คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เข้าใจได้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายพฤติการณ์การกระทำความผิดเพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันลักยาปราบวัชพืช15 ลัง ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นจำเลยกับพวกร่วมกันรับของโจรยาปราบวัชพืช 13 ลัง ของผู้เสียหายไว้ คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวมิได้มีข้อความใดระบุยืนยันหรือทำให้เข้าใจได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรเลยเพียงแต่บรรยายข้อเท็จจริงที่ปรากฏเพื่อให้ศาลวินิจฉัยเลือกลงโทษตามที่ศาลจะฟังข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานของโจทก์ คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวจึงเป็นฟ้องที่บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและราย-ละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องวันกระทำผิดไม่ชัดเจนเพียงใด จำเลยยังเข้าใจได้ ถือใช้ได้
บรรยายฟ้องว่า เหตุเกิดประมาณต้นเดือนกันยายน 2532 เวลากลางวันวันใดไม่แน่ชัดนั้น ในชั้นพิจารณาโจทก์ก็นำสืบเกี่ยวกับวันเกิดเหตุเช่นเดียวกับที่กล่าวในฟ้อง จำเลยเองก็นำสืบอ้างฐานที่อยู่แสดงว่าไม่ได้หลงข้อต่อสู้แต่อย่างใด จึงเป็นการบรรยายฟ้องเกี่ยวกับวันกระทำความผิดพอที่จำเลยจะเข้าใจได้แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1171/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในชั้นยึดทรัพย์: ฟ้องสมบูรณ์เมื่อความเท็จเป็นที่เข้าใจได้
ในคดีเบิกความเท็จ คำเบิกความของจำเลยในชั้นไต่สวนคำร้องขอให้ยึดทรัพย์ก่อนพิพากษาในคดีของศาลแพ่งที่ระบุมาในฟ้อง อันเป็นเหตุให้ศาลแพ่งเชื่อและมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์ไว้ก่อนพิพากษา เป็นคำเบิกความในข้อสำคัญแห่งคดี แม้โจทก์จะเพียงระบุกล่าวข้อความที่จำเลยเบิกความต่อศาลว่า โจทก์ยักย้ายทรัพย์ไปที่อื่น เซ้งร้านให้คนอื่น และโจทก์ไม่มีทรัพย์ที่อื่นอีก ซึ่งเป็นข้อความเท็จ ก็เป็นที่เข้าใจได้ในตัว ไม่จำต้องกล่าวย้ำอีกชั้นหนึ่งว่า ความจริงมิใช่เป็นดังที่จำเลยเบิกความ ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาโดยไม่ระบุประมาท แต่ศาลเข้าใจได้ว่าจำเลยประมาท ฟ้องชอบด้วยกฎหมาย
บรรยายฟ้องว่าจำเลยสมคบกันใช้ไฟจุดเผาป่าในที่ดินของจำเลยเองแล้วไม่ระมัดระวังดูแลให้ดี ไฟได้ไหม้ลุกลามไปติดสวนของนางบุญ เป็นเหตุให้ต้นผลไม้ต่างๆ ของนางบุญ เสียหาย ดังนี้ ถึงแม้ในฟ้องไม่ได้ระบุว่าจำเลยกระทำโดยประมาท ก็พอเข้าใจได้ในตัวว่าจำเลยกระทำโดยประมาท เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแจ้งความเท็จ: การระบุเวลาไม่จำเป็นหากเข้าใจได้ตามบริบท
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานที่ดินในการร้องขอโอนทะเบียนรับมรดกที่ดินและเรื่องกล่าวถึงการจำนองที่ดินซึ่งจะต้องทำต่อเจ้าพนักงานที่ดินตามเวลาราชการนั้น แม้โจทก์จะบรรยายระบุถึงวันเดือนปีที่จำเลยกระทำผิดมิได้ระบุเวลากลางวันหรือกลางคืนด้วยก็ย่อมเข้าใจได้ว่า เวลาราชการของเจ้าพนักงานที่ดินตามปกติ ก็ต้องเป็นเวลากลางวัน จำเลยย่อมเข้าใจข้อหาในเรื่องเวลาได้ดี ไม่มีทางให้เข้าใจผิดหลงฟ้องดังกล่าว จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์พอเพียงตามความประสงค์ของกฎหมายแล้ว (อ้างฎีกาที่868,869/2494,101/2495)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1114/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ไม่เคลือบคลุม แม้ไม่ได้ระบุวันเดือนปี หากมีพฤติการณ์ต่อเนื่องเป็นที่เข้าใจได้
โจทก์บรรยายว่า ให้จำเลยอาศัยอยู่ในที่ดินของโจทก์บัดนี้ไม่สมัครใจให้อยู่จึงขอให้ขับไล่ ดังนี้แม้จะไม่ได้ระบุวันเดือนใด ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะการให้อาศัยเป็นอาการปฏิบัติสืบเนื่องติดต่อกันมา เป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและลักษณะแห่งประเภทคดีให้เป็นที่เข้าใจได้แล้ว