พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4371-4451/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้แทนสหภาพแรงงานเจรจาต่อรอง และผลผูกพันข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
สหภาพแรงงานได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อจำเลยที่ 8 ซึ่งเป็นนายจ้างขอให้พิจารณาจัดเงินช่วยเหลือค่าดำรงชีพแก่พนักงานและจำเลยที่ 8ยืนยันความมั่นคงในเรื่องโบนัส เปอร์เซ็นต์การขึ้นเงิน อัตรากำลังคนกับปรับปรุงสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลด้วยที่ประชุมใหญ่สมาชิกสหภาพแรงงาน ท. ได้ให้การรับรองและแต่งตั้งให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 7เป็นตัวแทนเข้าร่วมเจรจากับจำเลยที่ 8 จึงเป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 103(2)มาตรา 13 วรรคสามและมาตรา 15 วรรคหนึ่ง แล้ว เมื่อจำเลยที่ 1ถึงที่ 7 ได้เข้าร่วมเจรจากับจำเลยที่ 8 ตามมาตรา 16 จนทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงเกี่ยวกับข้อเรียกร้องตามมาตรา 13 ได้ โดยเฉพาะเงินโบนัส ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในขอบอำนาจที่ได้รับมอบหมายให้ไปเจรจาย่อมทำข้อตกลงเกี่ยวกับเงินโบนัสกับจำเลยที่ 8 ได้ตามมาตรา 18 โดยมิจำต้องให้ที่ประชุมใหญ่ของสหภาพแรงงานท. มีมติให้การรับรองอีกครั้ง ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างดังกล่าวจึงมีผลบังคับและผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน ท. ตามมาตรา 19 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2886/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้าง: การเตือน การพักงาน และการพิสูจน์อำนาจผู้แทน
ผู้บังคับบัญชามีหนังสือแจ้งให้ลูกจ้างปรับปรุงการทำงานที่บกพร่องถึงสองครั้งหนังสือนั้นมีความด้วยว่า หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะได้รับผลตอบแทนที่เฉียบขาด แสดงว่าลูกจ้างบกพร่องในการทำงาน หนังสือนี้จึงถือได้ว่าเป็นหนังสือเตือนตามระเบียบข้อบังคับการทำงาน ต่อมาผู้บังคับบัญชามีหนังสือเตือนครั้งสุดท้ายโดยให้ถือเป็นการพักงาน แต่เนื่องจากลูกจ้างมีตำแหน่งสำคัญจึงไม่สามารถให้พักงานได้ และว่าถ้าลูกจ้างยังไม่มีการปรับปรุงแก้ไขตนเอง และกระทำความผิดแบบเดียวกันอีก ลูกจ้างจะได้รับการทำโทษถึงขั้นปลดออกจากงานดังนี้เมื่อลูกจ้างกระทำผิดอีก นายจ้างจึงมีเหตุผลที่จะเลิกจ้างลูกจ้างผู้นั้นได้
แม้ใบมอบอำนาจให้ดำเนินคดีของบริษัทนายจ้างจะไม่ได้ประทับตราของบริษัทโดยสมบูรณ์ แต่ต่อมาก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งคดีนี้ บริษัทนายจ้างได้ทำใบมอบอำนาจที่สมบูรณ์ถูกต้องขึ้นใหม่ให้ดำเนินคดีและให้สัตยาบันของการที่ได้ทำไปแล้วในคดีนี้ดังนี้ ถ้ามีผู้อ้างว่าเป็นผู้แทนของนิติบุคคล เมื่อศาลเห็นสมควรจะทำการสอบสวนถึงอำนาจของผู้นั้นก็ได้ เป็นอำนาจที่กฎหมายให้ไว้แก่ศาลโดยกว้าง หากศาลเห็นว่าผู้มอบอำนาจไม่มีอำนาจดังที่อ้างหรือ อำนาจบกพร่อง ศาลมีอำนาจยกฟ้องคดีนั้นเสียหรือมีคำพิพากษาหรือคำสั่งอย่างอื่นได้ตามที่เห็นสมควร เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ฉะนั้น เมื่อบริษัทนายจ้างได้มีหนังสือมอบอำนาจใหม่ถูกต้อง ศาลก็มีอำนาจให้แก้ไขข้อบกพร่องได้ตามอำนาจที่กฎหมายให้ไว้ (อ้างคำพิพากษาฎีกา (ประชุมใหญ่) ที่ 1184/2506)
แม้ใบมอบอำนาจให้ดำเนินคดีของบริษัทนายจ้างจะไม่ได้ประทับตราของบริษัทโดยสมบูรณ์ แต่ต่อมาก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งคดีนี้ บริษัทนายจ้างได้ทำใบมอบอำนาจที่สมบูรณ์ถูกต้องขึ้นใหม่ให้ดำเนินคดีและให้สัตยาบันของการที่ได้ทำไปแล้วในคดีนี้ดังนี้ ถ้ามีผู้อ้างว่าเป็นผู้แทนของนิติบุคคล เมื่อศาลเห็นสมควรจะทำการสอบสวนถึงอำนาจของผู้นั้นก็ได้ เป็นอำนาจที่กฎหมายให้ไว้แก่ศาลโดยกว้าง หากศาลเห็นว่าผู้มอบอำนาจไม่มีอำนาจดังที่อ้างหรือ อำนาจบกพร่อง ศาลมีอำนาจยกฟ้องคดีนั้นเสียหรือมีคำพิพากษาหรือคำสั่งอย่างอื่นได้ตามที่เห็นสมควร เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ฉะนั้น เมื่อบริษัทนายจ้างได้มีหนังสือมอบอำนาจใหม่ถูกต้อง ศาลก็มีอำนาจให้แก้ไขข้อบกพร่องได้ตามอำนาจที่กฎหมายให้ไว้ (อ้างคำพิพากษาฎีกา (ประชุมใหญ่) ที่ 1184/2506)