พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7083/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการควบคุมคำถามพยาน และผลของการไม่คัดค้านคำชี้ขาด
ในการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น ถ้าศาลชั้นต้นเห็นว่าคำถามใดเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นแห่งคดี ศาลชั้นต้นมีอำนาจไม่ให้ใช้คำถามนั้น และไม่บันทึกคำพยานปากนั้นได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 118 วรรคสาม
การที่ศาลชั้นต้นได้บันทึกไว้ว่า ทนายโจทก์ทั้งสองถามค้านไม่เกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาท ศาลเตือนและออกข้อกำหนดให้ทนายโจทก์ทั้งสองถามพยานตามประเด็นข้อพิพาทที่กำหนด แต่ทนายโจทก์ทั้งสองยังถามค้านพยานไม่เกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทอยู่เช่นเดิม จึงถือว่าจบคำถามค้านนั้น ทนายโจทก์ทั้งสองไม่ได้ร้องคัดค้าน หรือให้จดคำถามและข้อคัดค้านไว้ เมื่อไม่ปรากฏว่าคำถามใดที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดไม่ให้ทนายโจทก์ทั้งสองถามค้าน และทนายโจทก์ทั้งสองคัดค้านคำชี้ขาดไว้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 118 วรรคท้าย จึงไม่มีคำชี้ขาดของศาลชั้นต้นที่โจทก์ทั้งสองจะยกขึ้นเป็นข้อฎีกาเพื่อให้ยกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง และให้พิจารณาพิพากษาใหม่ได้
การที่ศาลชั้นต้นได้บันทึกไว้ว่า ทนายโจทก์ทั้งสองถามค้านไม่เกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาท ศาลเตือนและออกข้อกำหนดให้ทนายโจทก์ทั้งสองถามพยานตามประเด็นข้อพิพาทที่กำหนด แต่ทนายโจทก์ทั้งสองยังถามค้านพยานไม่เกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทอยู่เช่นเดิม จึงถือว่าจบคำถามค้านนั้น ทนายโจทก์ทั้งสองไม่ได้ร้องคัดค้าน หรือให้จดคำถามและข้อคัดค้านไว้ เมื่อไม่ปรากฏว่าคำถามใดที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดไม่ให้ทนายโจทก์ทั้งสองถามค้าน และทนายโจทก์ทั้งสองคัดค้านคำชี้ขาดไว้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 118 วรรคท้าย จึงไม่มีคำชี้ขาดของศาลชั้นต้นที่โจทก์ทั้งสองจะยกขึ้นเป็นข้อฎีกาเพื่อให้ยกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง และให้พิจารณาพิพากษาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสัมพันธ์นายจ้างลูกจ้าง: การพิจารณาจากอำนาจควบคุมและค่าจ้างตามผลงาน
โจทก์มีเวลาทำงานปกติ จำเลยที่ 1 มีอำนาจสั่งการและบังคับบัญชาให้โจทก์ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กำหนดเวลาทำงานและตรวจสอบเวลาทำงานของโจทก์กับมีอำนาจหักรายได้ของโจทก์ในกรณีที่โจทก์ขาดงานหรือมาทำงานสายเงินรายได้จากการแต่งผมที่จ่ายให้โจทก์ก็คำนวณตามผลงานที่โจทก์ทำได้ ความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ดังกล่าว ถือได้ว่าโจทก์ทำงานให้แก่จำเลยที่ 1 เพื่อรับค่าจ้างโดยคำนวณตามผลงานที่โจทก์ทำได้จึงฟังได้ว่าโจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 มีสิทธิเรียกค่าชดเชยจากจำเลยทั้งสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3905/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจนายอำเภอควบคุมดูแล คชก. และการกระทำที่ไม่เป็นละเมิดจากหนังสือแจ้งข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในศาล
นายอำเภอมีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คชก.) ตำบลในเขตท้องที่ ตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 มาตรา 14(2) การที่จำเลยในฐานะนายอำเภอทำหนังสือถึงประธาน คชก.ตำบล แจ้งว่า โจทก์กับเจ้าของที่นาได้ตกลงยอมความในเรื่องที่นาพิพาทต่อหน้าศาลแล้วขอให้สั่งโจทก์ออกไปจากที่นาและห้ามเกี่ยวข้องอีกต่อไปนั้น เป็นเรื่องที่จำเลยมีหนังสือถึงประธาน คชก.ตำบล โดยตรง และข้อความในหนังสือก็เป็นการกล่าวถึงการดำเนินกระบวนพิจารณาที่เกิดขึ้นในศาลตามความเป็นจริงโดยสุจริต อันเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของ คชก.ตำบล ให้เป็นไปโดยถูกต้องเท่านั้นแม้ความจริงจะไม่ใช่กรณีที่ศาลมีคำพิพากษาตามยอมระหว่างโจทก์กับเจ้าของที่นา ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจหรือประมาทเลินเล่อกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างครู: สัญญาจ้างแรงงานหรือจ้างทำของ พิจารณาจากอำนาจควบคุมและระเบียบข้อบังคับ
จำเลยจ้างโจทก์ให้สอนหนังสือนักเรียน จ่ายค่าจ้างเป็นรายเดือน และมีอำนาจออกระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กำหนดวันเวลาสอนหนังสือ หากโจทก์ปฏิบัติฝ่าฝืนจำเลยมีอำนาจลงโทษได้ การที่จำเลยจ่ายค่าจ้างมิใช่หวังผลสำเร็จของการสอนหนังสือ แม้โจทก์จะมีอิสระในการสอนตามวิชาชีพ แต่ก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยสัญญาจ้างระหว่างโจทก์จำเลยจึงเป็นสัญญาจ้างแรงงานมิใช่จ้างทำของ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1629/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัวและการรับผิดเมื่อจำเลยไม่นำตัวผู้ต้องหามอบตามสัญญา
