พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักกลบลบหนี้ด้วยทรัพย์สินและการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ห้องแถวจากการรื้อสร้างใหม่
ประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้เดิมคือ โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องแถวพิพาทหรือไม่ และโจทก์เสียหายเพียงใด ส่วนประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นกำหนดขึ้นใหม่นั้นเพียงเพิ่มประเด็นข้อพิพาทอีกข้อหนึ่งว่า โจทก์นำห้องแถวพิพาทมาหักกลบลบหนี้ที่บุตรโจทก์เป็นหนี้จำเลยหรือไม่เท่านั้นซึ่งมีความหมายรวมอยู่ในประเด็นข้อพิพาทเดิมที่ตั้งไว้ในข้อที่ว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในห้องแถวพิพาทหรือไม่อยู่แล้ว กล่าวคือ หากข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์นำห้องแถวเดิมมาหักกลบลบหนี้ที่บุตรโจทก์เป็นหนี้จำเลย แล้วจำเลยรื้อถอนห้องแถวดังกล่าวและปลูกขึ้นใหม่เป็นห้องแถวพิพาทเช่นนี้ ห้องแถวพิพาทจึงเป็นของจำเลยโจทก์ย่อมไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องแถวพิพาทนั่นเอง ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพิ่มเติมดังกล่าวจึงไม่ทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9128/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิครอบครองห้องแถวบนที่ดินราชพัสดุโดยไม่ทำตามแบบ แม้ไม่จดทะเบียนก็มีผลผูกพันได้
จำเลยอยู่ในห้องแถวพิพาทโดยอาศัยสิทธิการเช่าจาก บ. เจ้าของเดิม ต่อมาบ. ได้ขายห้องพิพาทซึ่งปลูกสร้างบนที่ดินราชพัสดุให้แก่โจทก์โดยทำสัญญาการซื้อขายเป็น หนังสือ แม้มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ตาม แต่บ. ได้โอนสิทธิครอบครองในที่ดินพร้อมห้องแถวพิพาทให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377,1378ซึ่งไม่ต้องมีแบบ โจทก์จึงได้มาซึ่งสิทธิครอบครอง และการโอน โดยข้อเท็จจริงดังกล่าว ไม่เป็นโมฆะ เมื่อการซื้อขายระหว่างโจทก์กับเจ้าของห้องแถวพิพาทเดิมไม่จำต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สัญญาซื้อขายดังกล่าวจึงไม่จำต้องปิดอากรแสตมป์ ก็รับฟังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในห้องแถวบนที่ดินป่าสงวน: สิทธิระหว่างเอกชนย่อมมีผลผูกพัน แม้ที่ดินเป็นสาธารณสมบัติ
แม้ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507มาตรา 14 บัญญัติห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองหรืออยู่อาศัยในที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ก็เป็นบทบัญญัติที่ใช้บังคับระหว่างรัฐกับราษฎร เป็นผลให้ราษฎรที่เข้ายึดถือครอบครองหรืออยู่อาศัยไม่ได้สิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งไม่อาจอ้างสิทธิใด ๆ ใช้ยันรัฐได้แต่ในระหว่างโจทก์จำเลยซึ่งเป็นราษฎรด้วยกันเมื่อจำเลยเป็นผู้ปลูกสร้างห้องแถวพิพาทบนที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ จำเลยก็มีสิทธิยึดถือและใช้สอยห้องแถวพิพาท กับมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับห้องแถวพิพาทโดยมิชอบ รวมทั้งมีสิทธิที่จะจำหน่ายห้องแถวพิพาทในสถานะเช่นเดียวกับเจ้าของเมื่อโจทก์ได้ซื้อห้องแถวพิพาทจากจำเลย และจำเลยได้ยอม รับสิทธิของโจทก์โดยได้ทำหนังสือสัญญาเช่าห้องแถวพิพาท จากโจทก์ สัญญาเช่าจึงใช้บังคับได้มีผลผูกพันจำเลย เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าและโจทก์ได้บอกเลิก สัญญาเช่าแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย ทั้งสองออกจากห้องแถวพิพาทและเรียกค่าเช่าที่ค้างชำระ จากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในห้องแถวบนที่ดินป่าสงวน: สิทธิระหว่างราษฎรย่อมมีผลผูกพันได้ แม้ที่ดินเป็นของรัฐ
พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 บัญญัติห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองหรืออยู่อาศัยในที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเป็นบทบัญญัติที่ใช้บังคับระหว่างรัฐกับราษฎร ซึ่งมีผลให้ราษฎรที่เข้ายึดถือครอบครองหรืออยู่อาศัย ไม่ได้สิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งไม่อาจอ้างสิทธิใช้ยันรัฐได้ แต่ระหว่างโจทก์กับจำเลยซึ่งเป็นราษฎรด้วยกัน เมื่อจำเลยเป็นผู้ปลูกห้องแถวพิพาทแม้จะปลูกอยู่บนที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ จำเลยก็มีสิทธิยึดถือและใช้สอยห้องพิพาทกับมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้ใดเกี่ยวข้อง รวมทั้งมีสิทธิที่จะจำหน่ายห้องแถวพิพาทในสถานะเช่นเดียวกับเจ้าของเมื่อโจทก์ซื้อห้องแถวพิพาทจากจำเลย และจำเลยได้ยอมรับสิทธิของโจทก์โดยทำสัญญาเช่าที่พิพาทจากโจทก์ สัญญาเช่าจึงมีผลใช้บังคับผูกพันจำเลย เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าและโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่า โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่และเรียกค่าเช่าจากจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2814/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยมีหน้าที่จัดการให้ผู้เช่าออกจากห้องแถวที่ให้เช่าโดยละเมิดสิทธิโจทก์ โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจนกว่าผู้เช่าจะออกไป
จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์โดยนำห้องแถวของโจทก์ไปให้ผู้อื่นเช่าย่อมทำให้โจทก์ขาดประโยชน์ที่จะใช้สอยหรือให้เช่าจำเลยมีหน้าที่จัดการให้ผู้เช่าออกไปจากห้องแถวเมื่อจำเลยยังไม่ได้จัดการให้ผู้เช่าออกไปความเสียหายก็ยังคงมีอยู่ตลอดไปจนกว่าผู้เช่าจะออกไปจากห้องแถวนั้น แม้โจทก์จะฟ้องขับไล่ผู้เช่าแล้วเมื่อผู้เช่ายังไม่ออกไปจากห้องแถวนั้นจำเลยจึงยังไม่หลุดพ้นความรับผิดโจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะได้ให้ผู้เช่าออกไปจากห้องแถวได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินก่อนสมรสและหลังสมรส: ที่ดินก่อนสมรสไม่เป็นสินสมรส ห้องแถวหลังสมรสเป็นสินสมรสร่วมกัน
ที่ดินของชายถือกรรมสิทธิ์รวมกับมารดา มาก่อนเป็นสามีภริยากับโจทก์เป็นสินส่วนตัวของชาย ต่อมาชายทำสัญญาประนีประนอมแบ่งกับมารดา เมื่อโจทก์จำเลยจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ก็เป็นแต่แบ่งกรรมสิทธิ์รวมระหว่างจำเลยกับมารดา ที่ดินไม่เป็นสินสมรส
ชายหญิงอยู่กินเป็นสามีภริยากันมาก่อน แล้วจดทะเบียนสมรสภายหลัง ทรัพย์ที่ได้มาร่วมกันก่อนจดทะเบียนสมรส เป็นกรรมสิทธิ์รวมแบ่งกันคนละครึ่งเมื่อหย่ากัน
ชายหญิงอยู่กินเป็นสามีภริยากันมาก่อน แล้วจดทะเบียนสมรสภายหลัง ทรัพย์ที่ได้มาร่วมกันก่อนจดทะเบียนสมรส เป็นกรรมสิทธิ์รวมแบ่งกันคนละครึ่งเมื่อหย่ากัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ส่วนควบของที่ดิน: ห้องแถวที่ปลูกบนที่ดินของผู้อื่น ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดิน เว้นแต่มีข้อยกเว้น
ห้องแถวเป็นส่วนควบของที่ดิน จำเลยปฏิเสธว่าห้องแถวไม่ใช่ของโจทก์ แต่รับว่าปลูกอยู่ในที่ดินของโจทก์ จำเลยมิได้อ้างว่าเหตุใดจึงไม่เป็นส่วนควบ ไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบ ศาลขับไล่จำเลยจากห้องแถวได้
ศาลสั่งก่อนอ่านคำพิพากษาให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มตามราคาทรัพย์ที่พิพาท มิฉะนั้นจะไม่ออกคำบังคับ โจทก์ชำระครบถ้วนตามคำสั่งเป็นการถูกต้องแล้ว
ศาลสั่งก่อนอ่านคำพิพากษาให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มตามราคาทรัพย์ที่พิพาท มิฉะนั้นจะไม่ออกคำบังคับ โจทก์ชำระครบถ้วนตามคำสั่งเป็นการถูกต้องแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2699/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกทรัพย์สินระหว่างคู่ไม่สมรส: ที่ดินยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ส่วนตัว, ห้องแถวปลูกร่วมกันเป็นทรัพย์สินร่วม
หญิงชายอยู่ร่วมกันโดยไม่จดทะเบียนสมรส มารดาหญิงยกที่ดินให้หญิง ไม่เป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างชายหญิง ส่วนห้องแถวปลูกในที่ดินโดยชายหญิงร่วมกันปลูกด้วยแรงหรือด้วยเงินของฝ่ายใด ถือว่าเป็นทรัพย์ที่ทำมาหาได้ร่วมกัน เป็นเจ้าของร่วมกัน ชายถูกยึดทรัพย์หญิงร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช่าที่ดินสร้างห้องแถวเพื่อค้า ไม่คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
การเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างห้องแถวให้คนอื่นเช่านั้น แสดงว่ามีเจตนาเช่าที่ดินเพื่อหาประโยชน์ เป็นการประกอบธุรกิจการค้า ฉะนั้นแม้ผู้เช่าที่ดินจะได้ใช้ห้องแถวนั้นอยู่อาศัยด้วยก็ตาม ก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 216/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะผู้เช่าห้องแถวบนที่ดินเช่า: ไม่ใช่ผู้เช่าที่ดิน แต่เป็นบริวารผู้เช่า
จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์ปลูกห้องแถวผู้เช่าห้องแถวจากจำเลยไม่ใช่ผู้เช่าช่วงที่ดินแต่เป็นบริวารของจำเลย
เหมือนฎีกาที่ 377/2500 และ 1000/2503
เหมือนฎีกาที่ 377/2500 และ 1000/2503