พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างที่ปรึกษาเพิกถอนพินัยกรรม: ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยมิได้อ้างในชั้นต้น
จำเลยเป็นบุตรนาง จ. เดิม จ.ทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองยกทรัพย์มรดกให้แก่ น.ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรม ต่อมาจำเลยจ้างโจทก์ให้เป็นที่ปรึกษาและดำเนินการเพื่อให้ จ.เพิกถอนพินัยกรรมฉบับดังกล่าว โจทก์ได้เกลี้ยกล่อมจน จ.ยอมเพิกถอนพินัยกรรมและทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้จำเลย ถือว่าโจทก์ดำเนินการตามสัญญาจ้างเสร็จแล้ว สัญญาที่จำเลยจ้างโจทก์เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่ตกเป็นโมฆะ แม้จำเลยมิได้ยกปัญหานี้ขึ้นอ้างในศาลชั้นต้น แต่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย จำเลยย่อมยกขึ้นอ้างในศาลอุทธรณ์ได้ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 225 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3101/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความทั้งสัญญาจ้างแรงงานและละเมิด ศาลใช้ได้ทั้งสองกรณีเมื่อจำเลยอ้างเหตุขาดอายุความ
การที่จำเลยขับรถไปตามทางการที่จ้างของโจทก์ด้วยความประมาท ถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติผิดสัญญาจ้างแรงงานอย่างหนึ่ง และในขณะเดียวกันก็เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ด้วยแม้จำเลยจะอ้างอายุความเรื่องละเมิด โดยมิได้กล่าวถึงอายุความเรื่องผิดสัญญาขึ้นมาต่อสู้คดีโจทก์ก็ตามแต่จำเลยก็ได้ยกข้อเท็จจริงและเหตุผลที่ว่าเพราะเหตุใดคดีโจทก์จึงขาดอายุความขึ้นมากล่าวไว้ในคำให้การด้วยแล้วว่า มูลหนี้คดีนี้เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2523และโจทก์ได้รู้ถึงวันละเมิดอันหมายความถึงวันเกิดเหตุอันเป็นมูลก่อให้โจทก์มีสิทธิเรียกร้องและรู้ตัวผู้ที่จะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้วตั้งแต่วันนั้น แต่โจทก์นำคดีมาฟ้องเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2536เมื่อนับแต่วันละเมิดถึงวันฟ้องก็เป็นเวลาถึง 12 ปีเศษแล้วจึงพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้ที่จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือพ้นกำหนด10 ปีนับแต่วันทำละเมิด จากข้อเท็จจริงที่ว่านับแต่วันเกิดเหตุซึ่งเป็นวันที่จำเลยปฏิบัติผิดสัญญาจนถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน10 ปี อันเป็นอายุความเรื่องผิดสัญญาจ้างแรงงานรวมอยู่ด้วยดังนี้ถือได้ว่าจำเลยได้อ้างอายุความเรื่องผิดสัญญาจ้างแรงงานขึ้นมาต่อสู้ไว้แล้ว เมื่อคดีโจทก์เป็นทั้งเรื่องผิดสัญญาจ้างแรงงานและละเมิดในขณะเดียวกันดังได้วินิจฉัยไว้แล้วข้างต้น ศาลแรงงานจึงมีอำนาจที่จะยกอายุความเรื่องผิดสัญญาจ้างแรงงานขึ้นมาปรับแก่คดีโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3852/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุเลิกจ้างต้องตรงกับที่ระบุในคำสั่ง หากไม่ตรง จำเลยต้องจ่ายค่าชดเชย
เหตุที่จำเลยถือเป็นข้ออ้างในการเลิกจ้างโจทก์ปรากฏตามคำสั่งของโจทก์เรื่องเลิกจ้างพนักงานแล้ว การที่จำเลยอ้างเหตุต่าง ๆ ที่มิได้ระบุไว้ในคำสั่งเลิกจ้างนั้นมาในคำให้การ จึงมิใช่เหตุที่จำเลยจะนำมาใช้อ้างในการเลิกจ้างโจทก์ได้ ข้ออ้างตามคำให้การของจำเลยดังกล่าวจึงไม่เป็นสาระแก่คดี ชอบที่ศาลจะไม่รับวินิจฉัยให้ และเมื่อเหตุที่จำเลยอ้างในคำสั่งเลิกจ้างนั้น มิใช่เหตุที่จำเลยจะเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดพิจารณา - คำขอพิจารณาใหม่ - อ้างเหตุนอกเหนือชั้นฎีกา
ศาลพิพากษาในคดีที่จำเลยขาดนัดพิจารณา คำขอให้พิจารณาใหม่ต้องยื่นภายใน 15 วัน นับจากวันส่งคำบังคับให้จำเลยพฤติการณ์นอกเหนืออ้างขึ้นในชั้นฎีกาศาลไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวิวาทและการอ้างเหตุป้องกันตัว: กรณีที่ผู้ก่อเหตุเป็นฝ่ายเริ่มวิวาท ย่อมไม่อ้างเหตุป้องกันตัวได้
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย แต่มูลเหตุเนื่องมาจากวัวของผู้ตายเข้าไปกินข้าวในนาจำเลย จึงเกิดการวิวาทต่อว่าและด่ากันระหว่างจำเลยกับภรรยาผู้ตายซึ่งลุกลามไปถึงขั้นใช้อาวุธและพลกำลังทำร้ายซึ่งกัน ในขณะนั้นผู้ตายเข้ามาช่วยภรรยาต่อสู้กับจำเลยแล้วทั้งจำเลยและผู้ตายต่างชักปืนออกมา แต่จำเลยยิงผู้ตายเสียก่อน ดังนี้ เมื่อเป็นเรื่องสมัครใจวิวาทกัน จำเลยจะอ้างเหตุป้องกันตัวมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม: การอ้างเหตุรับมรดกสองประการ และสิทธิครอบครองปรปักษ์
โจทก์ฟ้องขอให้แสดงกรรมสิทธิที่ดิน โดยบรรยายฟ้องใจความว่า โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกเจ้าของกรรมสิทธิที่ดิน จำเลยไม่ใช่ทายาทไม่มิสิทธิรับมรดกแต่แม้จะฟังว่าจำเลยเป็นทายาท โจทก์ก็ได้ครอบครองเป็นเจ้าของที่เกิน 10 ปีแล้ว ฟ้องของโจทก์เช่นนี้เป็นการแสดงสิทธิโดยอ้างเหตุ 2 ประการ ซึ่งจำเลยเข้าใจและสามารถต่อสู้คดีได้ดี ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 130/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการอ้างเหตุในชั้นฎีกา: ต้องเคยยกในชั้นต้น หรือเป็นเรื่องความสงบเรียบร้อย
ข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกานั้นต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้น หรือเป็นข้อที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือมีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้
ปัญหาที่ว่าการตั้งตัวแทนไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือศาลจะรับฟังไม่ได้นั้นไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ปัญหาที่ว่าการตั้งตัวแทนไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือศาลจะรับฟังไม่ได้นั้นไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน