คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เข้าร่วม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5794/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเข้าร่วมการกระทำผิดค้ายาเสพติด แม้ไม่ได้ครอบครองยาเสพติดโดยตรง ก็ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
พฤติการณ์ของจำเลยที่ 3 ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการซื้อขายเมทแอมเฟตามีนของกลางนับแต่การที่จำเลยที่ 3 ร่วมเดินทางกับจำเลยที่ 1 และที่ 2ไปพบตำรวจที่ปลอมตัวเป็นผู้ซื้อที่จุดนัดพบ เมื่อตำรวจขอให้จำเลยที่ 1 ไปส่งมอบเมทแอมเฟตามีนให้ที่บ้านเช่าที่เกิดเหตุ จำเลยที่ 3 ก็ได้ร่วมเดินทางตามไปที่บ้านดังกล่าวด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่เข้าไปอยู่ในบ้าน เมื่อจำเลยที่ 1นำเมทแอมเฟตามีนออกส่งมอบให้ตำรวจตรวจนับดูว่าครบจำนวนที่จะซื้อขายกันหรือไม่จำเลยที่ 3 ก็ได้นั่งล้อมวงดูอยู่ด้วย และขณะตำรวจนับไปได้ 4 ถึง 5 เม็ดจำเลยที่ 3 ยังพูดรับรองว่าไม่ต้องนับหรอกของที่เอามาเต็มจำนวน แสดงให้เห็นโดยชัดเจนว่า จำเลยที่ 3 ได้รู้เห็นและมีเจตนาร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายมาตั้งแต่ต้น แม้จะมิได้เป็นผู้ครอบครองเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวด้วยตนเองก็รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยที่ 3 ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7423/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเข้าร่วมทำร้ายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ถือมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายมีเรื่องโต้เถียงกับจำเลยที่ 6 ต่อมาจำเลยที่ 6 กับพวกรวมทั้งจำเลยที่ 5 วิ่งไล่ทำร้ายผู้เสียหายและเข้าทำร้ายผู้ตายโดยเข้าใจว่าเป็นพวกผู้เสียหาย การเข้ากลุ้มรุมทำร้ายเช่นนี้ มิใช่ต่างคนมาพบและทำร้ายผู้ตายโดยลำพัง แต่มีเจตนาวิ่งไล่ตามทำร้ายผู้เสียหายมาด้วยกันตั้งแต่แรกแล้วและเมื่อมีเจ้าพนักงานตำรวจมาพบก็วิ่งหนีไปด้วยกัน ย่อมฟังว่าจำเลยทุกคนมีเจตนาร่วมกันทำร้ายผู้ตาย เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายเนื่องจากการร่วมกันทำร้ายนั้น แม้การกระทำของจำเลยที่ 5 จะไม่อาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ก็ตาม จำเลยที่ 5ก็ย่อมต้องได้รับผลจากการตายของผู้ตายนั้นด้วย จำเลยที่ 5 มิได้มีเจตนาฆ่าผู้ตายแต่การร่วมกับพวกทำร้ายผู้ตายจนเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 5 จึงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505-506/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกระทำความผิดฐานพรากผู้เยาว์ ต้องเป็นการเข้าร่วมขณะเกิดเหตุ หากไม่มีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น ไม่เป็นตัวการ
การเข้าร่วมกระทำความผิดด้วยกันที่กฎหมายบัญญัติว่าเป็นตัวการนั้นจะต้องเป็นการเข้าร่วมในระหว่างที่มีการกระทำความผิดเมื่อไม่ปรากฎว่าระหว่างที่ อ.กับ น. ไปรับผู้เสียหายออกมาจากบ้านจนถึงเวลาที่นำผู้เสียหายไปยังบ้านที่เกิดเหตุนั้นจำเลยทั้งสองได้มีส่วนร่วมรู้เห็นหรือร่วมกระทำการดังกล่าวด้วยแต่อย่างใดทั้งการที่ อ.กับ น.จะพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ไม่ปรากฎว่าจำเลยทั้งสองร่วมคบคิดหรือนัดแนะกับ อ. และ น. อยู่ก่อนแล้วดังนี้แม้จำเลยทั้งสองได้ตามไปยังบ้านที่เกิดเหตุและได้ร่วมประเวณีกับผู้เสียหายจริงก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นตัวการร่วมกับ อ. และ น. พาผู้เสียหายไปในคืนเกิดเหตุจำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2241/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่ให้ความช่วยเหลือการกระทำผิดของผู้อื่น ไม่ถือเป็นเจตนาเข้าร่วมกระทำผิด
จำเลยที่ 1 กับผู้ตายเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อนวันเกิดเหตุจำเลยทั้งสองพบกับผู้ตายและ ว. โดยบังเอิญ จำเลยที่ 1 ใช้ ท่อนไม้ไล่ตีผู้ตาย จำเลยที่ 2 ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายไม่ได้ร่วมไล่ตีด้วย แต่เมื่อ ว. หยิบไมผู้ตายจำเลยที่ 2 หยิบไม้คานมาถือ และห้ามไม่ให้ ว. ไปช่วย ผู้ตายจึงเป็นการให้ความช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ในการกระทำผิด จำเลยที่ 2 หามีเจตนาร่วมกระทำผิดด้วยไม่ เมื่อผู้ตายถูกจำเลยที่ 1 ตีตาย จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 86

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเข้าร่วมทำร้าย: การยืนดูเฉยๆ โดยไม่มีพฤติการณ์สนับสนุน ไม่ถือเป็นความร่วมมือ
จำเลยรู้ว่า จ. กับพวกจะไปทำร้ายผู้เสียหาย จึงเดินตาม จ.กับพวกไปที่บ้าน ม. ซึ่งผู้เสียหายกำลังซ้อมดนตรีอยู่กับ ม.และพวก จ. กับพวกอีก 2 คน ขึ้นไปบนบ้านและใช้ไม้ตีทำร้ายผู้เสียหาย ส่วนจำเลยยืนดูอยู่เฉย ๆ ข้างล่างห่างที่เกิดเหตุประมาณ 6 - 10 เมตร ไม่ได้แสดงกริยาอาการจะเข้าร่วมทำร้ายผู้เสียหาย เมื่อไม่ปรากฏว่า จำเลยเป็นพรรคพวกของ จ. และมีเจตนาร่วมกับ จ. ทำร้ายผู้เสียหายมาแต่แรก แม้หลังจากเกิดเหตุแล้วจำเลยจะเดินตาม จ. กับพวกไปก็ตาม ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาร่วมกับ จ. ทำร้ายผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเข้าร่วมทำร้าย - พยานหลักฐานต้องชัดเจน - การเดินตามไม่ใช่ความผิด - ไม่มีพิรุธ
จำเลยรู้ว่า จ. กับพวกจะไปทำร้ายผู้เสียหาย จึงเดินตามจ. กับพวกไปที่บ้าน ม. ซึ่งผู้เสียหายกำลังซ้อมดนตรีอยู่กับ ม. และพวก จ. กับพวกอีก 2 คน ขึ้นไปบนบ้านและใช้ไม้ตีทำร้ายผู้เสียหาย ส่วนจำเลยยืนดูอยู่เฉย ๆ ข้างล่างห่างที่เกิดเหตุประมาณ 6-10 เมตร ไม่ได้แสดงกิริยาอาการจะเข้าร่วมทำร้ายผู้เสียหาย เมื่อไม่ปรากฏว่า จำเลยเป็นพรรคพวกของ จ.และมีเจตนาร่วมกับ จ. ทำร้ายผู้เสียหายมาแต่แรก แม้หลังจากเกิดเหตุแล้วจำเลยจะเดินตาม จ. กับพวกไปก็ตาม ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาร่วมกับ จ. ทำร้ายผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2241/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชุลมุนวิวาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การเข้าร่วมการต่อสู้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
ใช้สิ่งของขว้างปากับกลุ่มคนที่ทะเลาะวิวาทกัน เป็นการเข้าร่วมในการชุลมุนวิวาทด้วย เมื่อเป็นเหตุให้มีคนตาย เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 294

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเข้าร่วมกระทำผิด vs. เพียงอยู่ด้วยเฉยๆ ในคดีทำร้ายและฆ่าผู้อื่น
จำเลยที่ 1 ได้ร่วมไปกับ ค.และพวก บังคับขอเงินจาก ส.และ สุ. จนเกิดเหตุ ค.ใช้ขวานฟัน ส.แล้วหนีไปกับ ค.และพวก ต่อมาจำเลยที่ 1 มีอาวุธปืนมาด้วยกับ ค.และพวก เพื่อจะทำร้าย ส.และ สุ. อีก เมื่อผู้ตายซึ่งเป็นพวกของ ส.และ สุ. ขัดขวาง ค.กับพวกใช้ปืนยิงผู้ตาย แม้จะไม่ได้ความว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนยิงผู้ตายก็ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เจตนาร่วมกับ ค.และพวกกระทำผิด ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่ได้อยู่ในวิวาทครั้งแรก ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ไม่มีอาวุธปืน การที่จำเลยที่ 2 เพียงแต่มาด้วยกับ ค.และพวกในครั้งหลังเท่านั้น ไม่มีข้อเท็จจริงให้เห็นว่าก่อน-หน้านั้นได้มีการสมคบจะมาทำร้ายหรือฆ่าผู้ตายอย่างใด ขณะเกิดเหตุคงยืนอยู่ด้วยเฉยๆ ไม่ได้พูดจาหรือแสดงอาการใดที่เป็นการร่วมกระทำกับจำเลยที่ 1 และคนอื่น ๆ จึงยังไม่พอฟังว่าจำเลยที่ 2 ได้ตั้งใจร่วมกับจำเลยที่ 1 และ ค.ที่จะยิงผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2643/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าร่วมเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญา: ผู้เสียหายต้องได้รับอันตรายโดยตรง
โจทก์ร่วมที่ 1 มิใช่ผู้เสียหายในความผิดต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ซึ่งเป็นความผิดต่อรัฐ ทั้งข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าโจทก์ร่วมที่ 1 ได้รับอันตรายแก่กายจากการกระทำความผิดของจำเลยแต่อย่างใด คงมีแต่โจทก์ร่วมที่ 2 เท่านั้น ที่ได้รับอันตรายสาหัส โจทก์ร่วมที่ 1 จึงมิใช่ผู้เสียหายในความผิดตาม ป.อ. มาตรา 300 ด้วย จึงไม่อาจเข้าร่วมเป็นโจทก์ในคดีนี้ได้ แต่ศาลล่างทั้งสองมิได้ยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของโจทก์ที่ 1 ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225