พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2110/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือและเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย: การตีความ 'เครื่องมือทำการประมง' ตาม พ.ร.บ.การประมง
พ.ร.บ.การประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 4 (3) บัญญัติว่า "เครื่องมือทำการประมง หมายความว่า เครื่องกลไก เครื่องใช้ เครื่องอุปกรณ์ ส่วนประกอบ อาวุธ เสาหลัก หรือเรือ บรรดาที่ใช้ทำการประมง" ดังนั้น เรือยนต์และอวนลากแขกจึงเป็นเครื่องมือทำการประมง เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้ออกประกาศจังหวัดชลบุรี เรื่อง กำหนดห้ามใช้เครื่องมืออวนลากคานถ่างหรืออวนลากแขกที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมงในเขตที่ระบุไว้โดยเด็ดขาด เรือยนต์และอวนลากแขกที่จำเลยใช้ทำการประมงในเขตดังกล่าว จึงเป็นเครื่องมือทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงตามมาตรา 32 (2) ซึ่งต้องริบตามมาตรา 70
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมงผิดกฎหมาย: คำบรรยายฟ้องไม่สอดคล้องกับประกาศกระทรวงเกษตรฯ ทำให้ไม่สามารถลงโทษได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำการประมงโดยใช้เครื่องมือทำการประมงที่ต้องห้ามตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรื่องกำหนดฤดูปลาทูมีไข่และห้ามมิให้ใช้เครื่องมือบางชนิดจับปลาทูและกำหนดขนาดตาของเครื่องมือบางชนิดในฤดูมีปลาทูขนาดเล็ก ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2518 ข้อ 3 แต่ในคำบรรยายฟ้องของโจทก์ปรากฏว่าเครื่องมือที่จำเลยใช้เป็นคนละประเภทกับเครื่องมือที่ระบุห้ามไว้ในประกาศข้อ 3 ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยใช้เครื่องมือตามที่ระบุห้ามไว้ตามประกาศดังกล่าวข้อ 3 ทำการประมงอันจะเป็นความผิดต่อกฎหมายที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2465/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือจากการใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย: ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 32 (2) (4)ให้อำนาจรัฐมนตรีประกาศกำหนดมิให้ใช้เครื่องมือทำการประมงอย่างหนึ่งอย่างใดในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาดและกำหนดวิธีใช้เครื่องมือทำการประมงต่าง ๆ เมื่อรัฐมนตรีได้ประกาศกำหนดเครื่องมือทำการประมงโดยห้ามมิให้ใช้เครื่องมืออวนลากชนิดมีถุงและเครื่องมืออวนรุนหรืออวนถุงทุกขนาดที่ใช้เรือยนต์ทุกชนิดทำการประมงในเขตหรือรัศมีที่ระบุไว้ในการจับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาดเรือยนต์ของกลางที่ใช้ทำการประมงในเขตดังกล่าวที่ใช้กับอวนรุนชนิดมีถุงจึงเป็นเครื่องมือทำการประมงที่ห้ามใช้ตามมาตรา 32 (2)และ 70 จึงต้องริบตามมาตรา 70 กรณีหาอยู่ในบังคับของมาตรา 69แห่งพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยฉบับที่ 2พ.ศ. 2496 มาตรา 10 ที่ให้ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการห้ามใช้เครื่องมือประมงและการริบเครื่องมือตาม พ.ร.บ.การประมง
เครื่องมือที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติการประมง มาตรา 32(2)นั้น จะต้องกำหนดลักษณะของเครื่องมือที่ห้ามใช้เป็นอย่างๆ ไว้ให้รู้ หากนำเครื่องมือนั้นมาใช้ทำการประมง ก็ต้องริบตาม มาตรา70
