พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6416/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจรองอัยการสูงสุดรักษาราชการแทนอัยการสูงสุดในการอนุญาตฟ้องคดีหลังพ้นกำหนดเวลาตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวงทบวงกรมพ.ศ.2534มาตรา33บัญญัติให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีกระทรวงหรือทบวงและมีฐานะเป็นกรมเมื่ออัยการสูงสุดซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงานอัยการสูงสุดไม่อาจปฏิบัติราชการได้รองอัยการสูงสุดจึงเป็นผู้รักษาราชการแทนตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ.2534มาตรา46วรรคสามโดยรองอัยการสูงสุดผู้รักษาราชการแทนอัยการสูงสุดย่อมมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับอัยการสูงสุดตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ.2534มาตรา48วรรคหนึ่งและวรรคสามฉะนั้นเมื่อพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงพ.ศ.2499มาตรา9บัญญัติห้ามมิให้พนักงานอัยการฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามมาตรา7เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากอัยการสูงสุดรองอัยการสูงสุดผู้รักษาราชการแทนอัยการสูงสุดจึงมีอำนาจอนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4077/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุจำเลยขณะกระทำผิดและขณะฟ้องคดีมีผลต่ออำนาจศาลคดีเด็กและเยาวชน รวมถึงการได้รับอนุญาตฟ้อง
เยาวชนอายุ 14 ปีเศษ กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288และถูกฟ้องเมื่ออายุ 17 ปีเศษ ดังนี้ คดีอยู่ในอำนาจของศาลคดีเด็กฯ ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 163 ข้อ 1 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กฯมาตรา 8(1) ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กฯ มาตรา 24 จัตวานั้น ห้ามพนักงานอัยการฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามมาตรา 24 ทวิ ต่อศาลทุกศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3138/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจศาล: ดุลพินิจอนุญาตฟ้องจำเลยต่อศาลที่เกิดเหตุ พิจารณาความสะดวกเป็นหลัก
กฎหมายบัญญัติให้ศาลใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ยื่นคำฟ้องจำเลยต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลนั้นได้ต่อเมื่อการพิจารณาคดีในศาลนั้นจะเป็นการสะดวกเป็นข้อสำคัญหาใช่พิจารณาการเดินทางของจำเลยว่าไกลหรือใกล้เป็นข้อสำคัญไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำหรือไม่: ประเด็นต่างกัน แม้ที่ดินแปลงเดียวกัน ศาลอนุญาตฟ้องได้
โจทก์เคยฟ้องจำเลยขอแบ่งที่ดินในฐานะที่เป็นทายาทของเจ้ามรดกร่วมกับจำเลย จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย คดีถึงที่สุดโดยศาลฟังว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยต่อมาโจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ โดยบรรยายฟ้องว่าที่พิพาทซึ่งจำเลยปักหลักเขตรุกล้ำเป็นคนละแปลงกับที่พิพาทในคดีก่อน จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยปักหลักเขตภายในที่ดินของจำเลยซึ่งเคยเป็นที่พิพาทในคดีก่อน มิได้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ ประเด็นในคดีนี้จึงมีว่าจำเลยปักหลักเขตรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์หรือไม่ ส่วนประเด็นในคดีก่อนมีว่า ที่พิพาทเป็นทรัพย์มรดกซึ่งโจทก์มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งร่วมกับจำเลยหรือไม่ ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่ซ้ำกับคดีก่อน ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2778/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาฟ้องคดีเด็กและเยาวชนและการขออนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการหากพ้นกำหนด
การฟ้องคดีเด็กและเยาวชนจะต้องอยู่ในบังคับของมาตรา 24 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 ทั้งสิ้น กล่าวคือจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เด็กหรือเยาวชนถูกจับกุม หรือได้รับอนุญาตจากศาลให้ผัดฟ้องได้เป็นคราวๆไป หากพ้นกำหนดนี้แล้วจะฟ้องได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการแม้จะเป็นการฟ้องคดีตามคำชี้ขาดให้ฟ้องคดีของอธิบดีกรมอัยการก็ตาม (อ้างฎีกาที่ 10/2522)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตให้ภรรยาฟ้องคดีเกี่ยวกับสินบริคณห์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากสามี: เหตุผลการไม่งดสืบพยาน
ภรรยาฟ้องคดีเรียกที่ดินอันเป็นสินบริคณห์จากบุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามีเพราะคดีจะขาดอายุความ ถ้าปรากฏว่าสามีไม่ยอมอนุญาตโดยปราศจากเหตุอันสมควร ภรรยาย่อมขอให้ศาลสั่งอนุญาตให้ฟ้องคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีหมิ่นประมาทหลังควบคุมตัวผู้ต้องหาตามประกาศคณะปฏิวัติ การขอผัดฟ้อง/อนุญาตฟ้อง
เจ้าพนักงานจับจำเลยฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ แล้วจำเลยถูกควบคุมตัวในฐานเป็นบุคคลอันธพาลประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 21 ได้ 24 วัน โจกท์นำจำเลยมาฟ้องศาลแขวงอุดรธานีในความผิดฐานหมิ่น เจ้าพนักงานได้โดยไม่ต้องขอผัดฟ้องหรือขออนุญาตฟ้องจากอธิบดีกรมอัยการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2475
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตฟ้องคดีอาญาต่อศาลสูง: ต้องไต่สวนมูลฟ้องก่อน
พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความมีโทษใช้ไปพลางก่อน ร.ศ. 115 ม. 3 ข้อ 1-2 และ ม.4-6
การฟ้องคดีอาชญาแม้ศาลโปริสภาอนุญาตให้ฟ้องยังศาลสูงได้แต่ไม่ได้ไต่สวนมูลฟ้องแล้วศาลสูงมีอำนาจไม่รับไว้พิจารณาได้
การฟ้องคดีอาชญาแม้ศาลโปริสภาอนุญาตให้ฟ้องยังศาลสูงได้แต่ไม่ได้ไต่สวนมูลฟ้องแล้วศาลสูงมีอำนาจไม่รับไว้พิจารณาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 297/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจศาลแรงงาน: ดุลพินิจอนุญาตฟ้องที่ศาลแรงงานกลาง หากไม่สะดวก ศาลมีสิทธิไม่รับฟ้อง
ศาลแรงงานกลางได้พิจารณาคำร้องขอดำเนินคดีที่ศาลแรงงานกลางของโจทก์แล้วมีคำสั่งไม่รับฟ้อง จึงเป็นกรณีที่ศาลแรงงานกลางเห็นว่า การพิจารณาในศาลแรงงานกลางไม่เป็นการสะดวก จึงไม่อนุญาตให้โจทก์ยื่นคำฟ้องตามที่ขอตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 33 วรรคหนึ่ง การที่โจทก์อุทธรณ์ก็เพื่อให้เห็นว่า การพิจารณาคดีในศาลแรงงานกลางจะเป็นการสะดวก อุทธรณ์โจทก์ดังกล่าวจึงเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการพิจารณาอนุญาตของศาลแรงงานกลาง เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง