คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อุบัติเหตุทางเรือ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4192/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางเรือ: ศาลยืนตามราคาเรือและค่าขาดประโยชน์ที่เหมาะสมตามพฤติการณ์
โจทก์ที่ 1 ขายเรือต่อให้โจทก์ที่ 2 โดยโจทก์ที่ 2ผ่อนชำระราคาครบถ้วนแล้ว แต่โจทก์ที่ 1 ยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ที่ 2 จำเลยที่ 2 ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ควบคุมเรือบรรทุกน้ำมันของจำเลยที่ 1 ควบคุมเรือบรรทุกน้ำมันของจำเลยที่ 1 โดยประมาทชนเรือของโจทก์ที่ 1 เสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ และถูกคนร้ายลากจูงไป การที่โจทก์ที่ 1 จะต้องไปหาซื้อเรือต่อลำอื่นที่มีสภาพใกล้เคียงกับเรือต่อลำเกิดเหตุมาจดทะเบียนโอนให้แก่โจทก์ที่ 2 ในราคาที่สูงกว่าราคาค่าเสียหายที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดให้แก่โจทก์ที่ 1 นั้น เป็นเรื่องที่ไกลกว่าเหตุนอกเหนือความรับผิดของจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหายส่วนนั้น ค่าขาดประโยชน์จากการที่โจทก์ที่ 2 ไม่ได้ใช้เรือต่อลำเกิดเหตุเป็นการเรียกค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 วรรคแรก อย่างหนึ่งดังนั้น ศาลชอบที่จะใช้ดุลพินิจกำหนดค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ที่ 2 ตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากอุบัติเหตุทางเรือ: การแบ่งความรับผิดเมื่อทั้งสองฝ่ายประมาท
เหตุที่เรือชนกันเกิดจากการกระทำโดยประมาทของฝ่ายจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย แต่ฝ่ายโจทก์ก็มีส่วนกระทำโดยประมาทก่อให้เกิดความเสียหายด้วยไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเนื่องจากการที่ตัวแทนหรือลูกจ้างของจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ในทางการที่จ้างดังนั้น จำเลยจะต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์มากน้อยเพียงใดก็ต้องพิจารณาว่าความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้นเพราะฝ่ายไหนเป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเพียงไรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 223 ประกอบด้วยมาตรา 442 เมื่อจำเลยให้การว่าเหตุที่เรือชนกันไม่ใช่เพราะความผิดของฝ่ายจำเลยแต่เป็นความผิดของฝ่ายโจทก์ การที่ศาลวินิจฉัยว่าเหตุละเมิดเกิดจากการกระทำโดยประมาทของฝ่ายโจทก์ด้วย จึงเป็นการวินิจฉัยตามข้อต่อสู้ของจำเลยไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2107/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางเรือ แม้จะเกิดจากความประมาทของบุคคลภายนอก
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในฐานะผู้รับขนส่งข้าวสารจากองค์การคลังสินค้าไปลงเรือที่อ่าวไทยเพราะเรือที่จำเลยที่ 1ใช้บรรทุกข้าวสารชนกับเรือของจำเลยที่ 2 จนจมลงและข้าวสารเสียหาย โดยโจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่องค์การคลังสินค้าผู้เอาประกันภัยแล้ว จำเลยที่ 1 ให้การต่อสู้เพียงว่า เมื่อจำเลยที่ 1 รับจ้างขนส่งข้าวสารก็ได้ว่าจ้างจำเลยร่วมทำการขนส่งช่วง และข้าวสารสูญหายเพราะเรือชนกันเป็นความประมาทของเรือของจำเลยที่ 2 ประเด็นพิพาทจึงมีเพียงว่า เหตุละเมิดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของลูกจ้างจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 1 กับจำเลยร่วมต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ จำเลยที่ 1 มิได้ยกเหตุสุดวิสัยขึ้นปฏิเสธความรับผิดแต่อย่างใด ดังนั้นแม้จะฟังว่าข้าวสารเสียหายเพราะความประมาทของผู้ควบคุมเรือของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ในฐานะผู้ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 และ 618

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางเรือ และขอบเขตความรับผิดของตัวแทนเรือ
เรือฉลอมลำน้ำของโจทก์ถูกเรือ อ. ชนจมลงเมื่อวันที่ 11เมษายน 2520 โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าบริษัท ท. เป็นผู้รับประกันวินาศภัยเรือ อ. ขอให้เรียกเข้ามาเป็นจำเลยร่วมเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2523 ซึ่งเป็นเวลากว่าสองปี นับแต่วันวินาศภัย คดีโจทก์สำหรับจำเลยร่วมจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 882
ทนายจำเลยร่วมมีหนังสือถึงโจทก์ว่าเรื่องที่เรือโจทก์เกิดชนกับเรือ อ. และโจทก์ขอเรียกค่าเสียหายได้ส่งเรื่องให้ตัวการคือเจ้าของเรือ อ.พิจารณาต่อไปแล้วจะแจ้งผลการพิจารณาให้โจทก์ทราบภายในเวลาอันสมควรกับได้ให้เจ้าของเรือที่ได้รับความเสียหายส่งสำเนาใบประเมินความเสียหายมาให้รายละ 3 ฉบับนั้น การกระทำของจำเลยร่วมดังกล่าวเป็นเพียงแต่จะพิจารณาเรื่องค่าเสียหายยังไม่เป็นการแน่นอนว่าจะใช้ค่าเสียหายตามที่โจทก์เรียกร้อง จึงไม่เป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัย ตระหนักเป็นปริยายว่าจำเลยร่วมยอมรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 อันจะทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
จำเลยเป็นเพียงตัวแทนเจ้าของเรือต่างประเทศ มีหน้าที่ในการรับขนสินค้าลงจากเรือ ติดต่อดำเนินพิธีการด้านการท่าเรือ การศุลกากรและการตรวจคนเข้าเมือง จำเลยไม่ต้องรับผิดในการที่กัปตันผู้ควบคุมเรือซึ่งเป็นลูกจ้างเจ้าของเรือ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ตัวแทนต้องรับผิดในผลละเมิดที่ลูกจ้างของตัวการได้กระทำไปในหน้าที่การงานของตัวการ ไม่ว่าตัวการจะอยู่ต่างประเทศหรือในประเทศ