คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อันตรายใกล้ถึง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8040/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงเพื่อป้องกันตนต้องมีเหตุอันตรายใกล้จะถึง การกระทำเป็นกรรมต่างกัน
แม้ว่าโจทก์ร่วมที่ 1 จะใช้แขนรัดคอจำเลย แต่ก็ไม่ปรากฏว่า โจทก์ร่วมที่ 1 มีอาวุธใด ๆ ที่จะใช้ทำร้ายจำเลย การที่จำเลยบอกให้โจทก์ร่วมที่ 1 ซึ่งใช้แขนรัดคอปล่อยตัวจำเลยแต่โจทก์ที่ 1 ไม่ยอมปล่อย จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมที่ 1 หลายนัด โดยโจทก์ร่วมที่ 1 ไม่มีอาวุธใด ๆที่จะใช้ทำร้ายจำเลยได้นั้น จำเลยจะอ้างว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตนโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่ เมื่อจำเลยใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมทั้งสองโดยเจตนาฆ่าและจำเลยลงมือกระทำความผิดแล้ว แต่การกระทำดังกล่าวไม่บรรลุผล เพียงแต่ทำให้โจทก์ร่วมทั้งสองได้รับอันตรายสาหัสและการกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าโจทก์ร่วมทั้งสอง การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมที่ 1 เพื่อให้โจทก์ร่วมที่ 1 ซึ่งใช้แขนรัดคอปล่อยจำเลย และยิง โจทก์ร่วมที่ 2 โดยอ้างว่าโจทก์ร่วมที่ 2 ถือมีดจะเข้ามาแทง จำเลยเพื่อช่วยเหลือโจทก์ที่ 1 การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำต่อบุคคลต่างคนกัน และเป็นคนละขั้นตอน มิใช่เป็นการยิงในคราวเดียวต่อเนื่องกัน จึงเป็นความผิดคนละกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2980/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การกระทำเพื่อปกป้องตนเองและผู้อื่นจากอันตรายที่ใกล้จะถึง
ก. กับพวกเป็นฝ่ายก่อเรื่องไล่ทำร้ายจำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยจำเลยที่ 1 ที่ 2 มิได้สมัครใจวิวาทด้วย จำเลยที่ 2 ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากจำเลยที่ 1 ในขณะที่ ก. ขึ้นคร่อมจำเลยที่ 1 จะใช้มีดคัตเตอร์แทงจำเลยที่ 1 และมีเพื่อนก. ร้องบอกเอาให้ตาย จำเลยที่ 2 จึงใช้มีดแทงที่หลัง ก.เพียง 1 ที แล้วชักมีดวิ่งหนีไป แสดงว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้เลือกแทงที่สำคัญเพียงแต่แทงเท่าที่โอกาสอำนวยไม่มีเจตนาฆ่า ก. และจำเลยที่ 2 กระทำเพื่อป้องกันมิให้ก. แทงจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมาย เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง และเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ จึงไม่มีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
จำเลยที่ 1 มิได้สมัครใจวิวาทกับ ก. แต่ถูก ก. กับพวกไล่ทำร้ายจนจำเลยที่ 2 ต้องเข้าช่วยเหลือด้วยการแทง ก. อันเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 299 และเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลมีอำนาจพิพากษาให้มีผลตลอดไปถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้ฎีกาด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3952/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธ: การกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่ใกล้จะถึงและสมควร
ขณะนั่งดื่มสุราอยู่ด้วยกัน ผู้เสียหายมีอาการเมาสุราเข้าใจว่าจำเลยที่ 1 กีดกันไม่ยอมให้ปักเสาไฟฟ้าผ่านที่ดิน เมื่อจำเลยที่ 1 ไล่ให้กลับไปนอนผู้เสียหายกลับพูดว่า "ไอ้แก่อยากจะให้รู้มือสักที"แล้วทำท่าจะลุกขึ้นพร้อมกับชักมีดที่เหน็บไว้ที่เอวเผยออกมา จำเลยที่ 1 เข้าใจว่าผู้เสียหายจะทำร้าย จึงชกหน้าผู้เสียหายไป1 ที แล้วผลักล้มลงถูกผาลไถนาเป็นบาดแผลที่หางคิ้วขวาเป็นการกระทำเพื่อให้พ้นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึงและพอสมควรแก่เหตุ เข้าลักษณะเป็นการป้องกันจำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2299/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย: การแย่งปืนและการฟันเพื่อป้องกันตัวจากอันตรายที่ใกล้จะถึง
ผู้ตายเมาสุราโกรธจำเลยที่ถามเรื่องกระพรวนควายของจำเลยหายที่ผู้ตายรับจะเป็นคนช่วยสืบหาให้ จึงชักปืนออกจะยิง จำเลยใช้มือซ้ายรวบมือผู้ตายที่ถือปืนกระชากผู้ตายหัวคะมำแล้วใช้มือขวาหยิบมีดโต้ปลายตัดที่ถือติดตัวมาฟันไปทันที 1 ที ถูกผู้ตายตรงหูเป็นแผลยาวจากท้ายทอยผ่าหูมาจดแก้มด้านซ้าย ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ เห็นว่าจำเลยฟันไปในขณะชุลมุนแย่งปืนกัน การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การกระทำเพื่อปกป้องตนเองจากอันตรายที่ใกล้จะถึง
ผู้ตายเมาสุราได้ก่อเหตุขึ้นโดยตีจำเลยด้วยขวดก่อน จนขวดแตกแล้วจะแทงจำเลยด้วยขวดที่แตกนั้นอีกจึงถูกจำเลยแทงด้วยเหล็กขูดชาร์ฟ ถือได้ว่าเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1660/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงช้างที่บุกรุกสวน: การกระทำเพื่อป้องกันภัยอันตรายใกล้ถึงตัว
มีผู้นำช้างไปล่ามไว้ใกล้กับสวนของจำเลยโดยจำเลยไม่รู้ กลางคืนช้างหลุดจากโซ่ พังรั้วลวดหนามเข้าไปในสวนของจำเลย ซึ่งมีบ้านพักของจำเลยกับคนงานปลูกอยู่คนงานได้ยินเสียงหักขัาวโพดจึงบอกจำเลย จำเลยถือปืนเดินไปดูกับคนงาน จำเลยโผล่จากไร่ข้าวโพดพบช้างอยู่กลางไร่ข้าวโพดห่างประมาณ 4 วา โดยไม่ทันรู้ตัวและกำลังเดินเข้ามาหาจำเลย จำเลยเข้าใจว่าเป็นช้างป่า ซึ่งยังมีอยู่ในป่าบริเวณไร่ของจำเลย จึงผลักคนงานให้หลบแล้วเอาปืนยิงช้างไป 2 นัดแล้ววิ่งหนี ดังนี้ ถือว่าการที่จำเลยยิงช้างของผู้เสียหาย เป็นการตัดสินใจโดยกระทันหันด้วยความจำเป็นเพื่อให้พ้นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึงตัวจำเลยกับคนงาน โดยจำเลยไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นได้ และการกระทำของจำเลยไม่เกินสมควรแก่เหตุจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษฐานทำให้เสียทรัพย์