เมื่อได้กำหนดเครื่องมือที่ให้ใช้ในฤดูปลามีไข่และวางไข่เลี้ยงลูกตามพระราชบัญญัติการประมง มาตรา 32(5)แล้วเครื่องมือทำการประมงอย่างอื่นก็เป็นเครื่องมือที่ต้องห้ามแต่มิใช่เป็นเครื่องมือที่ห้ามใช้ในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด ตาม มาตรา 32(2) เพราะเพียงแต่ห้ามในฤดูปลามีไข่เท่านั้น การจะริบเครื่องมือหรือไม่ จึงอยู่ในดุลพินิจของศาลตามมาตรา 69
เมื่อได้กำหนดเครื่องมือที่ให้ใช้ในฤดูปลามีไข่และวางไข่เลี้ยงลูกตามพระราชบัญญัติการประมง มาตรา 32(5)แล้วเครื่องมือทำการประมงอย่างอื่นก็เป็นเครื่องมือที่ต้องห้ามแต่มิใช่เป็นเครื่องมือที่ห้ามใช้ในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด ตาม มาตรา 32(2) เพราะเพียงแต่ห้ามในฤดูปลามีไข่เท่านั้น การจะริบเครื่องมือหรือไม่ จึงอยู่ในดุลพินิจของศาลตามมาตรา 69
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ศาลยึดความเข้าใจโดยทั่วไปของคำฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้ยออันเป็นเครื่องมือต้องห้ามตามประกาศ ฯลฯ จับปลาน้ำจืดในฤดูปลามีไข่ ขอ ให้โทษ ดังนี้ ย่อมเป็นที่เข้าใจว่า ายอที่จำเลยใช้จับสัตว์น้ำมีขนาดปากกว้างเกินกว่า 2 เมตร เพราะถ้ายอของจำเลย มีขนาดปากแคบกว่านั้น ก็ไม่ผิดกฎหมาย โจทก์คงไม่ฟ้องจำเลยก็เข้าใจฟ้องโจทก์ได้ดี และรับสารภาพตลอดข้อหา มิได้ยกข้อต่อสู้ใด ๆ หาจำเป็นต้องบรรยายลงในฟ้องว่า ยอมีขนาดปากกว้างเท่าใดด้วยไม่ ก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม กฎหมาย./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย การเข้าใจได้ว่าขนาดเครื่องมือเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดถือเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้ยออันเป็นเครื่องมือต้องห้ามตามประกาศ ฯลฯ จับปลาน้ำจืดในฤดูปลามีไข่ขอให้ลงโทษ ดังนี้ ย่อมเป็นที่เข้าใจว่า ยอที่จำเลยใช้จับสัตว์น้ำมีขนาดปากกว้างเกินกว่า 2 เมตร เพราะถ้ายอของจำเลยมีขนาดปากแคบกว่านั้น ก็ไม่ผิดกฎหมาย โจทก์คงไม่ฟ้องจำเลยก็เข้าใจฟ้องโจทก์ได้ดีและรับสารภาพตลอดข้อหา มิได้ยกข้อต่อสู้ใดๆ หาจำเป็นต้องบรรยายลงในฟ้องว่า ยอมีขนาดปากกว้างเท่าใดด้วยไม่ ก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1011-1028/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เครื่องมือประมงในที่สาธารณะ: ลักษณะ 'ประจำที่' ต้องมีหลักฐานชัดเจน
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยใช้เครื่องมือประจำที่ทำการจับสัตว์น้ำในที่สาธารณะประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ปรากฏว่า แพสดุ้งใหญ่ที่จำเลยใช้ทำการจับปลา มีลักษณะเป็นแพถ่อเคลื่อนที่ไปมาได้ เวลาทำการจับปลาตามปกติก็ไม่ต้องลงหลักปัก ผูก ขึงรั้งถ่วง หรือใช้วิธีอื่นให้แพอยู่กับที่ เพราะตามปกติจับปลาในที่น้ำนิ่ง และตามข้อเท็จจริงที่ศาลฟังมาก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ลงหลักปักผูกแพให้อยู่กับที่ในเวลาทำการประมง ในลักษณะอันจะพอให้ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือประจำที่ ดังนี้ คดียังไม่พอจะชี้ขาดว่าจำเลยได้ใช้เครื่องมือประจำที่ ทำการประมงดังฟ้อง ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความข้อกำหนดในฟ้องและประกาศท้ายฟ้องเพื่อกำหนดความผิดฐานใช้เครื่องมือประมงที่ห้าม
