พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ทางโดยถือวิสาสะไม่ถือเป็นการอุทิศเป็นทางสาธารณะ แม้มีการใช้ทางต่อเนื่อง
ที่ดินของโจทก์อยู่ติดกับที่ดินของจำเลยทั้งสองโดยแบ่งแยกมาจากที่ดินแปลงหนึ่งของจำเลยทั้งสอง ส่วนทางพิพาท อยู่ในที่ดินของจำเลยทั้งสองแปลง ทางพิพาทแม้จะมีโจทก์และ ประชาชนใช้เป็นทางผ่านเข้าออกเป็นเวลาช้านานแต่ก็เป็น การใช้โดยถือวิสาสะทั้งโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าเจ้าของที่ดินเดิม และจำเลยทั้งสองได้อุทิศทางพิพาทให้เป็นทางสาธารณะโดยตรง และโดยปริยาย จึงไม่มีผลทำให้ทางพิพาทกลับกลายเป็นทางสาธารณะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3859/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทิศทางให้เป็นสาธารณะโดยปริยายจากการใช้ประโยชน์ต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยมิได้โต้แย้ง
ราษฎรได้ใช้ทางพิพาทมานานเกินกว่า 10 ปี โดยไม่มีผู้ใดอ้างตนเองเป็นเจ้าของและผู้ใช้ทางเดินดังกล่าวก็ไม่ต้องขออนุญาตผู้ใด ถือว่าจำเลยได้อุทิศทางพิพาทให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยายแล้ว ทางพิพาทจึงเป็นทางสาธารณประโยชน์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนบุคคล vs. ทางสาธารณะ: การอุทิศทางเป็นสำคัญ
ทางเดินอยู่ในหน้าโฉนดซึ่งเป็นกรรมสิทธิของเอกชนจะกลับกลายเป็นทางหลวง หรือทางสาธารณะ ต้องมีการอุทิศโดยตรงหรือโดยปริยายอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงแต่ได้ความว่ามีคนเดินผ่านไปมาหลายสิบปีแล้วเท่านั้น หาทำให้ทางนั้นเป็นทางหลวง หรือทางสาธารณะเสมอไปไม่