พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยของบุตรผู้เกิดจากบิดามารดาต่างด้าวที่เข้ามาในไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
แม้โจทก์ทั้งสิบสองจะเกิดในราชอาณาจักรไทยแต่ก็เป็นบุตรนายย. ซึ่งเป็นคนญวนอพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยมิชอบแล้วได้อยู่กินเป็นสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสกับนาง ว.ซึ่งเกิดที่จังหวัดสกลนครและมีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแม้โจทก์ที่1ถึงที่8และโจทก์ที่9ถึงที่12จะมิได้ถูกถอนสัญชาติไทยและมิได้ถูกจำกัดมิให้ได้รับสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่337แต่โจทก์ทั้งสิบสองก็เป็นผู้ไม่ได้รับสัญชาติไทยตามมาตรา7ทวิวรรคหนึ่ง(3)แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติพ.ศ.2508ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ(ฉบับที่2)พ.ศ.2535มาตรา5เพราะพระราชบัญญัติสัญชาติ(ฉบับที่2)พ.ศ.2535มาตรา11บัญญัติให้การแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวมีผลใช้บังคับกับผู้เกิดก่อนวันที่พระราชบัญญัติฉบับนี้ใช้บังคับด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5834/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์สัญชาติไทยโดยการเกิด แม้ไม่มีเอกสารหลักฐานทะเบียนราษฎร์ครบถ้วน ศาลพิจารณาจากพยานบุคคลและพยานแวดล้อมได้
โจทก์เดินทางจากประเทศจีนมาประเทศไทย และยื่นคำร้องขอพิสูจน์สัญชาติต่อเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองยกคำร้อง โจทก์จึงฟ้องศาล เมื่อโจทก์พิสูจน์ได้ว่า โจทก์เกิดในประเทศไทยโจทก์จึงได้สัญชาติไทยโดยการเกิดเป็นบุคคลสัญชาติไทย ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2456 มาตรา 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์สัญชาติไทยโดยการเกิดในราชอาณาจักรไทยจากหลักฐานภาพถ่าย พยานบุคคล และเอกสารประกอบ
พยานบุคคลของผู้ร้องต่างเบิกความสอดคล้องต้องกันและตรงตามเอกสารโดยเฉพาะภาพถ่ายของผู้ร้องและมารดาถ่ายในขณะผู้ร้องยังเป็นเด็กและตามภาพถ่ายปรากฏชื่อร้านที่ถ่ายเป็นภาษาไทย ณที่ผู้ร้องอยู่จึงทำให้น้ำหนักคำพยานผู้ร้องมีเหตุผลน่าเชื่อถือ แม้ใบรับแจ้งการเกิดและสูติบัตรไม่ระบุชื่อและนามสกุลผู้เกิด แต่ก็ได้ระบุที่เกิด ชื่อบิดากับมารดาผู้เกิดตรงกับพยานหลักฐานอื่น ๆของผู้ร้อง จึงน่าเชื่อว่าผู้ที่เกิดตามใบรับแจ้งการเกิดและสูติบัตรคือตัวผู้ร้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2901/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทย: การไม่ได้สัญชาติสำหรับผู้เกิดในไทยจากบิดามารดาที่เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
ตาม พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วได้ให้เพิ่มเติมมาตรา 7 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.2508 และให้มาตรา 7 ทวิ ที่เพิ่มเติมนี้ใช้บังคับด้วยดังนั้น โจทก์ที่ 1 ซึ่งในขณะเกิดบิดาตามความเป็นจริงและมารดาเป็นคนต่างด้าวผู้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ย่อมไม่ได้สัญชาติไทย ตามมาตรา 7 ทวิ วรรคแรก และถูกถือว่าเป็นผู้ที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสาม
ในขณะที่โจทก์ที่ 2 ถึงทึ่ 5 เกิด บิดาตามความเป็นจริงเป็นคนต่างด้าวผู้ที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองและมารดาคือโจทก์ที่ 1เป็นคนต่างด้าวผู้ถือว่าเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง แม้โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 เกิดในราชอาณาจักรไทยก็ไม่ได้รับสัญชาติไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 มาตรา 7 ทวิ วรรคหนึ่ง ประกอบวรรคสามซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ(ฉบับที่ 2) มาตรา 5 ประกอบมาตรา 11
ในขณะที่โจทก์ที่ 2 ถึงทึ่ 5 เกิด บิดาตามความเป็นจริงเป็นคนต่างด้าวผู้ที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองและมารดาคือโจทก์ที่ 1เป็นคนต่างด้าวผู้ถือว่าเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง แม้โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 เกิดในราชอาณาจักรไทยก็ไม่ได้รับสัญชาติไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 มาตรา 7 ทวิ วรรคหนึ่ง ประกอบวรรคสามซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ(ฉบับที่ 2) มาตรา 5 ประกอบมาตรา 11