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยทำการประมงโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยใช้เครื่องมือที่ห้ามเด็ดขาดตามประกาศท้ายฟ้อง แต่เมื่อปรากฎว่าตามประกาศท้ายฟ้องนั้นมิได้มีกำหนดห้ามเครื่องมือที่อ้างนั้น ว่าเป็นเครื่องมือที่ห้ามเด็ดขาด ดังนี้แม้จำเลยจะรับสารภาพตามฟ้อง ก็จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานใช้เครื่องมือที่ห้ามโดยเด็ดขาดไม่ได้ เพราะต้องถือประกาศท้ายฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องด้วยจำเลยจึงคงมีความผิดตาม พ.ร.บ.การประมง 2490 มาตรา 18-62 ไม่ใช่ผิดตามมาตรา 32-65 ฉะนั้นการริบเครื่องมือของกลางจึงอยู่ในดุลยพินิจของศาลตามมาตรา 69
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจรัฐมนตรีในการห้ามใช้เครื่องมือประมงและการใช้ดุลยพินิจของศาลในการริบของกลาง
พ.ร.บ.การประมง 2490 มาตรา 30(2) ให้อำนาจรัฐมนตรีหรือข้าหลวงประจำจังหวัดโดยอนุมัติรัฐมนตรีที่จะกำหนดมิให้ใช้เครื่องมือทำการประมงอย่างหนึ่งอย่างใด ในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด ถ้าผู้ใดใช้เครื่องมือที่ห้ามนั้นทำการประมงก็ย่อมมีผิด และถูกริบเครื่องมือนั้นโดยศาลจะใช้ดุลยพินิจไม่ริบ ไม่ได้
แต่ถ้ารัฐมนตรีประกาศห้ามมิให้ทำการประมงด้วยเครื่องมือใดใดในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด เว้นแต่เครื่องมือตามที่กำหนดไว้ในประกาศนั้น ดังนี้ ประกาศมิได้ระบุชื่อเครื่องมือชะนิดใดที่ห้ามโดยเด็ดขาดไว้ ฉะนั้นเมื่อเกิดการกระทำผิดตามประกาศนี้ขึ้น ศาลก็ย่อมใช้ดุลยพินิจไม่ริบเครื่องมือนั้นได้ตามความในมาตรา 69 แห่งพ.ร.บ.การประมง 2490
แต่ถ้ารัฐมนตรีประกาศห้ามมิให้ทำการประมงด้วยเครื่องมือใดใดในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด เว้นแต่เครื่องมือตามที่กำหนดไว้ในประกาศนั้น ดังนี้ ประกาศมิได้ระบุชื่อเครื่องมือชะนิดใดที่ห้ามโดยเด็ดขาดไว้ ฉะนั้นเมื่อเกิดการกระทำผิดตามประกาศนี้ขึ้น ศาลก็ย่อมใช้ดุลยพินิจไม่ริบเครื่องมือนั้นได้ตามความในมาตรา 69 แห่งพ.ร.บ.การประมง 2490
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจรัฐมนตรีในการห้ามใช้เครื่องมือประมงและการใช้ดุลพินิจของศาลในการริบของกลาง
พระราชบัญญัติการประมง 2490 มาตรา 30(2) ให้อำนาจรัฐมนตรีหรือข้าหลวงประจำจังหวัดโดยอนุมัติรัฐมนตรีที่จะกำหนดมิให้ใช้เครื่องมือทำการประมงอย่างหนึ่งอย่างใดในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด ถ้าผู้ใดใช้เครื่องมือที่ห้ามนั้นทำการประมงก็ย่อมมีผิด และถูกริบเครื่องมือนั้นโดยศาลจะใช้ดุลพินิจไม่ริบไม่ได้
แต่ถ้ารัฐมนตรีประกาศห้ามมิให้ทำการประมงด้วยเครื่องมือใดใดในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาดไว้ เว้นแต่เครื่องมือตามที่กำหนดไว้ในประกาศนั้น ดังนี้ ประกาศมิได้ระบุชื่อเครื่องมือชนิดใดที่ห้ามโดยเด็ดขาด ฉะนั้นเมื่อเกิดการกระทำผิดตามประกาศนี้ขึ้น ศาลก็ย่อมใช้ดุลพินิจไม่ริบเครื่องมือนั้นได้ตามความ ในมาตรา 69 แห่งพระราชบัญญัติการประมง 2490
แต่ถ้ารัฐมนตรีประกาศห้ามมิให้ทำการประมงด้วยเครื่องมือใดใดในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาดไว้ เว้นแต่เครื่องมือตามที่กำหนดไว้ในประกาศนั้น ดังนี้ ประกาศมิได้ระบุชื่อเครื่องมือชนิดใดที่ห้ามโดยเด็ดขาด ฉะนั้นเมื่อเกิดการกระทำผิดตามประกาศนี้ขึ้น ศาลก็ย่อมใช้ดุลพินิจไม่ริบเครื่องมือนั้นได้ตามความ ในมาตรา 69 แห่งพระราชบัญญัติการประมง 2490