พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8688/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเรา, อุกอาจ, ไร้มนุษยธรรม, ศาลใช้ดุลพินิจเหมาะสมแล้ว
จำเลยที่ 3 ร่วมกับจำเลยอื่นใช้อาวุธมีดกระทำการหน่วงเหนี่ยวกักขังและกระทำอนาจารต่อผู้เสียหายทั้งสองบนรถยนต์โดยสารประจำทางต่อหน้าผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นก็บังคับพาตัวผู้เสียหายทั้งสองไปแล้วร่วมกันผลัดเปลี่ยนข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายทั้งสองอีกหลายครั้งผู้เสียหายร้องไห้และเพียรพยายามขอร้องจำเลยที่ 3 กับจำเลยอื่นเพื่อหยุดยั้งการกระทำดังกล่าว แต่ก็ไม่เป็นผล จะเห็นว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกับจำเลยอื่นกระทำอย่างอุกอาจมิได้ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง และแสดงให้เห็นถึงสภาพจิตใจที่โหดเหี้ยมทารุณผิดวิสัยมนุษย์อันพึงมีทั้ง ๆ ที่ได้รับการศึกษาสูงพอสมควร เป็นภาพสะท้อนอย่างดีให้เห็นถึงสังคมที่ย่อหย่อนในการอบรมทางด้านศีลธรรม จึงทำให้มีจิตใจแข็งกระด้างไร้มนุษยธรรมเช่นนี้ ประการสำคัญผลจากการกระทำดังกล่าวเป็นการสร้างมลทินและตราบาปให้แก่ลูกผู้หญิงที่บริสุทธิ์ถึงสองคนไปตราบชั่วชีวิต โดยหากปล่อยให้สังคมมีการกระทำที่ป่าเถื่อนและล่วงละเมิดต่อกฎหมายบ้านเมืองอยู่ดังนี้ตลอดไปกฎหมายก็จะไร้ความศักดิ์สิทธิ์ ความสงบสุขในสังคมก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ดังนั้นที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาโดยไม่ลดโทษและมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ 3 ตามมาตรา 78 และ 76 นั้น นับว่าใช้ดุลพินิจในการลงโทษเหมาะสมตามพฤติการณ์แห่งรูปคดีแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดอุกอาจรุนแรงของจำเลย แม้มีการลดโทษแล้ว ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยการรอการลงโทษ
ขณะกระทำความผิดจำเลยอายุ 19 ปี และทำงานเป็นหลักแหล่ง เป็นผู้มีความสำนึกในเรื่องผิดชอบชั่วดีแล้ว แต่จำเลยยังร่วมกับพวกกระทำผิด โดยจำเลยมีอาวุธมีดติดตัวขับรถกระบะให้พวกซึ่งอยู่ท้ายรถกระชากสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองจากผู้เสียหายที่เดินสวนทางมา และขับรถหนีไปด้วยความเร็วสูงเมื่อ ส. พี่ชายของผู้เสียหายทราบเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ให้เพื่อนนั่งซ้อนท้ายไล่ตามจำเลยกับพวกไปที่สุดซอยตัน จำเลยขับรถถอยหลังพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของ ส.ที่จอดขวางทางอยู่จนล้มและส. กระเด็นตกจากรถได้รับบาดเจ็บ แล้วขับรถแล่นหนีไปด้วยความเร็วสูงจนถูกเจ้าพนักงานตำรวจสกัดจับได้ พฤติการณ์ในการกระทำความผิดของจำเลย ถือได้ว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจรุนแรงไม่หวั่นเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง แม้อาของจำเลยจะชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหาย ก็เป็นเพียงการบรรเทาผลร้ายที่ผู้เสียหายและ ส. ได้รับเท่านั้น ไม่อาจลบล้างความผิดที่จำเลยกระทำไว้แล้วได้ การที่ศาลอุทธรณ์ลดมาตราส่วนโทษและลดโทษให้จำเลยลงอีกหนึ่งในสามนั้นนับว่าเป็นคุณแก่จำเลยมากแล้ว การกระทำความผิดของจำเลยนับว่าเป็นภัยต่อสุจริตชนทั่วไป จึงไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษจำเลย