พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 430/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกโฉนดที่ดินในเขตหวงห้าม: ศาลเพิกถอนคำสั่งไม่ออกโฉนด หากราษฎรครอบครองก่อนการหวงห้าม
บ. ครอบครองที่ดินพิพาทมาตั้งแต่ปี 2468 โจทก์ทั้งสองเข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทต่อจาก บ. และทายาท บ. แม้ที่ดินพิพาทจะอยู่ในเขตพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตต์หวงห้ามที่ดิน ฯ พ.ศ. 2481 แต่เป็นที่ดินซึ่งราษฎรเข้าครอบครองทำประโยชน์ก่อนการหวงห้ามในปี 2481 จึงไม่ต้องห้ามที่จะออกโฉนดที่ดินให้โจทก์ทั้งสองตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความใน พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 หมวด 3 ข้อ 14 (4) คำสั่งของจำเลยที่ไม่ออกโฉนดที่ดินให้โจทก์ทั้งสอง จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องคดีเพื่อมุ่งประสงค์จะขอให้ใช้อำนาจศาลบังคับให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่ไม่ออกโฉนดที่ดินให้โจทก์ทั้งสอง การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยเพิกถอนคำสั่งของจำเลยเองที่ไม่ออกโฉนดที่ดินให้โจทก์ทั้งสองเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง
การที่ศาลล่างทั้งสองบังคับให้จำเลยดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้โจทก์ทั้งสอง หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยนั้น ไม่อาจทำได้เพราะไม่ใช่กรณีที่ศาลบังคับจำเลยให้กระทำนิติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง
โจทก์ฟ้องคดีเพื่อมุ่งประสงค์จะขอให้ใช้อำนาจศาลบังคับให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่ไม่ออกโฉนดที่ดินให้โจทก์ทั้งสอง การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยเพิกถอนคำสั่งของจำเลยเองที่ไม่ออกโฉนดที่ดินให้โจทก์ทั้งสองเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง
การที่ศาลล่างทั้งสองบังคับให้จำเลยดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้โจทก์ทั้งสอง หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยนั้น ไม่อาจทำได้เพราะไม่ใช่กรณีที่ศาลบังคับจำเลยให้กระทำนิติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยทำลายต้นกล้วยของโจทก์ในที่ดินพิพาท แม้ที่ดินอยู่ในเขตหวงห้าม แต่โจทก์เป็นเจ้าของทรัพย์สิน
ที่ดินพิพาทที่โจทก์ครอบครองเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินภายในแนวเขตหวงห้ามตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน โจทก์ปลูกต้นกล้วยไว้ในที่ดินพิพาท ต้นกล้วยเป็นไม้ล้มลุกไม่เป็นส่วนควบกับที่ดิน โจทก์จึงเป็นเจ้าของต้นกล้วยเหล่านั้นจำเลยที่ 5 เข้าไปไถที่พิพาททั้ง ๆ ที่รู้แล้วว่าต้นกล้วยที่ปลูกอยู่ในที่พิพาทเป็นของโจทก์ ทำให้ต้นกล้วยเสียหาย จึงมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 584/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินในเขตหวงห้ามและการมีอำนาจฟ้องคดีบุกรุก กรณีผู้ฟ้องไม่มีสิทธิครอบครอง
ที่พิพาทอยู่ในเขตหวงห้ามของทางราชการ โจทก์เข้าครอบครองเฉพาะฤดูฝนเพื่อปลูกพืชโดยพลการ สิ้นฤดูฝนแล้วก็มิได้ครอบครองและมิได้ล้อมรั้วกั้นเขตไว้ ขณะเกิดเหตุเป็นฤดูแล้ง โจทก์ไม่ได้ครอบครองที่พิพาท จึงไม่มีสิทธิหวงห้ามบุคคลอื่นใดมิให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาทได้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 584/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินในเขตหวงห้ามและการมีอำนาจฟ้องคดีบุกรุก การครอบครองเฉพาะฤดูกาลไม่ถือเป็นการครอบครองตามกฎหมาย
