พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2991/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการยิงด้วยอาวุธสงคราม แม้เจตนายิงยางรถ แต่เล็งเห็นผลถึงแก่ชีวิต
จำเลยอยู่บนรถกระบะที่กำลังขับไล่ติดตามรถจักรยานยนต์ที่ผู้เสียหายขับไปตามถนนซึ่งเป็นทางลูกรังแคบและขรุขระใช้อาวุธปืนเล็กกล (เอ็ม.16) ยิงไปที่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายหลายนัด แม้จำเลยมีเจตนายิงยางรถจักรยานยนต์ เพื่อให้รถจักรยานยนต์ล้ม แต่จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่ากระสุนปืนอาจถูกผู้เสียหายได้การที่จำเลยใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงไปในลักษณะเช่นนั้น จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า กระสุนปืนอาจถูกผู้เสียหายที่บริเวณอวัยวะสำคัญทำให้ผู้เสียหายทั้งสองถึงแก่ความตายได้ จึงเป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1569/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีอาวุธสงคราม: ความผิดกรรมเดียว แม้มีวัตถุหลายประเภท ศาลฎีกามีอำนาจปรับบท
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนกับวัตถุระเบิดซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 55 ต้องการให้เป็นความผิดในลักษณะเดียวกัน วัตถุที่ต้องห้ามไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดกฎหมายถือว่าเป็นวัตถุประเภทเดียวกัน การที่จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนกับวัตถุระเบิดซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองขณะเดียวกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียว
แม้จำเลยมิได้ฎีกาในปัญหาเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมก็ตาม ศาลฎีกาก็มีอำนาจปรับบทให้ถูกต้องได้แม้ความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองยุติแล้ว เพราะต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง แต่คดียังไม่ถึงที่สุดศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยถึงประเด็นดังกล่าวได้
แม้จำเลยมิได้ฎีกาในปัญหาเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมก็ตาม ศาลฎีกาก็มีอำนาจปรับบทให้ถูกต้องได้แม้ความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองยุติแล้ว เพราะต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง แต่คดียังไม่ถึงที่สุดศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยถึงประเด็นดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ครอบครองอาวุธสงครามก่อนประกาศคำสั่ง คณะปฏิรูปฯ ไม่ต้องรับโทษ หากถูกจับกุมก่อนประกาศ
จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามและถูกจับก่อนคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 ที่ให้ผู้ที่มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้แต่เฉพาะในการสงครามไว้ในครอบครองนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายภายในวันที่ 14 ตุลาคม 2519 ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ มีผลใช้บังคับ แม้โจทก์จะฟ้องคดีนี้หลังวันที่ 14 ตุลาคม 2519 จำเลยก็ไม่ต้องรับโทษศาลยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำสั่ง คปค. ที่ให้มอบอาวุธสงครามเพื่อหลีกเลี่ยงความผิด แม้ของกลางถูกยึดก่อน
จำเลยถูกจับดำเนินคดีฐานมีอาวุธปืนฯ ที่ใช้เฉพาะในการสงคราม แล้วมีคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 ให้นำปืนมามอบแก่นายทะเบียนปืนจึงไม่อยู่ในครอบครองของจำเลยจำเลยก็ไม่ต้องรับโทษตามคำสั่งนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำสั่ง คปค.ที่ให้ผู้ครอบครองอาวุธสงครามมามอบเพื่อไม่ให้ถูกลงโทษ เหนือกว่ากฎหมายเดิม
ภายหลังจากวันที่จำเลยถูกกล่าวหาว่ามีอาวุธปืนและกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 แล้ว ได้มีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 สั่งให้บุคคลที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครอง ซึ่งเป็นความผิดมาแต่ก่อนคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินดังกล่าวใช้บังคับ ไม่ว่าการกระทำนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใด สามารถนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ได้ภายในวันที่ 14 ตุลาคม 2519 โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จึงเป็นกฎหมายที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดยิ่งกว่ากฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่จำเลยถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด ต้องใช้คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 บังคับแก่การกระทำของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรก จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ ของกลางริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำสั่ง คปค. ที่ให้ผู้ครอบครองอาวุธสงครามมามอบเพื่อไม่ให้ถูกลงโทษ เหนือกว่ากฎหมายเดิม
ภายหลังจากวันที่จำเลยถูกกล่าวหาว่ามีอาวุธปืนและกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 แล้วได้มีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 สั่งให้บุคคลที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครอง ซึ่งเป็นความผิดมาแต่ก่อนคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินดังกล่าวใช้บังคับไม่ว่าการกระทำนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใด สามารถนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ได้ภายในวันที่ 14 ตุลาคม 2519 โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จึงเป็นกฎหมายที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดยิ่งกว่ากฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่จำเลยถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด ต้องใช้คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519บังคับแก่การกระทำของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรกจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ ของกลางริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 916/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธสงครามเพื่อค้า หาใช่การมีไว้ในครอบครองเพื่อใช้ส่วนตัว จึงไม่อยู่ในข่ายได้รับการยกเว้นโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
การที่จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามเป็นจำนวนมาก โดยมีเจตนาเพื่อการค้าหรือเพื่อการจำหน่ายนั้น ไม่อยู่ในข่ายจะได้รับการยกเว้นไม่เอาโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2514
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 916/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธสงครามเพื่อการค้า ไม่ได้รับการยกเว้นโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
การที่จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามเป็นจำนวนมาก โดยมีเจตนาเพื่อการค้าหรือเพื่อการจำหน่ายนั้นไม่อยู่ในข่ายจะได้รับการยกเว้นไม่เอาโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 6)พ.ศ.2518
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นโทษอาญาจากคำสั่ง คปถ. กรณีครอบครองอาวุธสงคราม และการมอบอาวุธตามคำสั่ง
จำเลยมีอาวุธปืนและกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครองแต่ปรากฏว่าระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 สั่งให้ผู้ที่มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครองนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนภายในวันที่ 14 ตุลาคม 2519 โดยผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ไม่ต้องรับโทษจึงต้องถือว่าในระหว่างระยะเวลานี้กฎหมายได้ยกเว้นโทษให้แก่ผู้มีอาวุธปืน และกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครองแล้วจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายใหม่คุ้มครองผู้ครอบครองอาวุธสงครามเดิม หากมอบให้เจ้าหน้าที่ภายในกำหนด
ภายหลังจากวันที่จำเลยถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในความครอบครองตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 แล้ว ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 ออกใช้บังคับ และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติให้บุคคลที่มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในความครอบครองซึ่งเป็นความผิดมาแต่ก่อนพระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับไม่ว่าการกระทำนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใด สามารถนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ได้ภายในกำหนด 90 วันโดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จึงเป็นกฎหมายที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดยิ่งกว่ากฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่จำเลยถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดต้องใช้พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 บังคับแก่การกระทำของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรก จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