พบผลลัพธ์ทั้งหมด 22 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 130/2549 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ถือหุ้น/กรรมการบริษัท ไม่มีอำนาจยื่นคำร้องเพิกถอนการขายทอดตลาด หากไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง
จำเลยที่ 1 เป็นบริษัทจำกัดเป็นเจ้าของทรัพย์สินซึ่งเป็นนิติบุคคล แต่ผู้ร้องและผู้ร้องร่วมเป็นเพียงผู้ถือหุ้นและกรรมการของจำเลยที่ 1 ไม่มีอำนาจกระทำการใด ๆ แทนจำเลยที่ 1 ทั้งผู้ร้องและผู้ร่วมไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 309 ทวิ ผู้ร้องและผู้ร้องร่วมมิใช่เป็นบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี จึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 130/2549
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการยื่นคำร้องเพิกถอนการขายทอดตลาดจำกัดเฉพาะเจ้าหนี้/ลูกหนี้/ผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง ผู้ถือหุ้น/กรรมการไม่มีอำนาจ
ผู้ร้องและผู้ร้องร่วมทั้งสองเป็นเพียงผู้ถือหุ้นและกรรมการของจำเลย ไม่มีอำนาจกระทำการใด ๆ แทนจำเลย ทั้งไม่ปรากฏว่าผู้ร้องและผู้ร้องร่วมทั้งสองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลย ผู้ร้องและผู้ร้องร่วมทั้งสองจึงมิใช่บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี ไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 309 ทวิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5385/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการยื่นคำร้องคุมความประพฤติ: ผู้เสียหายไม่มีอำนาจยื่นคำร้องให้ลงโทษจำเลย
ผู้ร้องเป็นเพียงผู้เสียหายมิได้เป็นโจทก์ โจทก์ร่วม หรือพนักงานคุมประพฤติผู้มีอำนาจหน้าที่ทำรายงานเสนอให้ศาลทราบถึงการที่จำเลยผู้ถูกคุมความประพฤติไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติตามที่ศาลกำหนดหรือพฤติการณ์ที่เกี่ยวแก่การคุมความประพฤติของจำเลยผู้ถูกคุมความประพฤติเปลี่ยนแปลงไปตาม พ.ร.บ. วิธีดำเนินการคุมความประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2522 มาตรา 15 ผู้ร้องจึงไม่อาจยื่นคำแถลงและคำร้องในเรื่องดังกล่าวต่อศาลได้ การที่ศาลชั้นต้นรับคำแถลงและคำร้องของผู้ร้องดำเนินการไต่สวนพยานหลักฐานและมีคำสั่งจึงเป็นการสั่ง โดยผิดหลงและเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ ไม่ได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามบทบัญญัติว่าด้วยการพิจารณาคดี ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจที่จะหยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้เพิกถอน คำสั่งและการดำเนินการพิจารณาของศาลชั้นต้นที่ไม่ชอบเสียได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสองประกอบด้วยมาตรา 215 และมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2684/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจมอบอำนาจในการขอคืนของกลาง: อำนาจตามหนังสือมอบอำนาจต้องชัดเจนและครอบคลุมถึงการยื่นคำร้องต่อศาล
ผู้ร้องทำหนังสือมอบอำนาจระบุให้ ส. มีอำนาจทำหนังสือคำร้องคำขอหรือแบบรายการของหน่วยราชการใด ๆ เพื่อขอรับและรับทรัพย์สินของบริษัทจากบุคคล นิติบุคคล หน่วยราชการ พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นการขอรับมาเพื่อเก็บรักษาไว้ชั่วคราวระหว่างดำเนินคดีหรือเป็นการขอรับคืนเมื่อคดีถึงที่สุดแล้วเท่านั้นไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้มอบอำนาจให้ ส. มีอำนาจดำเนินคดีในศาลหรือยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อขอรถยนต์กระบะของกลางคืน ทั้งหากกรณีคดีถึงที่สุดโดยศาลมิได้สั่งริบของกลาง หรือโจทก์มิได้ขอให้ริบของกลาง การขอของกลางหรือทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานยึดไว้เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีคืน ก็หาจำต้องขอคืนต่อศาลไม่ การระบุให้มีอำนาจขอรับทรัพย์สินคืนเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว จึงมิใช่การมอบอำนาจให้ยื่นคำร้องขอรถยนต์กระบะของกลางคืนจากศาล ส.ย่อมไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอรถยนต์กระบะของกลางคืนจากศาลแทนผู้ร้องและไม่มีอำนาจมอบอำนาจช่วงให้ ค. ยื่นคำร้องดังกล่าว ค. จึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องในคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5541/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้บุคคลเป็นคนไร้ความสามารถ: ผู้ร้องต้องเป็นบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้ร้องเป็นเพียงพี่ชายร่วมบิดาของผู้คัดค้าน และไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้มีส่วนปกครองดูแลผู้คัดค้านแต่อย่างใด ผู้ร้องจึงมิได้เป็นผู้ปกครองหรือผู้พิทักษ์ผู้ซึ่งปกครองดูแลผู้คัดค้านอยู่ จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ผู้คัดค้านเป็นคนไร้ความสามารถตาม ป.พ.พ. มาตรา 28
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3304/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการยื่นคำร้องเลิกมูลนิธิ และเหตุขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบในการปกครองท้องที่ตามความแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 97 ดำรงอยู่ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานผู้ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนมีอำนาจอนุญาตให้มูลนิธิที่ได้รับอนุญาตแล้วจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตลอดจนมีอำนาจออกกฎกระทรวงและดูแลมูลนิธิทั้งหลายให้ปฏิบัติตามกฎหมายและตราสารจัดตั้งมูลนิธินั้น ๆ แต่หาได้มีส่วนได้เสียโดยตรงกับมูลนิธิไม่ จึงมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียตามมาตรา 93 ไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเลิกมูลนิธิ
การที่มูลนิธิผู้คัดค้านที่ 1 ร่วมกันกับพวกทำหนังสือกราบบังคมทูลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสละราชสมบัติ และทรงรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นการอาจเอื้อมไม่บังควรอย่างยิ่งและเป็นที่ระคายเคืองต่อเบื้อง ยุคลบาท น่าจะเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอันอาจจะมีผลทำให้ประชาชนที่รู้ข้อความในหนังสือดังกล่าวเดินขบวนในแง่ไม่เห็นด้วย จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งพนักงานอัยการชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้เลิกมูลนิธิได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 93 (1) สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติโดยเลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ มีอำนาจของสภาวัฒนธรรมแห่งชาติตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2485 มาตรา 14 จึงย่อมมีอำนาจสั่งเพิกถอนการอนุญาตที่ให้แก่สมาคมหรือองค์กร ใดซึ่งรวมถึงมูลนิธิด้วยได้
การที่มูลนิธิผู้คัดค้านที่ 1 ร่วมกันกับพวกทำหนังสือกราบบังคมทูลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสละราชสมบัติ และทรงรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นการอาจเอื้อมไม่บังควรอย่างยิ่งและเป็นที่ระคายเคืองต่อเบื้อง ยุคลบาท น่าจะเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอันอาจจะมีผลทำให้ประชาชนที่รู้ข้อความในหนังสือดังกล่าวเดินขบวนในแง่ไม่เห็นด้วย จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งพนักงานอัยการชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้เลิกมูลนิธิได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 93 (1) สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติโดยเลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ มีอำนาจของสภาวัฒนธรรมแห่งชาติตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2485 มาตรา 14 จึงย่อมมีอำนาจสั่งเพิกถอนการอนุญาตที่ให้แก่สมาคมหรือองค์กร ใดซึ่งรวมถึงมูลนิธิด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3424/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมาชิกสภาเทศบาลขาดสมาชิกภาพหลังอุปสมบท และอำนาจการยื่นคำร้องของเทศบาล
