกเลี่ยงการยึดทรัพย์ ศาลพิพากษาเพิกถอนนิติกรรม
ทำสัญญาซื้อขายที่ดินกันมานานถึง 2 ปีเศษแล้วแต่ปรากฎว่าภรรยาและบุตรผู้ขายยังคงอยู่และทำกินในดินที่ทำสัญญาซื้อขายตลอดมา โดยผู้ซื้อมิได้เกี่ยวข้องทำอะไรในที่ดิน และยังปรากฎว่าบุตรเขยผู้ขายได้ปลูกเรือนอยู่ในที่ดินที่ทำสัญญาซื้อขาย พฤติการณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวเป็นเครื่องแสดงให้เห็นได้ว่าการทำสัญญาซื้อขายเป็นการแสดงเจตนาลวง มิใช่มีเจตนาซื้อขายต่อกันจริงจัง