พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหนี้สินบริคณห์ของภรรยา การอนุญาตจากสามี และการพิสูจน์หนี้เงินฝาก/ค่าเซ้ง
การที่หญิงมีสามีฟ้องเรียกหนี้และส่วนมรดกของบุตรสาวที่ตายจากบุตรเขยนั้น เกี่ยวกับการเพื่อประโยชน์แก่สินบริคณห์ตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1469 จะต้องได้รับอนุญาตจากสามีเมื่อสามีร้องสอดเข้าเป็นโจทก์ร่วมขอรับชำระหนี้และส่วนมรดกด้วยนั้น พอถือว่าเป็๋นหลักฐานที่สามีอนุญาต
ทนายโจทก์ที่ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องนั้น แม้จะยื่นในชื่อของทนายเองก็ใช้ได้ เพราะเป็นการทำการแทนโจทก์
ทนายโจทก์ที่ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องนั้น แม้จะยื่นในชื่อของทนายเองก็ใช้ได้ เพราะเป็นการทำการแทนโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1104/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนองสินบริคณห์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี และผลกระทบต่อผู้รับจำนอง รวมถึงความสุจริตของผู้ให้ภรรยาทำนิติกรรม
การให้อนุญาตของสามีตาม ม.38 นั้นจะต้องให้ไว้โดยชัดแจงโดยความทั่ว ๆ ไปหรือเกี่ยวแก่ทรัพย์รายใด โดยฉะเพาะจะอนุมานเอาจากความประพฤตติของสามีอันเกี่ยวแก่นิติกรรมรายอื่นที่ภรรยาได้กระทำไปแล้วนั้นไม่ได้ สามีจะต้องได้กระทำไปโดยสุจริตจึงจะใช้สิทธิบอกล้างนิติกรรมอันเกี่ยวแก่สินบริคณห์ที่ภรรยาได้กระทำไปโดยมิได้รับอนุญาตจากสามี นันได้จำนอง ผู้รับจำนองได้รับจำนองสินบริคณห์จากหญิงมีสามีโดยมิได้สอบสาวนถึงสภาพแห่งทรัพย์สินนั้นย่อมต้องเสี่ยงภัยในการจำนองนั้นอาจถูกแสดง+เป็นโมฆะความประพฤตติของสามีเปิด+กาศให้ภรรยาทำให้บุคคล 3 หลงเข้าใจผิดในการที่ภรรยาทำนิติกรรมเกี่ยวแก่สินบริคณห์แล้ว สามีบอกล้างนิติกรรมนั้นไม่ได้ +ในโฉนด ที่ดิน การที่มีชื่อภรรยาในโฉนดที่ดินอันเป็นสินบริคณห์เป็นแต่เพียงให้เกิดข้อสันนิษฐานว่าภรรยามีกรรมสิทธิ