พ.ร.บ.เทศบาลพ.ศ.2496มาตรา7วรรคสองบัญญัติให้เทศบาลเป็นทบวงการเมืองมีอำนาจหน้าที่ตามพ.ร.บ.ดังกล่าวและกฎหมายอื่นเทศบาลเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงที่จะต้องดูแลว่าสมาชิกสภาเทศบาลผู้ใดขาดจากสมาชิกภาพหรือไม่เทศบาลจึงมีอำนาจหน้าที่ที่จะยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัยว่าสมาชิกสภาเทศบาลขาดจากสมาชิกภาพของสภาเทศบาลการยื่นคำร้องไม่อยู่นอกขอบวัตถุประสงค์ของหน้าที่เทศบาลและเทศบาลมีอำนาจยื่นคำร้องได้เองโดยไม่ต้องให้นายกเทศมนตรีทำการแทนในนามของนายกเทศมนตรี เมื่อการเป็นพระภิกษุเป็นลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลสมาชิกสภาเทศบาลซึ่งลาไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุเพียงชั่วคราวหลังวันเลือกตั้งจึงมีลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งตามความหมายของพ.ร.บ.เทศบาลพ.ศ.2496มาตรา19(4)เป็นผลให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาเทศบาลผู้นั้นสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่อุปสมบทโดยไม่ต้องคำนึงว่าเป็นการอุปสมบทเพียงชั่วคราวและได้ลาอุปสมบทแล้วหรือไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการถอนฟ้องและการยื่นคำร้องต่อศาล ต้องกระทำโดยคู่ความหรือผู้มีอำนาจตามกฎหมาย
การยื่นคำร้องเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(7) ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ซึ่งจะต้องกระทำโดยคู่ความในคดี บุคคลอื่นที่มิใช่คู่ความในคดีจะกระทำแทนได้ก็เฉพาะแต่กรณีที่มีใบมอบฉันทะจากตัวความหรือทนายความเท่านั้นและคำร้องขอถอนฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฏว่ามีการมอบฉันทะให้ผู้อื่นนำมายื่นแทนโจทก์แต่อย่างใด แต่เมื่อคำร้องขอถอนฟ้องมีลายมือชื่อของทนายโจทก์ซึ่งมีอำนาจถอนฟ้องได้ตามใบแต่งทนายความและไม่ปรากฏว่าคำร้องนั้นได้ยื่นเข้ามาโดยบุคคลผู้ไม่มีอำนาจทั้งจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้วโดยไม่มีข้อคัดค้าน การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง และมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีจึงเป็นการชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2696/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจในการยื่นคำร้องขอคืนของกลางต้องระบุชัดเจนในหนังสือมอบอำนาจ การมอบอำนาจให้รับของกลางจากพนักงานสอบสวนไม่ครอบคลุมถึงการดำเนินคดีต่อศาล
หนังสือมอบอำนาจท้ายคำร้องมีข้อความว่า ".....ให้มีอำนาจในการขอรับเอารถยนต์ไถนาคันดังกล่าวจากพนักงานสอบสวนได้....ฯลฯ" เป็นการมอบอำนาจให้รับรถไถจากพนักงานสอบสวน มิได้มีการมอบอำนาจให้มายื่นคำร้องหรือดำเนินคดีต่อศาลเพื่อขอคืนรถไถของกลาง เมื่อ ก. เจ้าของรถไถมิได้มอบอำนาจให้ ค. ยื่นคำร้องหรือดำเนินคดีต่อศาลเพื่อขอรถไถของกลางคืน ค. จึงไม่มีอำนาจมายื่นคำร้องหรือดำเนินคดีนี้ต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3722/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการยื่นคำร้องตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ ผู้ถือหุ้นไม่มีสิทธิหากไม่ได้รับความเสียหายโดยตรง
บุคคลที่อาจยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ศาลสั่งตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 146 ได้ จะต้องเป็นบุคคลล้มละลาย เจ้าหนี้ หรือบุคคลที่ได้รับความเสียหายโดยการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ในกรณีนี้ผู้ที่หากจะได้รับความเสียหายก็คือบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ผู้ร้องเป็นเพียงผู้ถือหุ้นของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ไม่มีอำนาจกระทำการใด ๆ แทนบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) นอกจากจะมีกฎหมายให้อำนาจผู้ถือหุ้นไว้ดังเช่นมาตรา 1169 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้นผู้ร้องจึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องในกรณีนี้ได้ กฎหมายล้มละลายเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะมิได้ยกความข้อนี้ขึ้นคัดค้านศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้