จำเลยได้ทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาในช่วงเวลาที่เจ้าพนักงานมีอำนาจควบคุมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 เมื่อจำเลยไม่นำตัวผู้ต้องหามามอบให้เจ้าพนักงานตามข้อสัญญา จำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญาประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2453/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานอนาจารและทำร้ายร่างกาย: การประทุษร้ายร่างกายเป็นการกระทำกรรมเดียวกับอนาจาร และไม่อยู่ในอำนาจควบคุมตามหน้าที่ราชการ
การใช้กำลังกายกอดรัดและบีบเคล้นนมของผู้เสียหายจนฟกช้ำ เป็นการประทุษร้ายร่างกายที่เกลื่อนกลืนเป็นกรรมเดียวกับการกระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ไม่เป็นมูลความผิดฐานทำร้ายร่างกายตาม มาตรา 296 อีกบทหนึ่งต่างหาก
การที่โจทก์เป็นข้าราชการผู้น้อย (ตำแหน่งหัวหน้าแผนก) อยู่ใต้บังคับบัญชาของจำเลย (ตำแหน่งอธิบดี) ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามระเบียบแบบแผนนั้น หาใช่ผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 285 ไม่
การที่โจทก์เป็นข้าราชการผู้น้อย (ตำแหน่งหัวหน้าแผนก) อยู่ใต้บังคับบัญชาของจำเลย (ตำแหน่งอธิบดี) ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามระเบียบแบบแผนนั้น หาใช่ผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 285 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326-327/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจควบคุมผู้ต้องหาในคดีคอมมิวนิสต์: ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 12 ต้องไม่เกินความจำเป็นและระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 12 ให้อำนาจควบคุมผู้ต้องหาในกรณีกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ฯ ได้เท่าที่จำเป็นแก่การสอบสวนเท่านั้น ไม่ใช่ให้ควบคุมโดยไม่มีกำหนด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 วางหลักเป็นประกันเสรีภาพของประชาชนไว้ 2 ตอน ตอนต้นว่า จะควบคุมตัวผู้ต้องหาเกินกว่าจำเป็นตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่ได้ตอนที่สองว่า ความจำเป็นดังกล่าว จะจำเป็นเพียงใดก็ตามก็จะควบคุมเกินกว่ากำหนดเวลาดังบัญญัติไว้ไม่ได้
ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 12 เป็นการแก้ไขและขยายระยะเวลาขั้นสูงดังกำหนดไว้ในมาตรา 87 ไม่ได้ยกเลิกหลักใหญ่ของมาตรานี้ที่ให้ควบคุมผู้ต้องหาได้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2505)
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 วางหลักเป็นประกันเสรีภาพของประชาชนไว้ 2 ตอน ตอนต้นว่า จะควบคุมตัวผู้ต้องหาเกินกว่าจำเป็นตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่ได้ตอนที่สองว่า ความจำเป็นดังกล่าว จะจำเป็นเพียงใดก็ตามก็จะควบคุมเกินกว่ากำหนดเวลาดังบัญญัติไว้ไม่ได้
ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 12 เป็นการแก้ไขและขยายระยะเวลาขั้นสูงดังกำหนดไว้ในมาตรา 87 ไม่ได้ยกเลิกหลักใหญ่ของมาตรานี้ที่ให้ควบคุมผู้ต้องหาได้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจควบคุมข้าว: กฎหมายเฉพาะไม่ตัดสิทธิการใช้กฎหมายในภาวะฉุกเฉิน
พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักข้าว 2489 และพ.ร.บ.การค้าข้าว 2489 หาได้ใช้แทนหรือขัดกับ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคและของอื่นๆในภาวะคับขัน 2488 ไม่
(อ้างฎีกา197,198/2491ป
(อ้างฎีกา197,198/2491ป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจควบคุมสินค้าต้องมาจากคณะกรรมการฯ การประกาศควบคุมโดยเจ้าพนักงานจังหวัดไม่มีผลบังคับใช้
ตาม พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคและบริโภคนั้น อำนาจที่จะกำหนดให้สิ่งของใดๆ อยู่ในความควบคุมเป็นอำนาจของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติเมื่อฟ้องโจทก์มิได้กล่าวให้ชัดว่า สิ่งของที่จำเลยมีไว้นั้นเป็นสิ่งของที่คณะกรรมการกำหนดให้อยู่ในความควบคุมแล้ว แม้จะได้บรรยายว่าคณะกรมการจังหวัดได้ประกาศควบคุมก็ลงโทษจำเลยไม่ได้เพราะคณะกรมการจังหวัดไม่มีอำนาจประกาศเช่นนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประกาศยกเลิกอำนาจควบคุมไม่ถือเป็นการยกเลิกความผิดเดิม ศาลสูงสั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
ประกาศที่ออกตามอำนาจในกฎหมายต่อมามีประกาศยกเลิกเรื่องตามคำสั่งนั้น ไม่ถือว่าเป็นกฎหมายยกเลิกความผิด
ในกรณีที่เป็นกรรมเดียวกันนั้นเมื่อศาลสูงเห็นว่า ศาลชั้นต้นยกฟ้องบางส่วนไม่ถูกต้อง จะให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ศาลสูงย่อมให้ยกคำพิพากษาทั้งหมด และให้พิพากษาใหม่ทั้งหมด
ในกรณีที่เป็นกรรมเดียวกันนั้นเมื่อศาลสูงเห็นว่า ศาลชั้นต้นยกฟ้องบางส่วนไม่ถูกต้อง จะให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ศาลสูงย่อมให้ยกคำพิพากษาทั้งหมด และให้พิพากษาใหม่ทั้งหมด