ที่พิพาทอยู่ในเขตหวงห้ามของทางราชการ โจทก์เข้าครอบครองเฉพาะฤดูฝนเพื่อปลูกพืชโดยพลการ สิ้นฤดูฝนแล้วก็มิได้ครอบครองและมิได้ล้อมรั้วกั้นเขตไว้ขณะเกิดเหตุเป็นฤดูแล้ง โจทก์ไม่ได้ครอบครองที่พิพาท จึงไม่มีสิทธิหวงห้ามบุคคลอื่นใดมิให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาทได้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 405-410/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงประโยชน์ที่ดินสาธารณประโยชน์: อำนาจรัฐบาลในการกำหนดเขตหวงห้ามใหม่ ย่อมลบล้างการหวงห้ามเดิม
เดิมอำเภอได้ประกาศหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าไว้สำหรับราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ร่วมกัน ต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่รกร้างว่างเปล่าบริเวณเดียวกันนั้นเพื่อประโยชน์ราชการทหาร ที่รกร้างว่างเปล่าน้นก็ยังคงเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่าอยู่ในสภาพเดิม เป็นแต่เปลี่ยนประโยชน์ที่ใช้เสียใหม่จากการใช้สำหรับราษฎรเลี้ยงสัตว์มาเป็นใช้ประโยชน์ในราชการทหาร การหวงห้ามเดิมย่อมหมดสภาพไป ทั้งตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามนั้นก็กำหนดให้เจ้ากรมแผนที่เป็นเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการหวงห้ามที่ดินตามพระราชกฤษฎีกานั้นด้วย ดังนี้อำเภอย่อมไม่มีหน้าที่ดูแลตรวจตราที่ดินนั้นต่อไป นายอำเภอจึงไม่มีอำนาจสั่งให้จำเลยออกจากที่ดินในเขตหวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกานั้น เมื่อจำเลยฝ่าฝืนหามีความผิดฐานขัดคำสั่งนายอำเภอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีตัดไม้หวงห้าม ต้องระบุชัดแจ้งว่าป่าที่ตัดเป็นเขตหวงห้ามที่ได้รับการประกาศแล้ว
กฎข้อบังคับวางระเบียบจัดการรักษาป่า พ.ศ. 2456 ข้อ 2 17
ประกาศสมุทเทศาภิบาลว่าป่าที่ใดเป็นเขตต์หวงห้ามตัดไม้เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้อง เมื่อ โจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องก็ไม่มีประเด็นที่ โจทก์จะนำสืบในข้อนี้ คดีเช่นนี้ ศาลต้องยกฟ้อง กล่าวในฟ้องว่า จำเลยตัดไม้ประเทภหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตและสียค่าภาคหลวงเท่านั้นยังไม่พอที่จะทำให้เข้าใจได้ว่าป่าที่ตัดไปนั้นเป็นเขตต์หวงห้าม อ้างฎีกา 1525/2482
ประกาศสมุทเทศาภิบาลว่าป่าที่ใดเป็นเขตต์หวงห้ามตัดไม้เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้อง เมื่อ โจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องก็ไม่มีประเด็นที่ โจทก์จะนำสืบในข้อนี้ คดีเช่นนี้ ศาลต้องยกฟ้อง กล่าวในฟ้องว่า จำเลยตัดไม้ประเทภหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตและสียค่าภาคหลวงเท่านั้นยังไม่พอที่จะทำให้เข้าใจได้ว่าป่าที่ตัดไปนั้นเป็นเขตต์หวงห้าม อ้างฎีกา 1525/2482
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีตัดไม้ในเขตหวงห้าม ต้องระบุประกาศเขตหวงห้ามในฟ้อง หากไม่ระบุ ถือเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์มิได้กล่าวอ้าง
ประกาศสมุหเกศาภิบาลว่าป่าที่ใดเป็นเขตต์หวงห้ามตัดไม้ เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้อง+เมื่อ โจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องก็ไม่มีประเด็นที่โจทก์จะนำสืบในข้อนี้ คดีเช่นนี้ศาลต้องยกฟ้อง กล่าวในฟ้องว่า จำเลยตัดไม้ประเภทหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสียค่าภาคทบวงเท่านั้น ยังไม่พอจะทำให้เข้าใจได้ว่าป่าที่ตัดไม้นั้นเป็นเขตต์หวงห้าม อ้างฎีกา ที่ 1525/2482
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 904/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดใบอนุญาตขับขี่เกินหน้าที่: นายทะเบียนต้องรับผิดค่าเสียหาย
เพียงแต่นำรถเข้าไปในเขตต์หวงห้าม ไม่เป็นเหตุให้ริบใบขับขี่
นายทะเบียนทำเกินหน้าที่ต้องรับผิด
ค่าเสียหายโดยตรง
นายทะเบียนทำเกินหน้าที่ต้องรับผิด
ค่าเสียหายโดยตรง