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 147/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์สัญชาติไทยโดยการเกิด: หลักฐานภาพถ่าย, พยานเบิกความ, และการพิจารณาความจำเป็นในการแสดงหลักฐานเท็จในต่างประเทศ
ผู้ร้องมีสำเนาทะเบียนนักเรียนว่าผู้ร้องเป็นบุตร ส. กับผ.อยู่ที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเกิดวันที่ 30 มีนาคม 2481 และมีบุคคลหลายคนรู้จักผู้ร้องตั้งแต่ผู้ร้องยังเป็นเด็กว่าผู้ร้องเกิดในประเทศไทย ขณะ ผ. จะคลอดผู้ร้องนั้น ล. เป็นคนตามแพทย์มาทำคลอด และเห็นผู้ร้องวิ่งเล่นที่บ้านของ ล.เป็นประจำ จนกระทั่งผู้ร้องอายุ 8 ขวบ ป. เจ้าของร้านถ่าย รูปฉายาธงชัย กับ บ. ผู้ล้างและอัดรูปของร้านดังกล่าวยืนยันว่ารูปถ่าย หมาย ร.12,13,14ถ่ายที่ร้านฉายาธงชัย(ถ่าย ก่อนผู้ร้องเดินทางออกจากประเทศไทย) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนิติเวช มีความเห็นว่า น่าเชื่อว่าบุคคลตามภาพถ่ายหมาย ร.12 ถึงร.21เป็นบุคคลคนเดียวกันภาพถ่ายหมายร.21 เป็นภาพถ่ายของผู้ร้องซึ่งถ่าย ในประเทศไทย เมื่อ 2526 ดังนั้น จึงน่าเชื่อว่า ผู้ร้องเกิดในประเทศไทย ส่วนหลักฐานต่าง ๆ ที่ผู้ร้องทำขึ้นในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้นก็เพราะความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยและประโยชน์ของผู้ร้องขณะที่อยู่ในประเทศนั้น เมื่อผู้ร้องเป็นคนเกิดในประเทศไทยย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิดตาม พ.ร.บ. สัญชาติฯ มาตรา 3(3).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3860/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยโดยการเกิดในราชอาณาจักรไทย แม้บิดามารดาถูกถอนสัญชาติภายหลัง สิทธิสัญชาติของบุตรยังคงอยู่
การที่จำเลยที่ 1 อ้างว่า โจทก์ที่ 1 เป็นคนต่างด้าว ถูกถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 เป็นบุตร จึงถูกถอนสัญชาติไทยด้วย และไม่ยอมออกบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่โจทก์ที่ 4 ถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิเรื่องสัญชาติของโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 แล้ว โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5จึงมีอำนาจฟ้อง บุคคลที่เกิดในราชอาณาจักรไทยจะถูกถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2515 นั้นจะต้องปรากฏว่าบุคคลนั้นมีบิดาเป็นคนต่างด้าว หรือมารดาเป็นคนต่างด้าว แต่ไม่ปรากฏบิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย การที่โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 เกิดในราชอาณาจักรไทยโดยขณะที่เกิดนั้นโจทก์ที่ 1 ผู้เป็นมารดาเป็นคนสัญชาติไทยโดยการเกิดในราชอาณาจักรไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 มาตรา 7(3) โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5จึงได้สัญชาติไทยโดยการเกิดในราชอาณาจักรไทยด้วย แม้ภายหลังโจทก์ที่ 1 ถูกถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337ก็หาเป็นผลให้โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 ต้องถูกถอนสัญชาติไทยไปด้วยไม่ การจะออกบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ผู้ใดนั้นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายจะต้องพิจารณาว่าผู้ยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชน มีหลักเกณฑ์ครบถ้วนตามกฎหมายเสียก่อนศาลจึงไม่อาจบังคับให้จำเลยทั้งสามซึ่งเป็นพนักงานผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายออกบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่โจทก์ที่ 4 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3740/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยโดยการเกิดในราชอาณาจักรไทย แม้บิดาเป็นชาวต่างชาติ การสั่งให้ทำบัตรคนญวนอพยพเป็นการละเมิดสิทธิ
โจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะหัวหน้าสำนักกิจการญวนจังหวัดนครพนมซึ่งโต้แย้งสิทธิของโจทก์ว่า โจทก์มิใช่คนสัญชาติไทย แต่เป็นคนสัญชาติญวนและสั่งให้โจทก์ทำบัตรประจำตัวคนญวนอพยพ แม้สำนักกิจการญวนจังหวัดนครพนมจะมิใช่นิติบุคคล โจทก์ก็ฟ้องจำเลยในฐานะผู้ครองตำแหน่งดังกล่าวซึ่งโต้แย้งสิทธิของโจทก์ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 เกิดในราชอาณาจักรไทยและมีมารดาคือโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นคนมีสัญชาติไทย โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 จึงเป็นคนมีสัญชาติไทย การที่ ต.คนสัญชาติญวนเป็นบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 และโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ให้จดแจ้งชื่อโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 ในทะเบียนบ้านญวนอพยพตามคำสั่งจำเลย มิใช่หลักฐานที่แสดงว่าโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 มิใช่คนสัญชาติไทย การที่จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 แจ้งชื่อให้เจ้าหน้าที่จดแจ้งในทะเบียนบ้านญวนอพยพและให้ทำบัตรประจำตัวคนญวนอพยพจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบและเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 ซึ่งเป็นคนมีสัญชาติไทย
โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 เกิดในราชอาณาจักรไทยและมีมารดาคือโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นคนมีสัญชาติไทย โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 จึงเป็นคนมีสัญชาติไทย การที่ ต.คนสัญชาติญวนเป็นบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 และโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ให้จดแจ้งชื่อโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 ในทะเบียนบ้านญวนอพยพตามคำสั่งจำเลย มิใช่หลักฐานที่แสดงว่าโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 มิใช่คนสัญชาติไทย การที่จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 แจ้งชื่อให้เจ้าหน้าที่จดแจ้งในทะเบียนบ้านญวนอพยพและให้ทำบัตรประจำตัวคนญวนอพยพจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบและเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 7 ซึ่งเป็นคนมีสัญชาติไทย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยโดยการเกิด: บุตรนอกกฎหมายของคนไทยและคนต่างด้าว ไม่ต้องทำบัตรคนญวนอพยพ
จำเลยเกิดจากบิดามารดาที่มิได้จดทะเบียนสมรสกันจึงไม่ใช่บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดาเมื่อปรากฏว่าจำเลยเกิดในราชอาณาจักรไทยโดยมารดามีสัญชาติไทยย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิดตามมาตรา7แห่งพ.ร.บ.สัญชาติการที่บิดาจำเลยเป็นคนญวนอพยพไม่ทำให้จำเลยเป็นคนญวนอพยพที่จะถูกถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่337และไม่ต้องทำบัตรประจำตัวคนญวนอพยพตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4316/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์สัญชาติของผู้เกิดในไทยที่มีชื่อในทะเบียนคนญวนอพยพ การใช้สิทธิทางศาลภายใต้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง
ผู้ร้องเป็นบุตรของหญิงสัญชาติไทยกับชายญวนอพยพ ซึ่งเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ร้องเกิดในประเทศไทยและต่อมาถูกถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่337 ดังนี้ ผู้ร้องไม่ใช่ ผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ไม่มีข้อโต้แย้ง เกี่ยวกับการเข้าเมือง จะมาใช้สิทธิทางศาลร้องขอพิสูจน์สัญชาติตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 57 ไม่ได้ หากเห็นว่า การถูกเพิกถอนสัญชาติเป็นไปโดยมิชอบประการใด ก็ชอบที่จะฟ้อง ผู้ที่โต้แย้งสิทธิเป็นคดีมีข้อพิพาทต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเกิดในไทยและสัญชาติ: การเสียสัญชาติด้วยการถือเอกสารคนต่างด้าว
ผู้ร้องเกิดในประเทศไทย จึงได้สัญชาติไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2408 มาตรา 7(3) การที่ผู้ร้องซึ่งมีสัญชาติเป็นไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรไทย โดยมีบิดาเป็นคนต่างด้าว จะเสียสัญชาติไทยตามความในมาตรา 21 ก็ต่อเมื่อได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าวแล้ว แม้ผู้ร้องได้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรโดยขอรับใบแสดงหลักฐานการแจ้งออกเพื่อเข้ามาในราชอาณาจักร (แบบ ต.ม.1) ซึ่งเป็นแบบที่เจ้าหน้าที่จะออกให้แก่ผู้ขอที่เป็นคนต่างด้าว แต่เอกสารดังกล่าวนี้หาใช่ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำคนต่างด้าวไม่ ผู้ร้องจึงไม่เสียสัญชาติไทย